คอลัมน์ BUZZER BEAT โดย MVP
ตลาดการเทรดของ ศึกบาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ฤดูกาล 2014-15 ต้องยอมรับว่า คึกคักว่าซีซันก่อนมากทีเดียว ซึ่งบางแฟรนไชส์ขยับตัวตั้งแต่ ก่อนหน้าเบรก “ออล-สตาร์” อย่าง คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ขณะที่ โอกลาโอมา ซิตี ธันเดอร์ เองก็ฝุ่นตลบจนถึงวินาทีสุดท้าย พอเสร็จสิ้นกระบวนการแต่งทัพ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ลองดูกันเสียหน่อยว่า ทีมไหนจะกำไร-ขาดทุนกันบ้าง
เริ่มแรกเลย คงต้องไปที่ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ที่ตอนแรกๆ แม้จะมี 3 ซูเปอร์สตาร์อย่าง เลอบรอน เจมส์ , คายรี เออร์วิง และ เควิน เลิฟ แต่ก็ไม่ได้เปรี้ยงปร้างอย่างที่คิด สถิติเพียง 19-16 ก่อนหน้าเทรด เจ.อาร์. สมิธ กับ อิมาน ชัมเพิร์ต จาก นิวยอร์ก นิกส์ มาสู่ทีม และ ทิโมฟีย์ มอซกอฟ เซ็นเตอร์ชาวรัสเซีย จาก เดนเวอร์ นักเก็ตส์ ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม
ดีลดังกล่าวส่ง ทีมของ เดวิด แบล็ตต์ ที่กำลังลุ่มๆ ดอนๆ ไต่อันดับขึ้นมาอยู่ระดับหัวแถวสายตะวันออก โดยเฉพาะการเข้ามาของ สมิธ กลายเป็นอีกหนึ่งทีเด็ดนอกเหนือจาก “บิ๊กทรี” รวมถึง มอซกอฟ ก็มาอุดช่องโหว่ใต้แป้น แอนเดอร์สัน วาเรเจา ที่เจ็บยาวทั้งซีซัน แบ่งเบาภาระ เลิฟ ได้เยอะทีเดียว ปัจจุบันสถิติ “แคฟส์” พุ่งเป็น 35-22 หักลบกันแล้ว นับจากการเทรดครั้งนั้น คาวาเลียร์ส ชนะถึง 16 แพ้แค่ 6 เท่านั้น
ฟากรองแชมป์เก่าอย่าง ไมอามี ฮีต พอปิดตลาดใหม่ๆ กองเชียร์ก็ดูท่าจะคึกคักมาก สำหรับการคว้า โกรัน ดรากิช การ์ดจ่ายชาวสโลวีเนีย พ่วงดีกรีผู้เล่นพัฒนาฝีมือยอดเยี่ยม ปี 2014 เพราะ ฮีต เอง นับตั้งแต่ยุครุ่งเรือง ก็มีปัญหาตำแหน่งนี้อยู่แล้ว ถึงขั้นต้องเอา “คิงเจมส์” หรือ ดเวย์น เหว็ด มาคุมบอลแทน แล้วพอเสีย เลอบรอน ไปให้ แคฟส์ ชัดเจนว่า มาริโอ ชาลเมอร์ส หรือ นอร์ริส โคล พึ่งพาอะไรไม่ค่อยจะได้
ที่น่าเสียดาย คือ ข่าวร้ายที่ตามมา คริส บอช ฟอร์เวิร์ดตัวเก่ง ดันล้มป่วย เนื่องจากมีลิ่มเลือดในปอดปิดเทอมไปเรียบร้อย แทนที่ ฮีต จะมี 5 ตัวจริงอันน่าเกรงขาม (ดรากิช , เหว็ด , ลูโอล เดง , บอช และ ฮัสซาน ไวท์ไซด์) ที่จะขยับขึ้นจากอันดับ 8 ดูเหมือนเป็นงานหนักเสียแล้ว เพราะ “อวตาร” ถือเป็นตัวปิดสกอร์เบอร์ 1 ของทีม แต่ก็ต้องนับว่าเป็นการเกาถูกที่คันเป็นอย่างน้อย
ข้ามมาทางตะวันตก ธันเดอร์ ก็น่าสนใจเช่นกัน นอกเหนือจากได้ ดิออน เวทเตอร์ส มาเติมเต็มส่วนที่ขาด ซึ่ง เจมส์ ฮาร์เดน ทิ้งเอาไว้ พื้นที่ใต้แป้น ยังมี อีเนส แคนเตอร์ ดาวรุ่งจาก ยูทาห์ แจซซ์ มาเสริม เซิร์จ อิบากา ฟอร์เวิร์ด อีกราย แม้อาจผิดหวังที่ชวด บรูก โลเปซ จาก บรูกลิน เน็ตส์ แต่เชื่อเลยว่า น่าจะคุ้มค่ากว่าเยอะทีเดียว
หากเทียบชื่อชั้น แน่นอนว่า โลเปซ ย่อมกินขาด แต่ตลอด 3 ฤดูกาลล่าสุด ลงเล่นเพียง 135 เกม แถมกินค่าจ้างมากกว่า 15 ล้านเหรียญสหรัฐ (450 ล้านบาท) ต่อปี แต่ถ้ามองระยะยาว แคนเตอร์ อาจจะเหนือกว่า ทั้งอายุอานามก็เพิ่งจะ 22 ปี แถมเปิดตัวสวยหรูทำ “ดับเบิล ดับเบิล” 2 เกมติด พบ ชาร์ลอตต์ ฮอร์เน็ตส์ 10 แต้ม 13 รีบาวน์ด และ พบ เดนเวอร์ นักเก็ตส์ อีก 20 แต้ม 12 รีบาวน์ด
สถานการณ์เช่นนี้ ยอมรับว่า “โอเคซี” หากมีขุมกำลังสมบูรณ์เต็มที่ นำโดย เควิน ดูแรนท์ กับ รัสเซลล์ เวสต์บรูก ย่อมท้าชิงพื้นที่เพลย์ออฟเต็มตัว แม้เคยคิดๆ อยู่ว่า น่าจะทิ้งซีซัน แย่งสิทธิ์ดราฟต์เบอร์ 1 แต่ถ้ามีความหวังคว้าไว้ก็ไม่น่าจะผิด แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส กับ เมมฟิส กริซซ์ลีส์ หรือ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ ก็ไม่ใช่งานง่ายๆ ตั้งแต่เปิดฉากโพสต์ซีซันแน่นอน
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
ตลาดการเทรดของ ศึกบาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ฤดูกาล 2014-15 ต้องยอมรับว่า คึกคักว่าซีซันก่อนมากทีเดียว ซึ่งบางแฟรนไชส์ขยับตัวตั้งแต่ ก่อนหน้าเบรก “ออล-สตาร์” อย่าง คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ขณะที่ โอกลาโอมา ซิตี ธันเดอร์ เองก็ฝุ่นตลบจนถึงวินาทีสุดท้าย พอเสร็จสิ้นกระบวนการแต่งทัพ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ลองดูกันเสียหน่อยว่า ทีมไหนจะกำไร-ขาดทุนกันบ้าง
เริ่มแรกเลย คงต้องไปที่ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ที่ตอนแรกๆ แม้จะมี 3 ซูเปอร์สตาร์อย่าง เลอบรอน เจมส์ , คายรี เออร์วิง และ เควิน เลิฟ แต่ก็ไม่ได้เปรี้ยงปร้างอย่างที่คิด สถิติเพียง 19-16 ก่อนหน้าเทรด เจ.อาร์. สมิธ กับ อิมาน ชัมเพิร์ต จาก นิวยอร์ก นิกส์ มาสู่ทีม และ ทิโมฟีย์ มอซกอฟ เซ็นเตอร์ชาวรัสเซีย จาก เดนเวอร์ นักเก็ตส์ ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม
ดีลดังกล่าวส่ง ทีมของ เดวิด แบล็ตต์ ที่กำลังลุ่มๆ ดอนๆ ไต่อันดับขึ้นมาอยู่ระดับหัวแถวสายตะวันออก โดยเฉพาะการเข้ามาของ สมิธ กลายเป็นอีกหนึ่งทีเด็ดนอกเหนือจาก “บิ๊กทรี” รวมถึง มอซกอฟ ก็มาอุดช่องโหว่ใต้แป้น แอนเดอร์สัน วาเรเจา ที่เจ็บยาวทั้งซีซัน แบ่งเบาภาระ เลิฟ ได้เยอะทีเดียว ปัจจุบันสถิติ “แคฟส์” พุ่งเป็น 35-22 หักลบกันแล้ว นับจากการเทรดครั้งนั้น คาวาเลียร์ส ชนะถึง 16 แพ้แค่ 6 เท่านั้น
ฟากรองแชมป์เก่าอย่าง ไมอามี ฮีต พอปิดตลาดใหม่ๆ กองเชียร์ก็ดูท่าจะคึกคักมาก สำหรับการคว้า โกรัน ดรากิช การ์ดจ่ายชาวสโลวีเนีย พ่วงดีกรีผู้เล่นพัฒนาฝีมือยอดเยี่ยม ปี 2014 เพราะ ฮีต เอง นับตั้งแต่ยุครุ่งเรือง ก็มีปัญหาตำแหน่งนี้อยู่แล้ว ถึงขั้นต้องเอา “คิงเจมส์” หรือ ดเวย์น เหว็ด มาคุมบอลแทน แล้วพอเสีย เลอบรอน ไปให้ แคฟส์ ชัดเจนว่า มาริโอ ชาลเมอร์ส หรือ นอร์ริส โคล พึ่งพาอะไรไม่ค่อยจะได้
ที่น่าเสียดาย คือ ข่าวร้ายที่ตามมา คริส บอช ฟอร์เวิร์ดตัวเก่ง ดันล้มป่วย เนื่องจากมีลิ่มเลือดในปอดปิดเทอมไปเรียบร้อย แทนที่ ฮีต จะมี 5 ตัวจริงอันน่าเกรงขาม (ดรากิช , เหว็ด , ลูโอล เดง , บอช และ ฮัสซาน ไวท์ไซด์) ที่จะขยับขึ้นจากอันดับ 8 ดูเหมือนเป็นงานหนักเสียแล้ว เพราะ “อวตาร” ถือเป็นตัวปิดสกอร์เบอร์ 1 ของทีม แต่ก็ต้องนับว่าเป็นการเกาถูกที่คันเป็นอย่างน้อย
ข้ามมาทางตะวันตก ธันเดอร์ ก็น่าสนใจเช่นกัน นอกเหนือจากได้ ดิออน เวทเตอร์ส มาเติมเต็มส่วนที่ขาด ซึ่ง เจมส์ ฮาร์เดน ทิ้งเอาไว้ พื้นที่ใต้แป้น ยังมี อีเนส แคนเตอร์ ดาวรุ่งจาก ยูทาห์ แจซซ์ มาเสริม เซิร์จ อิบากา ฟอร์เวิร์ด อีกราย แม้อาจผิดหวังที่ชวด บรูก โลเปซ จาก บรูกลิน เน็ตส์ แต่เชื่อเลยว่า น่าจะคุ้มค่ากว่าเยอะทีเดียว
หากเทียบชื่อชั้น แน่นอนว่า โลเปซ ย่อมกินขาด แต่ตลอด 3 ฤดูกาลล่าสุด ลงเล่นเพียง 135 เกม แถมกินค่าจ้างมากกว่า 15 ล้านเหรียญสหรัฐ (450 ล้านบาท) ต่อปี แต่ถ้ามองระยะยาว แคนเตอร์ อาจจะเหนือกว่า ทั้งอายุอานามก็เพิ่งจะ 22 ปี แถมเปิดตัวสวยหรูทำ “ดับเบิล ดับเบิล” 2 เกมติด พบ ชาร์ลอตต์ ฮอร์เน็ตส์ 10 แต้ม 13 รีบาวน์ด และ พบ เดนเวอร์ นักเก็ตส์ อีก 20 แต้ม 12 รีบาวน์ด
สถานการณ์เช่นนี้ ยอมรับว่า “โอเคซี” หากมีขุมกำลังสมบูรณ์เต็มที่ นำโดย เควิน ดูแรนท์ กับ รัสเซลล์ เวสต์บรูก ย่อมท้าชิงพื้นที่เพลย์ออฟเต็มตัว แม้เคยคิดๆ อยู่ว่า น่าจะทิ้งซีซัน แย่งสิทธิ์ดราฟต์เบอร์ 1 แต่ถ้ามีความหวังคว้าไว้ก็ไม่น่าจะผิด แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส กับ เมมฟิส กริซซ์ลีส์ หรือ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ ก็ไม่ใช่งานง่ายๆ ตั้งแต่เปิดฉากโพสต์ซีซันแน่นอน
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
