xs
xsm
sm
md
lg

บุรีรัมย์ ฟัด กัมบะ วันนี้ ไม่เจอหนาวก็เจอฝน / กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน

ถ้ามองกันอย่างผิวเผินโดยดูจากผลการแข่งขันของกลุ่ม F ที่แข่งไปแล้วทีมละ 2 นัด ในเมื่อ กัมบะ โอซากะ (Gamba Osaka) แพ้คาบ้านให้ กวางโจว “รวยและแรง” (Guangzhou R&F) ทีมอันดับ 3 จาก ชายนี้ส ซุพเพ่อร์ ลีก (Chinese Super League) และกลับมาจากการเยือน ซ็องนัม เอ๊ฟซี (Seongnam FC) แช้มพ์ เอ๊ฟเอ คัพ จาก เกาหลีใต้ ด้วยมือเปล่า ถึงตอนนี้คะแนนก็ไม่ได้ ประตูก็ไม่มี ในขณะที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สามารถปราบทีมจาก เกาหลีใต้ และ จีน มาได้หมด จนยืนตำแหน่งจ่าฝูง ดังนั้น การบุกไปเยือนทีมบ๊วยของกลุ่ม สัญชาติญี่ปุ่น ก็น่าจะไร้ปัญหา

ทีมญี่ปุ่นที่ว่านี้ เคยคว้าถ้วยเอเชียใบนี้มาได้เมื่อปี 2008 และย้อนกลับไปเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ในสมัยที่ยังเป็นทีมสมัครเล่นและใช้ชื่อ มัตซึชิตะ (Matsushita Electric Industrial Co., Ltd.) โค้ชเฮง วิทยา เลาหกุล ของไทยเราก็เคยไปคุมทีมมาหลายปี แต่ในปัจจุบัน เข้าสู่ยุคของฟุตบอลอาชีพเอเชีย ก็มีพัฒนาการไปไกลแล้ว ฤดูกาล 2014 ที่ผ่านมา กัมบะ คว้าแช้มพ์ในประเทศชุ่ยเลย ทั้ง ลีกสูงสุด (J1 League) ฟุตบอล เอ๊ฟเอ คัพ (The Emperor's Cup) ลีก คัพ (J. League Cup) และ ซุพเพ่อร์ คัพ (Japanese Super Cup) อีกด้วย

แต่สถานการณ์ล่าสุด หลังจากได้ ซุพเพ่อร์ คัพ แช้มพ์แรกก่อนเปิดฤดูกาล เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้แล้ว ผลงานก็ไม่ดีเอาเลย ลีกในประเทศที่เพิ่งเปิดฤดูกาลเมื่อวันที่ 7 มีนาคมนี่เอง แข่งไป 2 นัด เสมอ 1 แพ้ 1 ยืนอยู่อันดับ 13 ของตารางคะแนน อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาพหลังชนฝาในถ้วยเอเชีย เหลือการแข่งขันอีก 4 นัด เป็นการแข่งในบ้านที่ โอซากะ เอ๊กซโป ’70 สเตเดี้ยม (Osaka Expo '70 Stadium) สนามของตัวเองที่มีความจุ 21,000 ที่นั่งอีกเพียง 2 นัด ที่เหลือก็ต้องกลับมาเยือน ปราสาทสายฟ้า ที่ ไอ-โมบาย สเตเดี้ยม และไปเยือน กวางโจว ที่ เยว่ซิ่วชาน สเตเดี้ยม

การจะได้คะแนนเป็นกอบเป็นกำจากการเล่นเป็นทีมเยือนนั้นคงเป็นเรื่องยากที่จะคาดหวัง แต่ในฐานะเจ้าบ้านย่อมมีโอกาสมากกว่า กัมบะ จึงถูกบังคับให้เก็บ 3 คะแนนเต็มในนัดวันนี้อย่างไม่มีทางเลือก ถ้าไม่ได้ตอนนี้ก็น่าจะหมดหนทางไปต่ออย่างเห็นๆ ตามชื่อเพลงดังยุคปี 1960 ของ เอลวิส เพร้สลี่ย์ (Elvis Presley) “อิทส์ นาว ออร์ เนเว่อร์” (It's Now or Never) และนัดนี้ ทีมซามูไร ก็ต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อชัยชนะ อย่างที่สำนวนฝรั่งบอกว่า ฮว้อทเอเว่อร์ อิท เท้คส์ (whatever it takes) นี่จึงเป็นสิ่งที่ไม่ง่ายอย่างที่คิดที่ บุรีรัมย์ ต้องเผชิญ รวมถึงสภาพอากาศที่แม้อาจไม่หนาวนัก แต่คงมีฝนตกลงมา ทำให้เล่นยากขึ้นไปอีกด้วย ซึ่งเจ้าบ้านเป็นเมืองเกาะ น่าจะคุ้นเคยกับการเล่นในสภาพนี้ดีกว่า

ฟุตบอลชิงแช้มพ์สโมสรเอเชีย ฤดูกาลนี้ (2015 AFC Champions League) จัดระบบการแข่งขันแบบฤดูกาล 2014 คือ โซนแขก หรือ โซนตะวันตก แข่งกันเองตั้งแต่แรก ในรอบแบ่งกลุ่ม รอบ 16 ทีม รอบ 8 ทีม รอบรองชนะเลิศ จนเหลือทีมเดียวเข้าไปชิงชนะเลิศ เช่นเดียวกับ โซนตี๋ หรือ โซนตะวันออก ดังนั้น ทีมจากต่างโซนจะมาเจอกันก็ในรอบชิงชนะเลิศเลย แต่การใช้ระบบ เฮ้ด-ทู-เฮ้ด (head-to-head) ปีนี้ เป็นแบบระบบยุโรปอย่างสมบูรณ์แบบ นั่นคือ หาก 2 ทีมหรือมากกว่านั้นมีคะแนนเท่ากัน ต้องดูที่ผลต่างประตูได้-เสีย ประตูที่ทำได้ และประตูในฐานะทีมเยือน ของทีมคู่กรณีตามลำดับเสียก่อน แล้วถ้ายังตัดสินไม่ได้จึงมาดู เฮ้ด-ทู-เฮ้ด เริ่มจากผลต่างประตูได้เสียของนัดที่ทีมคู่กรณีเจอกัน ขั้นต่อไปดูประตูที่ทำได้ของนัดที่ทีมคู่กรณีเจอกัน ถ้ายังไม่รู้ผลก็ดูประตูทีมเยือนของนัดที่ทีมคู่กรณีเจอกัน

ผ่านรอบนี้ไปได้ รอบ 16 ทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ต้องเจอกับทีมในกลุ่ม H ซึ่งไม่ว่าจะเจอกับทีมใด รับรองว่าหนักทั้งสิ้น เพราะเมื่อฤดูกาลก่อน 3 ทีมในกลุ่มนี้ต่างก็ไปไกลถึงรอบ 8 ทีมทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น เอ๊ฟซี โซล (FC Seoul) จาก เกาหลีใต้ ที่ บุรีรัมย์ ยังไม่เคยเอาชนะได้ กวางโจว เอเว่อร์กรานด์ เต๋าเป่า (Guangzhou Evergrande Taobao F.C.) เสือร้ายแห่งจีนใต้ นี่เป็นแช้มพ์เก่า ปี 2013 ทีมยักษ์ใหญ่ ทุนหนา จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของจีนและเว็บไซ้ท์ อาลีบาบา ที่ เซราะกราว เคยบุกไปชนะถึงถิ่นเมื่อฤดูกาล 2012 และที่น่าจะเจอกันแน่ๆคือ เว้สเทิร์น ซิดนี่ย์ วอนเดอเร่อร์ส (Western Sydney Wanderers FC) จาก ออสตราเลีย อันนี้ ทีมแช้มพ์ AFC Champions League ปีที่ผ่านมาครับ

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น