“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เชือด “กุหลาบไฟ” แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส แบบหวุดหวิด 1-0 จากประตูชัยของ ฟิลิปเป คูตินโญ เพลย์เมกเกอร์บราซิเลียน เมื่อคืนวันพุธที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมา เข้ารอบรองชนะเลิศ ศึก เอฟเอ คัพ 2014-15
เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดรีเพลย์
แบล็คเบิร์น 0-1 ลิเวอร์พูล
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือ ลิเวอร์พูล จัดทัพแบบเต็มสูบ ขาดเพียง มาร์ติน สเคอร์เทล, สตีเวน เจอร์ราร์ด และ เอ็มเร คาน ที่ติดโทษแบน ส่ง แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ประสานงาน ฟิลิปเป คูตินโญ และ ราฮีม สเตอร์ลิง ล่าตาข่าย แดนกลางมี จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีม คุมเกมร่วมกับ ลูคัส และ โจ อัลเลน บุกรัง อีวูด ปาร์ก รับมือ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส
เสียงนกหวีดดังขึ้น ลิเวอร์พูล เปิดฉากกดดันทันทีตั้งแต่ต้นเกม ก่อนได้เสียวนาที 18 แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ปั่นไซด์โป้งด้วยซ้าย หน้าเขตโทษด้านขวา ข้ามคานนิดเดียว เกมรับของ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส ยังคงเหนียวแน่น และตอบโต้น่ากลัวนาที 26 เคร็ก คอนเวย์ โยนจากซ้าย จอร์แดน โรดส์ โฉบมาโหม่งเสาแรก ไม่ตรงกรอบ
บดอยู่นาน ทีมจากย่านเมอร์ซีย์ไซด์ น่าขึ้นนำแบบสุดๆ นาที 36 จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เปิดเตะมุมกราบซ้าย ถูกสกัดมาเข้าทาง ฟิลิปเป คูตินโญ ยิงสวนแบบไม่เต็มหลังเท้า แดเนียล สเตอร์ริดจ์ สะกิดเปลี่ยนทาง แต่โดนไม่เต็ม ไซมอน อีสต์วูด นายทวาร ปัดไว้ได้ ครบ 45 นาที เสมอกัน 0-0
ลุยต่อครึ่งหลัง สาวก “กุหลาบไฟ” พลาดโอกาสทอง 2 ครั้งซ้อน เริ่มจากนาที 47 ทอม แคร์นีย์ ส่องไกลระยะประมาณ 25 หลา หน้าเขตโทษด้านซ้าย ซิมง มิโญเลต์ นายทวาร ปัดออกหลัง ถัดมา 1 นาที เบน มาร์แชลล์ โขกลูกเปิดมุมทางขวา มิโญเลต์ พุ่งปัดชนเสาแรก
“หงส์แดง” เอาตัวรอดช่วงวิกฤต และบุกต่อเนื่องจนปลดล็อกสำเร็จนาที 70 ฟิลิปเป คูตินโญ เก็บบอลทางริมเส้นด้านขวา ทำชิ่งกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน หลุดเข้าเขตโทษ แล้วยิงมุมแคบเต็มแรง เช็ดโคนเสาไกล ซุกก้นตาข่าย
ช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย (4 นาที) เจ้าถิ่น หวิดช็อกสาวก “เดอะ ค็อป” จังหวะทุ่มไกลกราบซ้าย บอลกระดอนมาถึง ไซมอน อีสต์วูด นายทวาร กลับตัวยิง แต่ตรงตัว ซิมง มิโญเลต์ จบเกม ลิเวอร์พูล เอาชนะไป 1-0 เข้ารอบตัดเชือก พบ แอสตัน วิลลา ที่สนามเวมบลีย์
รายชื่อ 11 ตัวจริง
แบล็คเบิร์น : ไซมอน อีสต์วูด , อดัม เฮนลีย์ , แม็ทธิว คิลกัลลอน , มาร์คัส โอลส์สัน , อเล็กซ์ บาปติสเต , ทอม แคร์นีย์ , เบน มาร์แชลล์ , ลี วิลเลียมสัน , คอร์รี อีแวนส์ , เคร็ก คอนเวย์ , จอร์แดน โรดส์
ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเลต์ , เกล็น จอห์นสัน , เดยัน ลอฟเรน , มามาดู ซาโก , อัลแบร์โต โมเรโน , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , ลูคัส , โจ อัลเลน , ฟิลิปเป คูตินโญ , แดเนียล สเตอร์ริดจ์ , ราฮีม สเตอร์ลิง
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดรีเพลย์
แบล็คเบิร์น 0-1 ลิเวอร์พูล
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือ ลิเวอร์พูล จัดทัพแบบเต็มสูบ ขาดเพียง มาร์ติน สเคอร์เทล, สตีเวน เจอร์ราร์ด และ เอ็มเร คาน ที่ติดโทษแบน ส่ง แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ประสานงาน ฟิลิปเป คูตินโญ และ ราฮีม สเตอร์ลิง ล่าตาข่าย แดนกลางมี จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีม คุมเกมร่วมกับ ลูคัส และ โจ อัลเลน บุกรัง อีวูด ปาร์ก รับมือ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส
เสียงนกหวีดดังขึ้น ลิเวอร์พูล เปิดฉากกดดันทันทีตั้งแต่ต้นเกม ก่อนได้เสียวนาที 18 แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ปั่นไซด์โป้งด้วยซ้าย หน้าเขตโทษด้านขวา ข้ามคานนิดเดียว เกมรับของ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส ยังคงเหนียวแน่น และตอบโต้น่ากลัวนาที 26 เคร็ก คอนเวย์ โยนจากซ้าย จอร์แดน โรดส์ โฉบมาโหม่งเสาแรก ไม่ตรงกรอบ
บดอยู่นาน ทีมจากย่านเมอร์ซีย์ไซด์ น่าขึ้นนำแบบสุดๆ นาที 36 จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เปิดเตะมุมกราบซ้าย ถูกสกัดมาเข้าทาง ฟิลิปเป คูตินโญ ยิงสวนแบบไม่เต็มหลังเท้า แดเนียล สเตอร์ริดจ์ สะกิดเปลี่ยนทาง แต่โดนไม่เต็ม ไซมอน อีสต์วูด นายทวาร ปัดไว้ได้ ครบ 45 นาที เสมอกัน 0-0
ลุยต่อครึ่งหลัง สาวก “กุหลาบไฟ” พลาดโอกาสทอง 2 ครั้งซ้อน เริ่มจากนาที 47 ทอม แคร์นีย์ ส่องไกลระยะประมาณ 25 หลา หน้าเขตโทษด้านซ้าย ซิมง มิโญเลต์ นายทวาร ปัดออกหลัง ถัดมา 1 นาที เบน มาร์แชลล์ โขกลูกเปิดมุมทางขวา มิโญเลต์ พุ่งปัดชนเสาแรก
“หงส์แดง” เอาตัวรอดช่วงวิกฤต และบุกต่อเนื่องจนปลดล็อกสำเร็จนาที 70 ฟิลิปเป คูตินโญ เก็บบอลทางริมเส้นด้านขวา ทำชิ่งกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน หลุดเข้าเขตโทษ แล้วยิงมุมแคบเต็มแรง เช็ดโคนเสาไกล ซุกก้นตาข่าย
ช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย (4 นาที) เจ้าถิ่น หวิดช็อกสาวก “เดอะ ค็อป” จังหวะทุ่มไกลกราบซ้าย บอลกระดอนมาถึง ไซมอน อีสต์วูด นายทวาร กลับตัวยิง แต่ตรงตัว ซิมง มิโญเลต์ จบเกม ลิเวอร์พูล เอาชนะไป 1-0 เข้ารอบตัดเชือก พบ แอสตัน วิลลา ที่สนามเวมบลีย์
รายชื่อ 11 ตัวจริง
แบล็คเบิร์น : ไซมอน อีสต์วูด , อดัม เฮนลีย์ , แม็ทธิว คิลกัลลอน , มาร์คัส โอลส์สัน , อเล็กซ์ บาปติสเต , ทอม แคร์นีย์ , เบน มาร์แชลล์ , ลี วิลเลียมสัน , คอร์รี อีแวนส์ , เคร็ก คอนเวย์ , จอร์แดน โรดส์
ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเลต์ , เกล็น จอห์นสัน , เดยัน ลอฟเรน , มามาดู ซาโก , อัลแบร์โต โมเรโน , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , ลูคัส , โจ อัลเลน , ฟิลิปเป คูตินโญ , แดเนียล สเตอร์ริดจ์ , ราฮีม สเตอร์ลิง
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *