โรแบร์โต ดิ มัตเตโอ เทรนเนอร์ ชาลเก 04 ออกอาการเสียดายสุดๆ หลังลูกทีมงัดฟอร์มสุดยอด แต่ต้องถูก รีล มาดริด แชมป์เก่า เขี่ยตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก เมื่อคืนวันอังคารที่ 10 มีนาคม ที่ผ่านมา
ตัวแทนจาก บุนเดสลีกา เยอรมัน สร้างเซอร์ไพรส์เชือด “ราชันชุดขาว” ถึงรัง ซานติอาโก เบร์นาบิว 4-3 ทว่าบทสรุปกลายเป็น แชมป์ยุโรป 10 สมัย ตีตั๋วสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ สกอร์รวม 5-4
อดีตผู้จัดการทีม เชลซี กล่าว “ทีมของเราทำทุกอย่างแล้วค่ำคืนวันนี้ เราจัดขุมกำลังที่เต็มไปด้วยดาวรุ่งลงสนาม เรากระตุ้นตัวเองได้ดีเพื่อมาคว้าชัยที่มาดริด การยิง 4 ประตู แต่ไม่ได้ผ่านเข้ารอบ เรารู้สึกผิดหวังอย่างยิ่ง”
คลาส แยน ฮุนเตลาร์ ศูนย์หน้าชาวดัตช์ ที่กลับมาเยือนถิ่นเก่า หวิดช็อกเหล่าสาวก “ลอส บลังกอส” หลังทะลวงตาข่ายนาที 84 เท่ากับว่า “ราชันสีน้ำเงิน” ต้องการบวกเพิ่มอีกเพียง 1 ลูก ก็จะผ่านเข้ารอบตามกฎ “อเวย์ โกล (ประตูทีมเยือน)” แต่ทำไม่สำเร็จ
ทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ กุมความได้เปรียบจากเลกแรก 2-0 พิสูจน์อย่างชัดเจนว่า เพียงพอต่อการตบเท้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่กองเชียร์ ที่เบร์นาบิว ไม่สบอารมณ์ผลงานทีมรัก พร้อมส่งเสียงโห่ทิ้งทวนความปราชัย
คริสเตียโน โรนัลโด ปีกจอมสับชาวโปรตุกีส โขกช่วยชีวิตเจ้าถิ่น ที่ออกสตาร์ทอย่างย่ำแย่ ไล่ตีเสมอ “ราชันสีน้ำเงิน” ที่ขึ้นนำ 2 ครั้งช่วงครึ่งแรกจากประตูของ คริสเตียน ฟุชส์ กับ ฮุนเตลาร์ ทำให้ เจ้าตัวครองสถิติดาวซัลโวสูงสุดฟุตบอลสโมสรยุโรป
คาริม เบนเซมา ศูนย์หน้าชาวน้ำหอม ลงมาปิดสกอร์หลังเริ่มต้นครึ่งหลังเพียง 7 นาที ออกนำครั้งแรกของเกม อย่างไรก็ตาม เลรอย ซาเน มิดฟิลด์ดาวรุ่ง ปั่นไซด์สุดสวยทวงคืนทันควัน ก่อน “เดอะ ฮันเตอร์” ปลุกความคึกคัก ทีมจากแคว้นเกลเชนเคียร์เชน ก่อนหมดเวลาเพียง 6 นาที
บิ๊กบอสวัย 44 ปี เผยอีกว่า “มันเป็นเกมที่น่าตื่นเต้นสำหรับผู้ชม เราเล่นได้ดีมาก แต่มันเป็นความรู้สึกแปลกๆ ที่เล่นดีขนาดนี้ และต้องตกรอบท้ายที่สุด เรายิงชนคานจากเกมแรก และครั้งนี้ก็เช่นกัน โชคไม่อยู่ข้างเราวันนี้ ผมต้องการลูกทีมทำอะไรมากกว่าการเล่นฟุตบอล นั่นคือสิ่งที่เราแสดงให้เห็น”
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *