เอเยนซี - ศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก เตรียมกลับมาโม่แข้ง หลังพักเบรกทันทีที่ได้ 16 ทีมสุดท้ายผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาต์ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งมีไฮไลต์มากมายให้ติดตาม อาทิ คู่แชมป์ชนแชมป์, ล้างตาจากการเจอกันเมื่อปีที่แล้ว, ลูกน้องปะทะเจ้านายเก่า, ยักษ์อาจจะล้ม รวมถึง กุนซือคนไหนที่จะก้าวไปสะสมถ้วยแชมป์ใบนี้เพิ่มได้อีก
ถึงคราวชำระแค้น - รอบ 16 ทีมสุดท้ายปีนี้มี 3 คู่ที่เจอกันรอบน็อคเอาต์เมื่อปีที่แล้ว เริ่มจาก ชาลเก 04 ที่ถูก รีล มาดริด แชมป์สูงสุด 10 สมัยจากสเปน ถล่มยับ 2 นัดสกอร์รวม 9-2, บาร์เซโลนา เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี ได้ทั้งเหย้า-เยือนรวม 4-1 และคู่สุดท้ายเป็นรอบก่อนรองชนะเลิศ เชลซี ได้อเวย์โกลก่อนหมดเวลา 3 นาทีจาก เดมบา บา โดย 2 นัดเสมอ 3-3 เขี่ย ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ตกรอบไปอย่างสุดช้ำ
ลูกน้องปะทะนายเก่า - โชเซ มูรินโญ นายใหญ่ เชลซี สมัยไปคุม อินเตอร์ มิลาน ระหว่างปี 2008-2010 ปล่อย ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าทีมชาติสวีเดน ให้ บาร์เซโลนา พร้อมสลับตัวกับ ซามูเอล เอโต ดาวยิงแคเมอรูน ซึ่งแน่นอนว่าแข้ง เปแอสเช ยังคงคาใจที่ไม่ได้รับโอกาสพิสูจน์ตัวเองมากพอ ซึ่งปีที่แล้วหอกวัย 33 ปีก็ลงเล่นทั้ง 2 นัดแต่คายพิษสงไม่ออก นอกจากนี้ยังมี ดาวิด ลุยซ์ กองหลังบราซิล ที่ “เฮียมู” ขายไปเล่นยังถิ่น ปาร์ก เดอส์ แฟรงซ์ เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,500 ล้านบาท) ด้วย
แชมป์ชนแชมป์ - โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เคยเป็นแชมป์ฤดูกาล 1996-97 ซึ่งถือเป็นสมัยเดียวจวบจนทุกวันนี้ ย้อนไปตอนนั้นเอาชนะ ยูเวนตุส 3-1 รอบชิงชนะเลิศ ดังนั้นเจอกันครั้งนี้มันแน่นอน โดย "ม้าลาย" เคยเป็นแชมป์ 2 สมัย 1984-85 กับ 1995-96 อย่างไรก็ตามด้วยฟอร์มตอนนี้หวั่นใจแทน "เสือเหลือง" ที่เพิ่งขยับพ้นโซนแดง บุนเดสลีกา ขณะที่อีกฝ่ายเป็นจ่าฝูง กัลโช เซเรีย อา
หักเหลี่ยมเฉือนคมกุนซือ- นายใหญ่ทั้ง 16 คนมีเพียง 4 คนที่เคยได้สัมผัสแชมป์ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก มาก่อนคือ เป๊ป กวาร์ดิโอลา (บาเยิร์น มิวนิค) คาร์โล อันเชล็อตติ (รีล มาดริด) โชเซ มูรินโญ (เชลซี) และ โรแบร์โต ดิ มัตเตโอ (ชาลเก 04)
โดยมี 2 รายที่ต้องโคจรมาเจอกันคือ รีล มาดริด กับ ชาลเก ที่สำคัญเป็น 2 รายที่เคยคุม เชลซี มาก่อน อันเชล็อตติ นั้นไม่ประสบความสำเร็จถ้วยยุโรปในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ทว่า ดิ มัตเตโอ ทำได้พาสโมสรกรุงลอนดอนเป็นถ้วยใบนี้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ปี 2011-12 ที่สำคัญทั้งคู่เป็นคนอิตาเลียนเหมือนกัน นายใหญ่ "ราชันชุดขาว" ประสบการณ์ข่มกว่าพอตัว เนื่องจากเคยเป็นแชมป์กับ เอซี มิลาน 2 สมัย ปีที่แล้วก็พายักษ์ใหญ่ของสเปนซิวแชมป์สมัยที่ 10
อันเชล็อตติ ยังลุ้นแชมป์สมัยที่ 4 เพื่อแซง บ็อบ เพสลีย์ ของ ลิเวอร์พูล ที่ทำเอาไว้ 3 สมัย (1976-77, 1977-78, 1980-81) นอกจากนี้ยังอาจเป็นคนแรกที่ได้แชมป์ 2 ยุคคือตอนเป็น ยูโรเปียน คัพ กับ แชมเปียนส์ ลีก นอกจากนี้ถ้า กวาร์ดิโอลา ได้แชมป์ก็จะเป็นกุนซือรายที่ 6 ที่ได้แชมป์กับสโมสรที่แตกต่างกันต่อจาก อันเชล็อตติ, จุ๊ปป์ ไฮย์เกส, อ็อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์, เอิร์นส์ ฮัปเปิล และ มูรินโญ
ใครจะแทน "โกเก้" - ปีที่แล้ว แอตเลติโก มาดริด ภายใต้การคุมทัพของ ดิเอโก ซิเมโอเน เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมคว้าแชมป์ ลา ลีกา สเปน รวมถึงเข้าชิง ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ก่อนจะต่อเวลาแพ้ รีล มาดริด 1-4 โดยรอบ 16 ทีมนี้เจองานไม่หนักนักกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน อย่างไรก็ตามไร้ โกเก้ กองกลางทีมชาติสเปน ที่มีอาการบาดเจ็บต้องหายหน้าหายตาไปนานถึง 4 เกม น่าจะเป็น ซาอูล ญีเกวซ ที่มาแทน แต่แน่นอนว่าศักยภาพจะลดลงไปแน่นอน
"ชัคเตอร์" ล้มยักษ์? - ชัคเตอร์ โดเนตส์ค ยักษใหญ่จากยูเครน โคจรมาเจอกับ บาเยิร์น มิวนิค แชมป์ 5 สมัย แน่นอนดูจากเนื้อผ้ามหาอำนาจจากเยอรมนีน่าจะผ่านเข้าไปรอบไปได้ แต่อาจมีเซอร์ไพรส์ ชัคเตอร์ นำทัพมาโดย หลุยซ์ อาเดรียโน กองหน้าบราซิเลียน ที่นำดาวซัลโวขณะนี้ยิงไป 9 ประตู เหนือ ลิโอเนล เมสซี หอก บาร์เซโลนา 8 ประตู จุดเด่นคือกองกลางอย่าง เฟอร์นานโด ที่เป็นหัวใจ มี ดั๊กลาส คอสตา กับ อเล็กซ์ เตเซรา ส่วนปีกอย่าง แบร์นาร์ด ก็อันตรายใช่เล่น
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
