ไนกี้ ผู้นำนวัตกรรมผลิตภัณฑ์กีฬาระดับโลก เปิดตัวรองเท้า ไนกี้ ฟุตบอลเอ็กซ์ สุดยอดนวัตกรรมรองเท้าฟุตซอลรุ่นล่าสุด ที่ได้รับการต่อยอดเทคโนโลยีจาก ไนกี้ มาจิสต้า และ เมอร์คิวเรียล ซูเปอร์ฟลาย
เมื่อปี 2014 ไนกี้ ผู้นำนวัตกรรมผลิตภัณฑ์กีฬาระดับโลก ได้เปิดตัวรองเท้าฟุตบอลรุ่น มาจิสต้า (Magista) และ เมอร์คิวเรียล ซูเปอร์ฟลาย (Mercurial Superfly) ที่ทั้งสองเป็นรองเท้าฟุตบอลรุ่นแรกที่ผสานเทคโนโลยีฟลายนิต (Flyknit) ของไนกี้ และได้รับการออกแบบขึ้นเพื่อมอบความกระชับ ความรู้สึกในการสัมผัสบอล ตลอดจนการยึดเกาะที่เยี่ยมยอดสำหรับการเล่นเฉพาะสไตล์ของผู้เล่นในแต่ละตำแหน่ง โดย มาจิสต้า ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเพลย์เมคเกอร์ผู้สร้างสรรค์เกมที่ยากจะหยุดยั้งได้ ส่วน เมอร์คิวเรียล ได้ถูกสร้างขึ้นสำหรับผู้เล่นที่เน้นความเร็ว
ตลอดปีที่ผ่านมา รองเท้าทั้งสองรุ่นได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันยอดเยี่ยมบนสนามมาแล้วทั่วโลก รวมถึงประตูแห่งชัยชนะในรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของกีฬาชนิดนี้จากฝีเท้าของ มาริโอ เกิทเซ มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมนี แต่ว่าเราไม่ได้เล่นฟุตบอลกันแค่บนสนามหญ้าแบบเต็มทีมฝ่ายละ 11 คนเท่านั้น ยังมีการเล่นแบ่งข้างเป็นทีมเล็กๆ ทั้งบนสนามหญ้าเทียมในเม็กซิโกซิตี บนสนามล้อมลูกกรงในกรุงเบอร์ลิน บนท้องถนนในเซาเปาโล และตามที่อื่นๆ อีกทั่วไปหมด แม้ว่าขนาดและพื้นผิวของสนามที่ใช้เล่นจะมีความหลากหลาย แต่ผู้เล่นก็ยังมีคุณสมบัติเหมือนๆ กัน
ล่าสุด ไนกี้ จึงได้ทำการเปิดตัวรองเท้าฟุตบอลคอลเลคชันใหม่ภายใต้ชื่อ ไนกี้ ฟุตบอลเอ็กซ์ (NikeFootballX) ซึ่งประกอบด้วยรองเท้ารุ่น มาจิสต้าเอ็กซ์ (MagistaX) และ เมอร์คิวเรียลเอ็กซ์ (MercurialX) ที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ พร้อมการออกแบบที่คำนึงถึงสไตล์การเล่นและพื้นผิวสนามในแบบทีมเล็กเป็นสำคัญ
แม็กซ์ บลาว รองประธานของรองเท้าไนกี้ฟุตบอล กล่าวว่า “ไนกี้ ฟุตบอลเอ็กซ์ ผสานเทคโนโลยีรองเท้าระดับสุดยอดของ ไนกี้ เข้ากับองค์ประกอบการออกแบบสำหรับฟุตบอลทีมเล็กโดยเฉพาะ เราได้พบกับผู้เล่นฟุตบอลทีมเล็กทั่วโลก และพวกเขาต่างอยากได้ประสิทธิภาพแบบเดียวกับที่มาจิสต้าและเมอร์คิวเรียลมีให้ แต่ขอให้มีพื้นรองเท้าและสีสันที่เป็นเอกลักษณ์สำหรับรูปแบบเกมของพวกเขาโดยเฉพาะ”
รองเท้า ไนกี้ฟุตบอลเอ็กซ์ ใช้วัสดุ ไนกี้ ไกรนด์ (Nike Grind) เพื่อเสริมความคงทนในส่วนที่เกิดการเสียดสีและมีการฉุดลากสูง นอกจากนี้ยังคำนึงถึงการรองรับแรงกระแทกบนพื้นแข็งอีกด้วย มาจิสต้าเอ็กซ์ มีพื้นรองเท้าชั้นกลางเป็นโฟมลูนาร์ลอน (Lunalon) ที่ให้ความยืดหยุ่นดี ในขณะที่รุ่น เมอร์คิวเรียลเอ็กซ์ ใช้ระบบรองรับแรงกระแทกไฟลอน (Phylon) บางเพรียว รองเท้าทั้งสองรุ่นจะมีให้เลือกได้ทั้งเวอร์ชั่นสำหรับสนามในร่ม (IC) และสนามหญ้าเทียม (TF) โดยไม่เพียงมีพื้นรองเท้าชั้นนอกที่ออกแบบตามพื้นผิวของสนามเท่านั้น แต่ยังเอื้อต่อการการเล่นบอลด้วยฝ่าเท้า ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการเล่นฟุตบอลทีมเล็ก
“การเล่นแบบทีมเล็กได้เป็นรูปแบบที่ดึงให้ผู้เล่นรุ่นใหม่ๆหันมาเล่นกันมากขึ้นเรื่อยๆ และเป็นเกมที่ทำให้พวกเขาโชว์ฝีเท้าได้อย่างเต็มที่” รองประธานของรองเท้าไนกี้ฟุตบอล กล่าวเพิ่มเติม
มาจิสต้าเอ็กซ์ และ เมอร์คิวเรียลเอ็กซ์ ที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่นี้ มีตัวเลขโรมัน “X” อยู่ในชื่อรุ่นเพื่อสื่อถึงจำนวนผู้เล่นทั้งหมดในการเล่นแบบฝ่ายละ 5 คน รองเท้าทั้งสองรุ่นจะเปิดตัวในสีสัน “สตรีท” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากนักฟุตบอลที่ทีมออกแบบของไนกี้ได้พบ ซึ่งพวกเขาเล่นกันในตอนกลางคืนใต้แสงไฟถนน รองเท้ามีลายกราฟิกรูปทรงเรขาคณิตสีดำสเตลธ์แบล็ค (Stealth Black) ที่สะท้อนแสงได้เมื่อต้องแสงไฟ
สำหรับเมอร์คิวเรียลเอ็กซ์ และ มาจิสต้าเอ็กซ์ จะเริ่มวางจำหน่ายในราคา 5,900 บาท ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2558 ที่ร้าน ร้านอาริ ฟุตบอลคอนเซ็ปต์สโตร์ สาขาสยาม สาขาบางกะปิ สาขาระยอง สาขาขอนแก่น สาขาฟิวเจอร์พาร์ค สาขาแพรอท ร้านไนกี้ สาขา เอสคิววัน สาขาสยามดิสคัฟเวอรี่ ร้านซูเปอร์สปอร์ต สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ สาขาลาดพร้าว และ สาขาปิ่นเกล้า หรือติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com\nikefootballTH
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *