คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
ก็ว่าจะจัดการแข่งขันกันตั้งแต่ต้นปี 2557 เตรียมการกันมาตั้งแต่ปลายปี 2556 แต่ดันมีเหตุการณ์ทางการเมืองยืดเยื้อยาวนาน ฟุตบอลประเพณี 2 สถาบันจึงต้องของดไปก่อน แล้วเมื่อการชุมนุมได้แยกย้ายสลายตัวไป งานฟุตบอลประเพณี จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 70 จึงได้กำหนดจัดขึ้นในปีนี้แทน บางอย่างที่ง้างกันมาจากปีโน้นก็ถูกนำมารวมผสมกันในปีนี้ด้วย
ผู้นำเชียร์ ซึ่งนับว่าเป็นสุดยอดสีสันอย่างหนึ่งของงานนี้ตามปกติทั้ง จุฬาฯ และ ธรรมศาสตร์ ต่างก็จะมีฝ่ายละ 2 ทีม นั่นคือ ผู้นำเชียร์ปีปัจจุบัน กับ ปีที่แล้วซึ่งถือเป็นพี่เก่ามาโชว์ให้รุ่นน้องได้ชม แต่เนื่องจากหนที่แล้วซ้อมฟรี หนนี้จึงมี ผู้นำเชียร์ถึง 3 ทีม ว่ากันแค่ของ จุฬาฯ ครั้งที่ 69 ก็มีหญิง 7 ชาย 5 ครั้งที่ 70 ที่ไม่ได้จัดการแข่งขัน หญิง 6 ชาย 5 และครั้งที่ 70 ที่กำลังจะจัดขึ้น หญิง 7 ชาย 6 รวมเป็น 36 ชีวิตเข้าไปแล้ว มากมายกว่าปีอื่นๆ
ส่วนรูปแบบ แนวทาง ของชุดจะเป็นแนวใดขออุบไว้ให้ไปเห็นพร้อมกันในวันงานครับ เอาเป็นว่า รุ่นพี่เก่านั้นสวมชุดเดียว แต่รุ่นปัจจุบันนั้นเขามักจะมีชุดให้สวมคนละ 2 ชุด คล้ายเจ้าบ่าว เจ้าสาวที่ต้องมีทั้งชุดกลางวัน ชุดกลางคืน แล้วค่าตัดก็ต้องแพงหลายพันบาททีเดียวครับ
ในปีนี้ ธรรมศาสตร์ ขอให้ทาง จุฬาฯ เป็นเจ้าภาพอีกเพื่อทดแทนการวืดงานปีที่แล้ว แนวคิดของปีนี้คือ “รู้รับ รู้ให้ มุ่งไปด้วยกัน สองสถาบัน สมานฉันท์เพื่อชาติ” และมี โครงการเลือดไม่แบ่งสี เพื่อเป็นการบำเพ็ญประโยชน์ที่ดำเนินกันมานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยนิสิต นักศึกษาทั้ง 2 สถาบันร่วมกันบริจาคโลหิตทั่วประเทศ
นอกจากนั้น ขบวนพาเหรดล้อการเมือง การแปรอักษรก็ยังเป็นจุดเด่นที่น่าชมอย่างยิ่ง แต่ละผลงานผลิตออกมาด้วยเทคนิคหลากหลาย ทีเด็ดของแต่ละภาพ แต่ละคำ เป็นการล้อเลียน เหน็บแนม เยาะเย้ยกันเล็กๆ เอาฮา ถึงสะดุ้ง สะเทือน พวกนี้ช่างสรรหาคำฮิตๆ ทันยุค ทันสมัยมาแหย่กัน ให้ผู้ชมได้รับความสนุกสนานอย่างมีสาระบ้าง ขำๆ บ้าง อันนี้ทั้งเรื่องการเมือง และเหน็บกันเองก็มี
สำหรับเกมฟุตบอล ทาง จุฬาฯ ชนะมา 3 หนล่าสุด ตัวนักเตะปีนี้ก็ยังเหนือกว่า มี ปิยะชาติ ถามะพันธ์ จาก บางกอกกล๊าส 2 พี่น้อง ทาทอง วุฒิชัย จาก เมืองทองฯ ชัยณรงค์ จาก โอสถสภา อดิศักดิ์ กานู โอสถสภา อีกคน อดิศักดิ์ ดวงศรี การท่าเรือ กฤษกร เกิดผล ชัยนาท ปกาศิต แสนสุข การท่าเรือ สมปอง สอเหลบ กับ ไพฑูรย์ นนทะดี จาก แบงค็อก ยูไนเต็ด ธีรเทพ วิโนทัย กับ อดุลย์ หมื่นสมาน จาก เพื่อนตำรวจ 2 พี่น้อง ปาภูงา กิตติพล อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด กิตติภูมิ ไทยฮอนด้า แต่ที่ผมอยากให้จับตาเป็นพิเศษคือจอมแฮ็ททริค ฤทธิพร หวานชื่น จามจุรี ยูไนเต็ด โดยมี สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ ผู้อำนวยการสโมสรบางกอกกล๊าส เป็นเฮ้ดโค้ช และ วัชรพงษ์ กล้าหาญ อุบล ยูเอ็มที เป็นโค้ชผู้รักษาประตู
ในขณะที่ฝ่ายธรรมศาสตร์ ก็ได้ปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการเรื่องฟุตบอลไม่น้อย มีการส่งทีม โดม เอฟซี ร่วมแข่งในลีกภูมิภาค ดิวิเชิ่น 2 โซนกรุงเทพมหานครและภาคกลางเป็นปีแรก นักเตะที่น่าสนใจก็มี อภิเชษฐ์ พุฒตาล จาก บีอีซี เทโรศาสน ไกรเกียรติ เบียดตะคุ กับ ณธฤษภ์ ธรรมรสโสภณ จาก นครราชสีมา ชาคริต บัวทอง ชลบุรี อภิภู สุนทรพนาเวศ โอสถสภา ธนัตถ์ วงศุภลักษณ์ เพื่อนตำรวจ รวมทั้ง อัมรินทร์ เยาดำ รชานนท์ ศรีนอก และ วรรณพล ปุษปาคม โดยมี ธวัชชัย ดำรงค์อ่องตระกูล เฮ้ดโค้ชของ ชัยนาท มานำทีมทวงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคืนกลับไป
นี่เป็นงานฟุตบอลประเพณีแห่งเกียรติยศ ศักดิ์ศรี และสามัคคีที่เริ่มจัดกันตั้งแต่ปี พ.ศ. 2477 และเวียนกลับมาอีกเป็นหนที่ 70 ในวันเสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์นี้ พี่เก่า นิสิตและนักศึกษาเลือดสีชมพูและเหลือง-แดง รวมทั้งแฟนบอลเข้าชมได้ที่ สนามศุภชลาศัย กรีฑาสถานแห่งชาติ เริ่มกันตั้งแต่เวลา 14.00 น. ใครไม่ไปที่สนามก็เปิด ช่องหอยม่วง รับชมได้ครับ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
ก็ว่าจะจัดการแข่งขันกันตั้งแต่ต้นปี 2557 เตรียมการกันมาตั้งแต่ปลายปี 2556 แต่ดันมีเหตุการณ์ทางการเมืองยืดเยื้อยาวนาน ฟุตบอลประเพณี 2 สถาบันจึงต้องของดไปก่อน แล้วเมื่อการชุมนุมได้แยกย้ายสลายตัวไป งานฟุตบอลประเพณี จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 70 จึงได้กำหนดจัดขึ้นในปีนี้แทน บางอย่างที่ง้างกันมาจากปีโน้นก็ถูกนำมารวมผสมกันในปีนี้ด้วย
ผู้นำเชียร์ ซึ่งนับว่าเป็นสุดยอดสีสันอย่างหนึ่งของงานนี้ตามปกติทั้ง จุฬาฯ และ ธรรมศาสตร์ ต่างก็จะมีฝ่ายละ 2 ทีม นั่นคือ ผู้นำเชียร์ปีปัจจุบัน กับ ปีที่แล้วซึ่งถือเป็นพี่เก่ามาโชว์ให้รุ่นน้องได้ชม แต่เนื่องจากหนที่แล้วซ้อมฟรี หนนี้จึงมี ผู้นำเชียร์ถึง 3 ทีม ว่ากันแค่ของ จุฬาฯ ครั้งที่ 69 ก็มีหญิง 7 ชาย 5 ครั้งที่ 70 ที่ไม่ได้จัดการแข่งขัน หญิง 6 ชาย 5 และครั้งที่ 70 ที่กำลังจะจัดขึ้น หญิง 7 ชาย 6 รวมเป็น 36 ชีวิตเข้าไปแล้ว มากมายกว่าปีอื่นๆ
ส่วนรูปแบบ แนวทาง ของชุดจะเป็นแนวใดขออุบไว้ให้ไปเห็นพร้อมกันในวันงานครับ เอาเป็นว่า รุ่นพี่เก่านั้นสวมชุดเดียว แต่รุ่นปัจจุบันนั้นเขามักจะมีชุดให้สวมคนละ 2 ชุด คล้ายเจ้าบ่าว เจ้าสาวที่ต้องมีทั้งชุดกลางวัน ชุดกลางคืน แล้วค่าตัดก็ต้องแพงหลายพันบาททีเดียวครับ
ในปีนี้ ธรรมศาสตร์ ขอให้ทาง จุฬาฯ เป็นเจ้าภาพอีกเพื่อทดแทนการวืดงานปีที่แล้ว แนวคิดของปีนี้คือ “รู้รับ รู้ให้ มุ่งไปด้วยกัน สองสถาบัน สมานฉันท์เพื่อชาติ” และมี โครงการเลือดไม่แบ่งสี เพื่อเป็นการบำเพ็ญประโยชน์ที่ดำเนินกันมานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยนิสิต นักศึกษาทั้ง 2 สถาบันร่วมกันบริจาคโลหิตทั่วประเทศ
นอกจากนั้น ขบวนพาเหรดล้อการเมือง การแปรอักษรก็ยังเป็นจุดเด่นที่น่าชมอย่างยิ่ง แต่ละผลงานผลิตออกมาด้วยเทคนิคหลากหลาย ทีเด็ดของแต่ละภาพ แต่ละคำ เป็นการล้อเลียน เหน็บแนม เยาะเย้ยกันเล็กๆ เอาฮา ถึงสะดุ้ง สะเทือน พวกนี้ช่างสรรหาคำฮิตๆ ทันยุค ทันสมัยมาแหย่กัน ให้ผู้ชมได้รับความสนุกสนานอย่างมีสาระบ้าง ขำๆ บ้าง อันนี้ทั้งเรื่องการเมือง และเหน็บกันเองก็มี
สำหรับเกมฟุตบอล ทาง จุฬาฯ ชนะมา 3 หนล่าสุด ตัวนักเตะปีนี้ก็ยังเหนือกว่า มี ปิยะชาติ ถามะพันธ์ จาก บางกอกกล๊าส 2 พี่น้อง ทาทอง วุฒิชัย จาก เมืองทองฯ ชัยณรงค์ จาก โอสถสภา อดิศักดิ์ กานู โอสถสภา อีกคน อดิศักดิ์ ดวงศรี การท่าเรือ กฤษกร เกิดผล ชัยนาท ปกาศิต แสนสุข การท่าเรือ สมปอง สอเหลบ กับ ไพฑูรย์ นนทะดี จาก แบงค็อก ยูไนเต็ด ธีรเทพ วิโนทัย กับ อดุลย์ หมื่นสมาน จาก เพื่อนตำรวจ 2 พี่น้อง ปาภูงา กิตติพล อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด กิตติภูมิ ไทยฮอนด้า แต่ที่ผมอยากให้จับตาเป็นพิเศษคือจอมแฮ็ททริค ฤทธิพร หวานชื่น จามจุรี ยูไนเต็ด โดยมี สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ ผู้อำนวยการสโมสรบางกอกกล๊าส เป็นเฮ้ดโค้ช และ วัชรพงษ์ กล้าหาญ อุบล ยูเอ็มที เป็นโค้ชผู้รักษาประตู
ในขณะที่ฝ่ายธรรมศาสตร์ ก็ได้ปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการเรื่องฟุตบอลไม่น้อย มีการส่งทีม โดม เอฟซี ร่วมแข่งในลีกภูมิภาค ดิวิเชิ่น 2 โซนกรุงเทพมหานครและภาคกลางเป็นปีแรก นักเตะที่น่าสนใจก็มี อภิเชษฐ์ พุฒตาล จาก บีอีซี เทโรศาสน ไกรเกียรติ เบียดตะคุ กับ ณธฤษภ์ ธรรมรสโสภณ จาก นครราชสีมา ชาคริต บัวทอง ชลบุรี อภิภู สุนทรพนาเวศ โอสถสภา ธนัตถ์ วงศุภลักษณ์ เพื่อนตำรวจ รวมทั้ง อัมรินทร์ เยาดำ รชานนท์ ศรีนอก และ วรรณพล ปุษปาคม โดยมี ธวัชชัย ดำรงค์อ่องตระกูล เฮ้ดโค้ชของ ชัยนาท มานำทีมทวงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคืนกลับไป
นี่เป็นงานฟุตบอลประเพณีแห่งเกียรติยศ ศักดิ์ศรี และสามัคคีที่เริ่มจัดกันตั้งแต่ปี พ.ศ. 2477 และเวียนกลับมาอีกเป็นหนที่ 70 ในวันเสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์นี้ พี่เก่า นิสิตและนักศึกษาเลือดสีชมพูและเหลือง-แดง รวมทั้งแฟนบอลเข้าชมได้ที่ สนามศุภชลาศัย กรีฑาสถานแห่งชาติ เริ่มกันตั้งแต่เวลา 14.00 น. ใครไม่ไปที่สนามก็เปิด ช่องหอยม่วง รับชมได้ครับ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *