xs
xsm
sm
md
lg

ชำแหละทีมอังกฤษ ไยล้มเหลวถ้วยยุโรป

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

แมนฯซิตี เจอ บาร์ซา ทำจอดป้าย
เอเยนซี - กลายเป็นประเด็นร้อนของวงการฟุตบอลอังกฤษ เนื่องจากไม่มีสโมสรใดสามารถทะลุเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก โดยถือเป็นหนที่ 2 รอบ 3 ปีหลังสุด

ฤดูกาล 2014-15 น่าจะเป็นปีที่สโมสรอังกฤษทำผลงานได้ดีในถ้วยยุโรป เพราะก่อนหน้านี้แต่ละทีมได้เงินส่วนแบ่งรวยอื้อซ่าจากลิขสิทธิ์ทีวีที่ขายได้สูงเป็นสถิติถึง 5.1 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 255,000 ล้านบาท) แต่ปรากฏว่าเป็นครั้งแรกรอบ 22 ปีที่ถ้วย ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก กับ ยูโรปา ลีก ไร้ตัวแทนผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย

ลิเวอร์พูล ตกรอบแบ่งกลุ่ม แชมเปียนส์ ลีก ก่อนจะไปร่วงรอบ 32 ทีมสุดท้าย ยูโรปา ลีก ขณะที่ เชลซี, อาร์เซนอล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี ไม่ผ่านรอบ 16 ทีมสุดท้าย แชมเปียนส์ ลีก เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทั้งที่ปี 2007, 2008 และ 2009 มี 3 ทีมทะลุเข้าถึงรอบเซมิ-ไฟนัล แถมปี 2005-2009 มีตัวแทนทะลุเข้าถึงรอบชิงติดต่อกันเลยทีเดียว

เกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง เชลซี คือ ทีมที่มีโอกาสสูงที่สุดในการกรุยทางสู่ด่านต่อไป เมื่อเล่นในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ 90 นาทีเสมอ 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษ 120 ถูก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง บุกมาบดเจ๊า 2-2 ทั้งที่ทีมเยือนเล่น 10 คน รวม 2 นัด 3-3 ทีมจากฝรั่งเศสจึงเข้ารอบไปด้วยกฎประตูทีมเยือน

ศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก 6 ปีหลังมานี้ สโมสรอังกฤษต้องตะเกียกตะกายอย่างหนักในการทำผลงานให้ดี ส่วนทางออกที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงก็คือ “เบรกหนีหนาว” เหมือนลีกชั้นนำอื่นๆ ของยุโรป เพราะเหนืออื่นใดก็คือความล้าที่ต้องลงเตะถี่ยิบ ปีนี้ เชลซี ลงเล่นไปแล้ว 44 เกม, อาร์เซนอล 45 เกม และ แมนฯซิตี 42 เกม โดย บาเยิร์น มิวนิก แชมป์ บุนเดสลีกา เยอรมนี ได้พัก 41 วัน ระหว่างนั้น แมนฯซิตี ลงเตะ 8 แมตช์ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นอังกฤษก็จะไม่มีแมตช์ “บ็อกซิง เดย์” ช่วงเทศกาลคริสต์มาส อย่างไรก็ตาม โปรแกรมก็จะไปแน่นครึ่งฤดูกาลหลัง เพราะอย่าลืมว่าลีกผู้ดีมีฟุตบอลถ้วย 2 รายการ

ประเด็นนี้ มิเชล พลาตินี ประธานสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟา) ให้คำนิยามฟุตบอลอังกฤษที่เตะช่วงหน้าหนาวจนเป็นธรรมเนียมไปแล้วว่า “พวกเขาจะเป็นสิงโตในช่วงฤดูหนาว แต่จะกลายเป็นแกะช่วงฤดูใบไม้ผลิ”

มานูเอล เปเยกรินี กุนซือ แมนฯซิตี ที่นัดสองรอบ 16 ทีมสุดท้ายบุกเสียท่า บาร์เซโลนา 0-1 รวม 2 นัดร่วงไปด้วยสกอร์รวมแพ้ 1-3 กล่าวว่า “การเตะรอบนี้ถือว่าลำบากมากสำหรับสโมสรอังกฤษ เพราะทีมจากลีกอื่นจะได้เปรียบมากกว่าจากการพักช่วงหน้าหนาว บ็อกซิง เดย์ ไม่ใช่ประเพณีที่น่าชื่นชมนัก ถ้าคุณรับมือ 9 เกมเดือนธันวาคม กับ 9 เกมเดือนมกราคมไม่ได้ก็ตาย”

อย่างไรก็ตาม สตีเวน เจอร์ราร์ด กองกลางกัปตัน ลิเวอร์พูล ที่เคยตกรอบ 4 ยูฟา คัพ เมื่อปี 2004 แต่ฤดูกาลถัดมาได้แชมป์ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก มองเป็นเรื่องธรรมดา “ผมคิดแค่ว่าปีนี้ไม่ใช่ปีของทีมอังกฤษ ไม่ถือเป็นหายนะ ถือว่าเกิดขึ้นได้กับการร่วงอย่างรวดเร็ว เพียงแค่เราทำผลงานกันได้ไม่ดีพอเท่านั้นเอง”

อีกหนึ่งปัจจัยต้องยอมรับคือการขาดขาประจำอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะภายใต้ยุคคุมทัพของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไม่ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายเพียงแค่ 5 จาก 17 ครั้ง นอกจากนี้ ยังเข้ารอบตัดเชือก 7 ครั้ง และรอบชิง 4 ครั้ง จนกระทั่งนายใหญ่ชาวสกอตวางมือเมื่อปี 2013 ฤดูกาลที่แล้วเลยวืดโควตา ส่วน อาร์เซนอล กับ แมนฯซิตี จะหวังให้ถึงรอบชิงยังไม่ใกล้เคียง ด้าน เชลซี เคยเป็นแชมป์เมื่อปี 2012

เมื่อเป็นเช่นนี้ในอนาคตโควตา ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก 4 ที่นั่งของอังกฤษจะถูกลดลงหรือไม่ โดยปีที่แล้วมีเพียง แมนฯยู กับ เชลซี ที่เข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่ค่าสัมประสิทธิ์ของเมืองผู้ดีนั้นยังหายห่วงอยู่ที่ 2 ตามหลัง สเปน และนำหน้า เยอรมนี กับ อิตาลี

อย่างไรก็ตาม ระหว่างฤดูกาล 2004-05 ถึง 2008-09 ก็เคยไม่มีทีม เยอรมนี เข้าถึงรอบ 4 ทีมสุดท้าย ต่างจากอังกฤษที่คิดเป็น 60 เปอร์เซ็นต์ที่ได้เข้ารอบเซมิ-ไฟนัล รีล มาดริด แชมป์ปีที่แล้วและแชมป์สูงสุด 10 สมัยเข้ารอบรองชนะเลิศ 4 ปีหลังสุด ด้าน บาร์เซโลนา เข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายถึง 5 ครั้งใน 6 ปีหลังสุด และได้แชมป์ปี 2009 กับ 2011 ดังนั้น ช่วงนี้โมเมนตัมอาจจะเปลี่ยนมาเป็นยุคทองของสโมสรจากสเปนและเยอรมนีแล้วก็เป็นได้

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


อาร์เซนอล เสียท่าแก่ โมนาโก
เชลซี ตัวเยอะกว่ายังบดไม่ลง
ลิเวอร์พูล ตกรอบ ยูโรปา ลีก
กำลังโหลดความคิดเห็น