บาร์เซโลนา เข้าป้ายแชมป์ ลา ลีกา สเปน สมัยที่ 23 เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังบุกชนะ แอตเลติโก มาดริด 1-0 จากประตูของ ลิโอเนล เมสซี ดังนั้น “เอเอฟพี สปอร์ตส์” จึงต้องรวบรวม 5 ปัจจัยที่ทำให้แคว้นคาตาลันสามารถทวงตำแหน่งกลับคืนมาได้อีกครั้ง
3 ประสานละติน - บาร์เซโลนา เสริมทัพดึง หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัยมาจาก ลิเวอร์พูล เมื่อซัมเมอร์ด้วยค่าตัว 75 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,750 ล้านบาท) ประสานงาน เมสซี กับ เนย์มาร์ ยิงรวมกันไปทุกรายการ 115 ประตู ถ้านับเฉพาะในลีก 79 ประตูจากทั้งหมด 108 ประตูคิดเป็น 73 เปอร์เซ็นต์ พร้อมมีลุ้นตามรอยฤดูกาล 2008-09 ที่ซิวทริปเปิลแชมป์ภายใต้แกนหลัก เมสซี, เธียร์รี อองรี และ ซามูเอล เอโต
เกมรับ - หลังบ้านของ บาร์เซโลนา ที่ว่ากันว่าเป็นจุดอ่อน แถมซัมเมอร์ที่ผ่านมาเสริมจนถูกวิจารณ์อย่าง 2 เซนเตอร์ฮาล์ฟ โทมัส แฟร์มาเลน กับ เฌเรมี มาติเยอ ทว่าก็เสียไปน้อยที่สุดใน ลา ลีกา สเปน 19 ประตูจาก 37 นัด โดยเป็นการรักษาคลีนชีตถึง 23 นัด ขณะที่ รีล มาดริด เสียไปถึง 35 ประตู
ชาบี กับ อิเนียสตา - 2 จอมทัพ ชาบี เอร์นานเดซ กับ อันเดรส อิเนียสตา ภายใต้ยุคเรืองอำนาจของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ที่คุมกวาด 14 แชมป์ตลอด 4 ปีคือ 2008-2012 แต่ หลุยส์ เอ็นริเก นายใหญ่คนปัจจุบันถิ่น คัมป์ นู เปลี่ยนแปลงให้ทั้งคู่ออกสตาร์ทพร้อมกันเพียงแค่ 4 นัดเท่านั้น
ไร้ปรานี - แชมป์อย่าง บาร์เซโลนา ต้องมีคุณสมบัตินี้ โดยเกมรุกนั้นยิงคู่แข่งต่อเกม 5 ประตูหรือมากกว่าถึง 11 ครั้งจากทั้งหมด 37 แมตช์ มากที่สุดคือการบุกถล่ม กอร์โดบา 8-0 เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนทีมอย่าง กรานาดา, เอลเช, ราโย บาเยกาโน และ เกตาเฟ โดนไปทีมละ 6 ประตู
เมสซี - เอ็นริเก นายใหญ่ บาร์เซโลนา ที่ถูกวิจารณ์อย่างหนัก แต่สไตล์การคุมทัพของเขาคือโรเตชัน ทว่าคนที่ลงเล่นครบ 37 นัด คือ เมสซี โดยมีเพียงแค่ 45 นาทีเท่านั้นที่ไม่ได้มีส่วนร่วมคือเกมเมื่อเดือนมกราคม ซึ่งถูกส่งลงมาช่วงครึ่งหลังก่อนที่จะบุกไปพ่าย รีล โซเซียดัด 0-1
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
