“โค้ชอ๊อต” เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร หัวหน้าโค้ชทีมลูกยางสาวไทย ยอมรับสุดฉุนการ์ดจีนลาก “บุ๋มบิ๋ม” ชัชชุอร โมกศรี ตบสาวดาวรุ่งออกนอกสนาม แต่พร้อมให้อภัยหลังประธานจัดการแข่งขัน และการ์ดคู่กรณีเข้าขอโทษที่ทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ
ภายหลังจากทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย สามารถเอาชนะ ทีมไต้หวัน 3 เซตรวด พร้อมกับคว้าอันดับ 3 จากการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2015 ที่เมืองเทียนจิน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน มาครอง เมื่อช่วงเย็นวันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม 2558
อย่างไรก็ตาม เกิดความวุ่นวายตามมาเมื่อ ชัชชุอร โมกศรี นักวอลเลย์บอลสาวดาวรุ่งทีมชาติไทย เดินนำใบสถิติข้อมูลการแข่งขันไปส่งให้ทีมสตาฟฟ์ พร้อมนำน้ำดื่มไปให้กับเจ้าหน้าที่ไทยที่นั่งชมเกมอยู่ด้านหลัง แต่กลับมีการ์ดสนามชาวจีน เดินเข้ามาดึงแขนลากนักกีฬารายนี้ออกจากสนาม
ล่าสุด “โค้ชอ๊อต” เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ออกมาเปิดเผยว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นยอมรับว่าตกใจมาก ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องกับตัวนักกีฬาของเรา ก่อนหน้านี้ เคยเกิดกรณีคล้ายๆ กันกับช่างภาพประจำการแข่งขันรายการนี้ของ เอวีซี ที่เป็นคนไทยมาแล้ว”
“ผมเข้าไปพูดคุยกับฝ่ายจัดการแข่งขันว่าทำไมวันสุดท้ายของการแข่งขันยังเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก ประธานฝ่ายจัดการแข่งขันเขาก็มาขอโทษ ยอมรับว่า การ์ดทำเกินกว่าเหตุ เพราะนี่เป็นนักกีฬามีไอดีการ์ด แต่การ์ดกลับมาถอดออกได้อย่างไร แล้วยังลากนักกีฬาออกไปนอสนามอีก บุ๋มบิ๋มเองก็ยังเด็กมาก ไม่ควรเกิดเรื่องแบบนี้”
“การที่นักกีฬาเอายาดม เอาน้ำไปให้นักกีฬารุ่นพี่ที่มีอาการป่วย แถมยังอยู่ในโซนของนักกีฬาด้วยมันไม่ควรจะเกิดขึ้นเลย แต่เมื่อประธานจัดการแข่งขันยอมรับว่าเป็นความผิดของฝ่ายจัด รวมถึงตัวการ์ดคู่กรณีก็มาขอโทษแล้วด้วย พวกเราในฐานะนักกีฬาก็ต้องรู้แพ้ รู้ชนะ และ รู้อภัย”
“จริงๆ ผมเข้าใจว่าเขาคงเข้มงวดในวันนี้มาก เนื่องมาจากว่าวันนี้มีรองประธานาธิบดีของจีน รวมถึงรัฐมนตรีกีฬา และผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าภาพมาชมหลายท่าน แต่เรื่องแบบนี้ก็ต้องรู้จักแยกแยะ เพราะนี่เป็นนักกีฬามีไอดีการ์ด และอยู่ในโซนของนักกีฬาชัดเจน” กุนซือทีมชาติไทยกล่าว
ด้าน ชัชชุอร โมกศรี ตัวนักกีฬาที่ถูกกระทำยอมรับว่าตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น “ตอนนั้นแค่ต้องการไปเอายาดมให้นักกีฬารุ่นพี่เท่านั้น แต่เจอการ์ดมากระชาก และลากออกจากสนาม พร้อมด้วยถอดไอดีการ์ด รู้สึกตกใจมาก หลังจากนั้นไม่นานมีพี่ที่เป็นคนไทยมาเรียกกลับเข้าสนาม แต่ยังไม่หายจากอาการตกใจกลัว จึงไม่กล้ากลับเข้าสนาม จึงไปนั่งอยู่ในห้องพักนักกีฬา ไม่ได้ถูกกักตัวแต่ยังไม่หายกลัวจริงๆ ส่วนที่ฝ่ายจัดการแข่งขันขอโทษแล้วก็ไม่ติดใจอะไรอีก”
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *