ASTV ผู้จัดการรายวัน – ศึกวอลเลย์บอลไทยแลนด์ลีก ฤดูกาล 2015 ได้แชมป์เป็นที่เรียบร้อยคือ บางกอกกล๊าส วีซี ภายใต้การดูแลของ "โค้ชโจ้" กิตติพงศ์ พรชาติยิ่งชีพ อดีตทีมชาติไทย ถือเป็นที่ฮือฮาไม่น้อยทั้งที่เพิ่งก่อตั้งทีมได้ไม่นานแต่กลับประสบความสำเร็จหยิบแชมป์ได้ทันทีแบบไม่ต้องรอนาน ภายใต้องค์ประกอบที่ครบถ้วนทั้งเงินทุน, ทีมงานและผู้เล่นชั้นดี จนอาจจุดประกายให้ทีมอื่นเดินตามรอยและทำให้ลีกลูกยางไทยบูมสนั่นเหมือนที่ฟุตบอล ไทย พรีเมียร์ ลีก ทำได้มาแล้ว
ย้อนกลับไปเกมเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา “เดอะ แร็บบิท” ซึ่งมีผู้เล่นดีกรีระดับทีมชาติไทยอย่าง “หน่อง” ปลื้มจิตร์ ถินขาว เป็นแกนนำหลักร่วมกับ “ชมพู่” พรพรรณ เกิดปราชญ์ ลงเล่นในบ้านและเก็บชัยชนะเหนือ ศรีสะเกษ วีซี 3-0 เซต ทำให้ทีมมีสถิติลงแข่ง 12 นัด ชนะ 11 แพ้ 1 ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง อยุธยา-เอ.ที.ซี.ซี. ถึง 12 คะแนน และนั่นก็ทำให้ทีมลูกยางสาวบีจี กลายเป็นแชมป์ในที่สุด แม้ยังเหลือการแข่งขันอีก 2 นัดก็ตาม
บางกอกกล๊าส วีซี ประสบความสำเร็จภายในช่วงเวลา 1 ฤดูกาล โดยปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจัยที่ทำให้ บีจี กลายเป็นทีมชั้นนำของวงการในเวลานี้คือองค์ประกอบที่เพียบพร้อมกว่าทีมอื่นๆ ด้วยเงินทุนทำทีมมหาศาล สร้างสนามเหย้าของตัวเอง “บีจี ฮอลล์” รองรับความจุผู้ชมประมาณ 4,000 ที่นั่ง ไฟส่องว่าง 1,500 ลักซ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆภายใต้งบประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งก็ถือว่าคุ้มค่าเพราะแต่ละนัดมีแฟนลูกยางเข้ามาชมกันแบบอุ่นหนาฝาคั่งจนกลายเป็นนรกสำหรับทีมเยือน
ด้านการเสริมผู้เล่น ถือว่าเด็ดดวงเพราะได้ ปลื้มจิตร์ ถินขาว พี่ใหญ่มากประสบการณ์ที่พาทีมชาติไทยสร้างชื่อระดับโลกเป็นแกนหลัก รวมถึง พรพรรณ มือเซตรุ่นน้องทีมชาติ เป็นกำลังเสริม นอกจากนี้ยังมีผู้เล่นมือสนับสนุนชั้นดีอย่าง จุฑารัตน์ มูลตรีพิลา ที่เคยเล่นในลีกอินโดนีเซีย, เหงียน ธิง็อก ฮัว ดาวดังจาก เวียดนาม, คารีนา เคราเซอร์ และ ฑิฆัฆพร ช้างเขียว จนทำให้ทีมมีศักยภาพแข็งแกร่งสู้กับทีมหัวตารางได้อย่างไม่น้อยหน้า
ขณะเดียวกัน อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้คือมันสมองของ “โค้ชโจ้” กิตติพงศ์ เทรนเนอร์ดีกรีอดีตทีมชาติไทยที่สั่งสมประสบการณ์จากการเป็นโค้ชที่เวียดนาม กลับมาทำงานเป็นผู้ฝึกสอนของ บีจี จนทำให้ทีมประสบความสำเร็จ ภายใต้แผนการเล่นที่ทำให้นักกีฬาทุกคนสามารถแสดงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ รวมถึงอัดโปรแกรมเสริมสร้างกล้ามเนื้อจนส่งผลให้ลูกทีมมีความฟิตที่ดีขึ้น พร้อมบดกับคู่ต่อสู้ได้แบบเต็มเวลาไม่มีเหนื่อยหอบ
โดย กิตติพงศ์ กล่าวถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้นภายในเวลารวดเร็วว่า “สำหรับการทำทีม เรามีเป้าหมายที่ชัดเจนมากนับตั้งแต่ย่างก้าวเข้าสู่ ไทยแลนด์ ลีก ปีแรก นั่นคือต้องคว้าแชมป์ให้ได้ ส่วนหนึ่งก็มาจากการที่ต้นสังกัดใช้งบประมาณแบบมหาศาล จึงจำเป็นที่จะต้องทำทุกทางเพื่อประสบความสำเร็จ และสิ่งหนึ่งที่แฟนวอลเลย์บอลชาวไทยเห็นได้ชัดเจนคือเราไม่มีแผนเสริมตัวผู้เล่นที่ฮือฮา หรือดึงตัวมาเพื่อสร้างกระแส แต่เน้นดึงผู้เล่นที่มีความสามารถเข้ากับระบบของทีมเป็นหลักเท่านั้น”
สำหรับโปรแกรมหลังจากนี้ บีจี วีซี จะมีกำหนดเดินทางไปแข่งขันวอลเลย์บอลสโมสรหญิงชิงแชมป์เอเชีย วันที่ 12-20 กันยายน ที่เมืองฮานัม ประเทศเวียดนาม ในฐานะแชมป์จากเมืองไทย โดยนอกจากจะเตรียมทีมชุดหลักไปสู้กับชาติอื่นๆในเอเชีย เพื่อไปให้ถึงรอบรองชนะเลิศตามเป้าหมายแล้ว “โค้ชโจ้” แย้มยังมีแผนดึงผู้เล่นจากทีมอคาเดมี ที่ปลุกปั้นไว้เป็นรากฐานต่อการพัฒนาทีม มาช่วยเป็นกำลังเสริมสำคัญในอนาคตภายภาคหน้าด้วย
หากสโมสรฟุตบอล ชลบุรี เอฟซี เปรียบเสมือนทีมต้นแบบที่สร้างมาตรฐานให้ทีมอื่นๆ เดินตามรอยจนทำให้ ไทย พรีเมียร์ ลีก กลายเป็นลีกฟุตบอลชั้นนำระดับประเทศ ทีมวอลเลย์บอลหญิง บางกอกกล๊าส วีซี ก็อาจเป็นพิมพ์เขียวชั้นดีที่ช่วยให้ลีกลูกยางไทยพัฒนาจนกลายเป็นที่นิยมของคนดูในอนาคต และหากประสบความสำเร็จในทัวร์นาเมนต์เอเชียตามเป้า เชื่อขนมกินว่าคงได้เห็นเด็กๆหันมาเล่นวอลเลย์บอลกันมากขึ้นส่งให้ลีกเติบโตไม่แพ้ฟุตบอลแน่นอน
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *