xs
xsm
sm
md
lg

อาถรรพ์เพลย์ออฟ ACL / ชมณัฐ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ “TIMEOUT” โดย “ชมณัฐ”

และแล้ว ชลบุรี เอฟซี กับ บางกอกกล๊าส เอฟซี สองตัวแทนจากประเทศไทย ก็ไปไม่ถึงฝันจอดป้ายเพียงรอบเพลย์ออฟ รอบ 3 ชวดตั๋วรอบแบ่งกลุ่ม เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก 2015 ไปอย่างน่าเสียดาย และนับเป็นอีกครั้งที่สโมสรจากไทยลีกต้องร่วงตกรอบก่อนถึงสมรภูมิจริง

นับตั้งแต่ที่สหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย หรือ “เอเอฟซี” เพิ่มความเข้มข้นให้กับศึกฟุตบอลชิงถ้วยสโมสรเอเชีย “เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก” ด้วยการเพิ่มระบบเพลย์ออฟ คัดหาตัวแทนทีมแชมป์จากชาติที่แรงกิงต่ำเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มเมื่อปี 2009 มีสโมสรจากไทยทีมเดียวที่สามารถฝ่าด่านหินในรอบนี้ได้นั่นก็คือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในปี 2013 ส่วนที่เหลือพ่ายเรียบ ไล่ตั้งแต่ การไฟฟ้า (2009) เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด (2010, 2011, 2014) ชลบุรี เอฟซี (2012, 2014, 2015) และ บางกอกกล๊าส เอฟซี (2015)

ซึ่งในกรณีของ “ปราสาทสายฟ้า” ต้องบอกว่าแอบมีโชคช่วยเล็กน้อย เพราะจากเดิมที่ต้องบุกไปเยือน บริสเบน รอร์ ที่ออสเตรเลีย แต่เนื่องด้วยรังเหย้าของเจ้าถิ่นติดปัญหาใช้การไม่ได้ต้องย้ายไปเล่นสนามกลาง แชมป์เอฟเอ คัพ จากไทยจึงอาสาควักกระเป๋ารับหน้าเสื่อให้มาฟาดแข้งที่ ไอ-โมบาย สเตเดียม แทน แล้วด้วยอานิสงส์ของกองเชียร์ก็สามารถยื้อถึงฎีกาเฉือนชนะจุดโทษกรุยทางสู่รอบแบ่งกลุ่มได้อย่างปาฏิหาริย์

นอกจากนี้ สิ่งที่โชคดีอีกหนึ่งอย่างของ บุรีรัมย์ คือ ปีนั้นมีการแข่งขันรอบคัดเลือกเพียงนัดเดียวแล้วรู้ผลเลย (เช่นเดียวกับปี 2012 แต่ ชลบุรี ที่ต้องบุกไปเยือน โปฮัง สตีลเลอรส์ ที่เกาหลีใต้ ต้านความแกร่งเจ้าถิ่นไม่ไหวพ่ายไป 0-3) ส่วนที่เหลือต้องฝ่า 2 ด่าน จึงจะถึงรอบแบ่งกลุ่ม และแม้ในปี 2009 - 2011ตัวแทนจากไทยจะต้องห้ำหั่นแค่กับทีมจากในอาเซียนเท่านั้นแต่ก็ยังไม่สามารถผ่านได้

ขณะที่ในปี 2014 เป็นต้นมา เอเอฟซี ได้จัดระบบแข่งขันใหม่ให้การเพลย์ออฟเข้มข้นสูงยิ่งขึ้น โดยแบ่งเป็น 3 รอบ รอบแรกให้ตัวแทนจากชาติที่มีคะแนนคลับไลเซนซิงต่ำสู้กันเองก่อนเพื่อผ่านเข้าไปเจอทีมจากชาติที่มีคลับไลเซนซิงสูงกว่าที่ยืนรออยู่ในรอบสอง (ตัวแทนจากไทยลงเล่นรอบนี้) เท่านั้นยังไม่พอผู้ชนะจากรอบสองต้องบุกไปเยือนทีมที่อันดับสูงกว่าจาก จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และ ออสเตรเลีย ในด่านสุดท้าย

และก็เป็นไปตามคาดปลาใหญ่กินปลาเล็กไม่มีการเซอร์ไพรส์ใดๆ ทีมจากรอบแรกพ่ายต่อทีมที่รออยู่ในรอบสองหมดเกลี้ยง ส่วนทีมจากรอบสองที่ลงเล่นมาแล้วหนึ่งเกมก็ไปปราชัยต่อทีมในรอบสามที่เปิดบ้านรออยู่ โดย 2 ปีที่ผ่านมา เพิ่งจะมีเพียง กว่างโจว อาร์แอนด์เอฟ จากจีนทีมเดียวที่ออกสตาร์ทในรอบสองแล้วสามารถบุกไปคว่ำ เซ็นทรัล โคสต์ มาริเนอร์ส ถึงแดนจิงโจ้ ในรอบสามด้วยสกอร์ 3-1 ผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มได้ (เข้าไปอยู่กลุ่มเดียวกับ บุรีรัมย์)

สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าเป็นงานหินของทีมระดับล่าง โดยเฉพาะชาติในอาเซียนที่จะฝ่าฟันไปจนถึงเป้าหมายรอบแบ่งกลุ่ม เพราะนอกจากความห่างชั้นของฝีเท้าแล้วสภาพแวดล้อมยังไม่เอื้ออำนวย โดยปัจจุบันในอาเซียนมีเพียงสโมสรจากไทยและเวียดนามเท่านั้นที่ได้สิทธิ์เข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มอัตโนมัติชาติละ 1 ทีม แต่ในอีกมุมก็ถือเป็นเรื่องดีในการคัดหาทีมที่มีศักยภาพแข็งแกร่งจริงๆ มาชิงชัยกันในรอบแบ่งกลุ่มเพื่อความสูสี

สุดท้ายก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะมีแจ๊คผู้ฆ่ายักษ์เกิดขึ้นในรอบเพลย์ออฟรายการนี้หรือไม่ หรือต้องรอจนกว่าเอเอฟซีจะเปลี่ยนกติกาแข่งขันใหม่ทีมเล็กจึงจะได้ลุ้น

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น