คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
เรื่องอำนาจในการพิจารณาตัดสินใจเพื่อจะดำเนินการใดๆของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า นั้น มันอยู่ในมือของ คณะกรรมการบริหาร ซึ่งล้วนมาจากการเลือกตั้งทั้งสิ้น โดยในสัดส่วนของ สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย นั้น ผู้ที่จะเข้าไปทำหน้าที่ดังกล่าวจะได้รับการเลือกตั้งใน การประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 26 (26th AFC Ordinary Congress 2015) ที่ กั๊ลฟ์ คอนเว็นเชิ่น เซ็นเท่อร์ (Gulf Convention Centre) ใน กรุงมานามา เมืองหลวงของ บาห์เรน ในวันที่ 30 เมษายนนี้
คณะกรรมการบริหาร ของ ฟีฟ่า (FIFA Executive Committee) ถูกเรียกกันง่ายๆว่า เอ็กซ์โค (ExCo) ประกอบด้วย ประธาน ซึ่งคนปัจจุบันก็คือ โชเซ้ฟ บลั๊ทเท่อร์ (Joseph "Sepp" Blatter) ชาวสวิส จะมาจากการเลือกตั้งในที่ประชุมใหญ่ (FIFA Ordinary Congress) ในปีถัดจากการแข่งขันฟุตบอลโลก ส่วน รองประธาน 8 คน และ กรรมการ อีก 15 คน นั้น ฟีฟ่า แบ่งโควต้าให้แต่ละทวีป คือ โซนอเมริกาใต้ (CONMEBOL) รองประธาน 1 คน กรรมการ 2 คน โซนยุโรป (UEFA) รองประธาน 2 คน กรรมการ 5 คน โซนอัฟริกา (CAF) รองประธาน 1 คน กรรมการ 3 คน โซนอเมริกาเหนือ อเมริกากลาง และแคริบเบียน (CONCACAF) รองประธาน 1 คน กรรมการ 2 คน โซนโอเชินเนีย (OFC) รองประธาน 1 คน และ โซนเอเชีย (AFC) รองประธาน 1 คน กรรมการ 3 คน สำหรับตำแหน่งรองประธานอีก 1 คนสงวนไว้ให้ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (FA) สก๊อทแลนด์ (SFA) เวลส์ (FAW) หรือ อายร์แลนด์เหนือ (IFA)
ในส่วนผู้สมัครชิงตำแหน่งดังกล่าวของทางทวีปเอเชียนั้น ทาง เอเอ๊ฟซี ได้สรุปรายชื่อออกมาเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา โดยตำแหน่ง รองประธาน มีผู้สมัครเพียงคนเดียว ไม่มีใครบังอาจมาขอท้าชิง คือ เช้ค ซัลมาน บิน เอ๊บราฮิม อัล คาลีฟา (Shaikh Salman Bin Ebrahim Al-Khalifa) ประธาน เอเอ๊ฟซี คนปัจจุบัน ชาวบาห์เรน วัย 49 ปี ซึ่งปัจจุบันเป็นกรรมการใน เอ๊กซ์โค อยู่ด้วย
ตำแหน่ง กรรมการ มีผู้สมัครทั้งสิ้น 7 คน เริ่มด้วย เจ้าชาย อับดุลเลาะห์ อัล ฮัจ อิ๊บนี โซลตาน ฮัจ อาฮะหมัด ชาห์ (HRH Prince Abdullah Al-Haj Ibni Sultan Hj Ahmad Shah) รองประธาน เอเอ๊ฟซี ชาวมาเลเซีย วัย 55 ปี ท่านนี้เป็นมกุฎราชกุมารแห่งรัฐปะหัง ด้วยการที่ มาเลเซีย เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ เอเอ๊ฟซี เจ้าชายพระองค์นี้ก็เปรียบเสมือนเจ้าบ้านที่ให้การต้อนรับผู้มาเยือนอยู่เนืองนิจจึงกลายเป็นตัวเก็งที่กุมเสียงโดยเฉพาะจากโซนอาเซี่ยนที่มี 12 ชาติโดยปริยาย เป็นคู่แข่งที่จะแย่งชิงตำแหน่งกับ วรวีร์ มะกูดี จากไทยที่อ้างว่ากุมเสียงจากโซนเดียวกัน
คู่แข่งจากโซนเอเชียตะวันออก มี ชุง มง กยู (Chung Mong-gyu) นักธุรกิจชาวเกาหลี วัย 53 ปี ประธานเชินแดพัฒนา (Hyundai Development Company) เขาเป็นนายกสมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้ และ โคโสะ ทาชิมะ (Kohzo Tashima) อดีตนักเตะทีมชาติญี่ปุ่น วัย 57 ปี ที่เป็นกรรมการบริหาร เอเอ๊ฟซี ทั้ง 2 คนจะต้องแย่งเสียงสนับสนุนจากกลุ่มเอเชียตะวันออกที่มี 10 ชาติ
คู่แข่งจากโซนเอเชียตะวันตก ที่มี 12 ชาติ คือ ซาอุด อัล โมฮันนาดี (Saoud Al Mohannadi) อุปนายกสมาคมฟุตบอลกาตาร์ เช้ค อาฮะหมัด ฟาฮัด อัล อาฮะหมัด อัล ซาบาห์ (Sheikh Ahmad Fahad Al Ahmad Al Sabah) อดีตโค้ชทีมชาติคูเวท วัย 51 ปี เคยเป็นรัฐมนตรีกระทรวงน้ำมัน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานสภาโอลิมปิคแห่งเอเชีย (OCA) และเป็นกรรมการบริหารคณะกรรมการโอลิมปิคสากล (IOC) และ ไซอิด คาลิด ฮาเหม็ด ฮามุด อัล บูไซดี (HE Sayyid Khalid Hamed Hamood Al Busaidi) กรรมการบริหาร เอเอ๊ฟซี ชาวโอมาน ใครมาจากโซนไหนย่อมกุมเสียงจากโซนของตนเอง ถ้ามีมากกว่า 1 คน คะแนนก็คงถูกแบ่งไป แต่ที่สำคัญเขาจะได้เสียงสนับสนุนจากโซนอื่นด้วยจนทำให้ได้รับเลือกหรือไม่ ยังเป็นปัญหา
ผมอยากทิ้งท้ายเอาไว้ว่า จากรายงานค่าใช้จ่ายในการบริหารงานของ เอ๊กซ์โค ในปี 2011 นั้นมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 30 ล้าน สวิสฟร็องก์ ลำพัง เซ็พ บลั๊ทเท่อร์ คนเดียวรับเงินเดือนและโบนัสร่วม 2 ล้าน ส่วนกรรมการบริหารแต่ละคนนั้น เดอะ ซันเดย์ ทายม์ส (The Sunday Times) หนังสือพิมพ์ของอังกฤษรายงานเมื่อเดือนมิถุนายน 2014 ว่า รับเงินเดือนคนละ 200,000 ยูเอส ดอลเล่อร์ส ยิ่งไปกว่านั้น เขาบอกว่า เอ๊กซ์โค ยังได้รับเงินโบนัสจำนวน 4.4 ล้าน ยูเอส ดอลเล่อร์ส จากฟุตบอลโลก 2010 ที่ อัฟริกาใต้ ไปแบ่งกันอีกด้วย เป็น บอร์ดฟีฟ่า มันก็สำคัญตรงเนี้ยะ !
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
เรื่องอำนาจในการพิจารณาตัดสินใจเพื่อจะดำเนินการใดๆของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า นั้น มันอยู่ในมือของ คณะกรรมการบริหาร ซึ่งล้วนมาจากการเลือกตั้งทั้งสิ้น โดยในสัดส่วนของ สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย นั้น ผู้ที่จะเข้าไปทำหน้าที่ดังกล่าวจะได้รับการเลือกตั้งใน การประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 26 (26th AFC Ordinary Congress 2015) ที่ กั๊ลฟ์ คอนเว็นเชิ่น เซ็นเท่อร์ (Gulf Convention Centre) ใน กรุงมานามา เมืองหลวงของ บาห์เรน ในวันที่ 30 เมษายนนี้
คณะกรรมการบริหาร ของ ฟีฟ่า (FIFA Executive Committee) ถูกเรียกกันง่ายๆว่า เอ็กซ์โค (ExCo) ประกอบด้วย ประธาน ซึ่งคนปัจจุบันก็คือ โชเซ้ฟ บลั๊ทเท่อร์ (Joseph "Sepp" Blatter) ชาวสวิส จะมาจากการเลือกตั้งในที่ประชุมใหญ่ (FIFA Ordinary Congress) ในปีถัดจากการแข่งขันฟุตบอลโลก ส่วน รองประธาน 8 คน และ กรรมการ อีก 15 คน นั้น ฟีฟ่า แบ่งโควต้าให้แต่ละทวีป คือ โซนอเมริกาใต้ (CONMEBOL) รองประธาน 1 คน กรรมการ 2 คน โซนยุโรป (UEFA) รองประธาน 2 คน กรรมการ 5 คน โซนอัฟริกา (CAF) รองประธาน 1 คน กรรมการ 3 คน โซนอเมริกาเหนือ อเมริกากลาง และแคริบเบียน (CONCACAF) รองประธาน 1 คน กรรมการ 2 คน โซนโอเชินเนีย (OFC) รองประธาน 1 คน และ โซนเอเชีย (AFC) รองประธาน 1 คน กรรมการ 3 คน สำหรับตำแหน่งรองประธานอีก 1 คนสงวนไว้ให้ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (FA) สก๊อทแลนด์ (SFA) เวลส์ (FAW) หรือ อายร์แลนด์เหนือ (IFA)
ในส่วนผู้สมัครชิงตำแหน่งดังกล่าวของทางทวีปเอเชียนั้น ทาง เอเอ๊ฟซี ได้สรุปรายชื่อออกมาเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา โดยตำแหน่ง รองประธาน มีผู้สมัครเพียงคนเดียว ไม่มีใครบังอาจมาขอท้าชิง คือ เช้ค ซัลมาน บิน เอ๊บราฮิม อัล คาลีฟา (Shaikh Salman Bin Ebrahim Al-Khalifa) ประธาน เอเอ๊ฟซี คนปัจจุบัน ชาวบาห์เรน วัย 49 ปี ซึ่งปัจจุบันเป็นกรรมการใน เอ๊กซ์โค อยู่ด้วย
ตำแหน่ง กรรมการ มีผู้สมัครทั้งสิ้น 7 คน เริ่มด้วย เจ้าชาย อับดุลเลาะห์ อัล ฮัจ อิ๊บนี โซลตาน ฮัจ อาฮะหมัด ชาห์ (HRH Prince Abdullah Al-Haj Ibni Sultan Hj Ahmad Shah) รองประธาน เอเอ๊ฟซี ชาวมาเลเซีย วัย 55 ปี ท่านนี้เป็นมกุฎราชกุมารแห่งรัฐปะหัง ด้วยการที่ มาเลเซีย เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ เอเอ๊ฟซี เจ้าชายพระองค์นี้ก็เปรียบเสมือนเจ้าบ้านที่ให้การต้อนรับผู้มาเยือนอยู่เนืองนิจจึงกลายเป็นตัวเก็งที่กุมเสียงโดยเฉพาะจากโซนอาเซี่ยนที่มี 12 ชาติโดยปริยาย เป็นคู่แข่งที่จะแย่งชิงตำแหน่งกับ วรวีร์ มะกูดี จากไทยที่อ้างว่ากุมเสียงจากโซนเดียวกัน
คู่แข่งจากโซนเอเชียตะวันออก มี ชุง มง กยู (Chung Mong-gyu) นักธุรกิจชาวเกาหลี วัย 53 ปี ประธานเชินแดพัฒนา (Hyundai Development Company) เขาเป็นนายกสมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้ และ โคโสะ ทาชิมะ (Kohzo Tashima) อดีตนักเตะทีมชาติญี่ปุ่น วัย 57 ปี ที่เป็นกรรมการบริหาร เอเอ๊ฟซี ทั้ง 2 คนจะต้องแย่งเสียงสนับสนุนจากกลุ่มเอเชียตะวันออกที่มี 10 ชาติ
คู่แข่งจากโซนเอเชียตะวันตก ที่มี 12 ชาติ คือ ซาอุด อัล โมฮันนาดี (Saoud Al Mohannadi) อุปนายกสมาคมฟุตบอลกาตาร์ เช้ค อาฮะหมัด ฟาฮัด อัล อาฮะหมัด อัล ซาบาห์ (Sheikh Ahmad Fahad Al Ahmad Al Sabah) อดีตโค้ชทีมชาติคูเวท วัย 51 ปี เคยเป็นรัฐมนตรีกระทรวงน้ำมัน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานสภาโอลิมปิคแห่งเอเชีย (OCA) และเป็นกรรมการบริหารคณะกรรมการโอลิมปิคสากล (IOC) และ ไซอิด คาลิด ฮาเหม็ด ฮามุด อัล บูไซดี (HE Sayyid Khalid Hamed Hamood Al Busaidi) กรรมการบริหาร เอเอ๊ฟซี ชาวโอมาน ใครมาจากโซนไหนย่อมกุมเสียงจากโซนของตนเอง ถ้ามีมากกว่า 1 คน คะแนนก็คงถูกแบ่งไป แต่ที่สำคัญเขาจะได้เสียงสนับสนุนจากโซนอื่นด้วยจนทำให้ได้รับเลือกหรือไม่ ยังเป็นปัญหา
ผมอยากทิ้งท้ายเอาไว้ว่า จากรายงานค่าใช้จ่ายในการบริหารงานของ เอ๊กซ์โค ในปี 2011 นั้นมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 30 ล้าน สวิสฟร็องก์ ลำพัง เซ็พ บลั๊ทเท่อร์ คนเดียวรับเงินเดือนและโบนัสร่วม 2 ล้าน ส่วนกรรมการบริหารแต่ละคนนั้น เดอะ ซันเดย์ ทายม์ส (The Sunday Times) หนังสือพิมพ์ของอังกฤษรายงานเมื่อเดือนมิถุนายน 2014 ว่า รับเงินเดือนคนละ 200,000 ยูเอส ดอลเล่อร์ส ยิ่งไปกว่านั้น เขาบอกว่า เอ๊กซ์โค ยังได้รับเงินโบนัสจำนวน 4.4 ล้าน ยูเอส ดอลเล่อร์ส จากฟุตบอลโลก 2010 ที่ อัฟริกาใต้ ไปแบ่งกันอีกด้วย เป็น บอร์ดฟีฟ่า มันก็สำคัญตรงเนี้ยะ !
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
