xs
xsm
sm
md
lg

6 ทีมเบียดระทึก แย่งตั๋ว 2 ใบ ชปล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“หงส์” ต้องเร่งเครื่องกว่านี้
เอเยนซี - ศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ สุดสัปดาห์นี้หลีกทางให้การแข่งขัน เอฟเอ คัพ ก่อนกลับมาโม่แข้งกันอีกครั้งปลายเดือนมกราคม ซึ่งเหลือบดูตารางเมื่อผ่านพ้นไป 22 นัด ต้องยอมรับว่าแชมป์คงไม่หนี เชลซี หรือ แมนเชสเตอร์ ซิตี ดังนั้น ความน่าสนใจจึงอยู่ที่อีก 2 ทีมว่าใครจะจบท็อปโฟร์เพื่อคว้าตั๋ว ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก โดยมีถึง 6 ทีมที่ต้องห้ำหั่นกันอย่างถึงพริกถึงขิงดังนี้

เซาแธมป์ตัน (อันดับ 3 / 42 แต้ม) ซัมเมอร์ที่ผ่านมาถิ่น เซนต์ แมรีส์ เหมือนจะเจอวิกฤต ตั้งแต่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน อำลาไปคุมทัพ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ รวมถึงเสียนักเตะหลายต่อหลายราย แต่ไม่เป็นเช่นนั้น เกมรับ “นักบุญ” น่าประทับใจมากเสียน้อยที่สุด 16 ลูก แม้จะแพ้ 4 นัดติดช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงธันวาคม ทว่ากลับมาเก็บ 16 แต้มจาก 18 แต้มหลังสุด ดังนั้น การจะได้ไปเล่น แชมเปียนส์ ลีก หรือไม่อยู่ที่กึ๋นของ โรนัลด์ คูมัน รวมถึงความมั่นใจของผู้เล่นที่เป็นกระดูกสันหลังอย่าง เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์, โชเซ ฟอนเต, มอร์แกน ชไนเดอร์แลง และ กราเซียโน เปลเล ส่วนถ้าจะวืดก็เพราะไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน เพราะต้องยอมรับว่าการแข่งขันสูงมาก แถม ซาดิโอ มาเน กองกลางทีมชาติเซเนกัล ต้องไปทำศึก แอฟริกัน เนชันส์ คัพ 2015 ส่วน เปลเล หอกทีมชาติอิตาลี ต้องรีดฟอร์มมากกว่านี้ เพราะยิงได้แค่ 8 ประตูเท่านั้น

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อันดับ 4 / 40 แต้ม) ระบบการเล่น 3-5-2 ของ หลุยส์ ฟาน กัล ยังใช้ไม่ได้ผลอย่างต่อเนื่อง หลังจากชนะ 6 นัดรวด เพราะนักเตะ 11 คนแรกสลับหน้ากันแทบทุกสัปดาห์ ส่วนหนึ่งอันเนื่องมาจากได้รับบาดเจ็บ ดังนั้น กุนซือชาวดัตช์อาจจะได้รับไฟเขียวจากบอร์ดบริหาร โอลด์ แทรฟฟอร์ด ให้เสริมทัพอีกช่วงตลาดเปิดเดือนมกราคมนี้ ดังนั้น ก็จะเป็นตั๋ว แชมเปียนส์ ลีก ที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ก็ว่าได้ แต่ “ผีแดง” ก็จะพลาดไม่ได้ หลังปีนี้ไม่ได้ไปร่วมโม่แข้ง เหนืออื่นใดเกมรับจะทำให้ แมนฯยู ต้องอกหักก็เป็นได้ เพราะ ดาบิด เด เคอา มือกาวทีมชาติสเปน คงจะปัดป้องไม่ไหวเป็นแม่เหล็กดูดลูกฟุตบอลได้ทุกนัด ด้าน อังเคล ดิ มาเรีย เพลย์เมกเกอร์ชาวอาร์เจนไตน์ ก็เล่นไม่ประทับใจตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา แถมตอนนี้แต้มที่โกยไปก็ใกล้เคียงกับยุคมืดการคุมทัพของ เดวิด มอยส์ นายใหญ่จากสกอตเมื่อปีที่แล้ว

อาร์เซนอล (อันดับ 5 / 39 แต้ม) อาร์แซน เวนเกอร์ ถูกตั้งคำถามอีกครั้งว่าหมดเวลาคุมถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดียม แล้วหรือยัง เพราะช่วงหลังต้องคั่วตั๋ว แชมเปียนส์ ลีก แทบทุกปี แม้จะเล่นมาต่อเนื่อง 17 ฤดูกาลก็ตาม แต่ก็ได้อาวุธดีอย่าง อเล็กซิส ซานเชซ แนวรุกทีมชาติชิลี ที่ทั้งยิงทั้งจ่าย ตอนนี้ซัดไป 12 ประตูจาก 20 นัดในลีกแถมจ่ายอีก 7 ลูก แต่ปัญหาเดิมๆ ก็คือเกมรับ เนื่องจากเสียง่ายอย่างนัดบุกพ่าย สโต๊ก ซิตี 2-3 กับ เซาแธมป์ตัน 0-2 แถมปีนี้มีเซนเตอร์ฮาล์ฟให้เลือกใช้งานน้อย นอกจากนี้ ยังบาดเจ็บอีก แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ ไม่แข็งแกร่งสมราคาดีกรีแชมป์โลก 2014 กับเยอรมนี ที่มีประสบการณ์ติดธงมากถึง 104 นัด ดังนั้นดูเหมือนกุนซือชาวฝรั่งเศส จะต้องมองว่าแผงกองกลางว่าจะช่วยหน้าและประคองหลังบ้านอย่างไร

ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ (อันดับ 6 / 37 แต้ม) มีผลแพ้ชนะด้วยสกอร์ 2-1 ถึง 10 นัด ทำให้ สเปอร์ส ยิงได้กับเสียประตูพอๆ กัน ดังนั้น ฟอร์มจึงไม่ค่อยคงเส้นคงวานัก โชคดีปีนี้ได้ แฮร์รี เคน กองหน้าดาวรุ่งชาวอังกฤษ ที่ผลงานยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมยิง 2 ประตูชนะ เชลซี 5-3 แต่เหตุที่จะวืดท็อปโฟร์เพราะอายุยังน้อยแค่ 21 ปี ยากจะยืนระยะตลอดทั้งฤดูกาลแถมไม่มีคนมาแบ่งเบาภาระ ด้าน คริสเตียน อิริคเซน เพลย์เมกเกอร์เลือดเดนส์ ดีก็ดีใจหายบางวันก็เงียบเป็นเป่าสาก ดังนั้น เกิดแผงหน้าบาดเจ็บขึ้นมามีปัญหาอย่างแน่นอน ด้าน โรเบอร์โต โซลดาโด กับ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ก็เหมือนยากเพื่อกลับสู่ฟอร์มเก่งอีกครั้ง อีกทั้งฟอร์มในรัง ไวท์ ฮาร์ท เลน ไม่ดีแพ้ได้หมดทุกทีม ที่ผ่านมาเสียท่าทั้ง ลิเวอร์พูล, เวสต์ บรอมวิช อัลเบียน, นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และ สโต๊ก ซิตี

เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด (อันดับ 7 / 36 แต้ม) เหนือกว่าความคาดหวังของ “ขุนค้อน” คือการเสริมทัพเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดยได้กองหน้าอย่าง ดิอาฟรา ซัคโก กับกองกลาง อเล็กซ์ ซง รวมถึงฟูลแบ็กใหม่สองข้างทำให้ชนะได้ทั้ง ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี ดังนั้นเหตุผลที่จะได้ไปเล่น แชมเปียนส์ ลีก คือฟอร์มของพวกนักเตะคีย์แมนคือกองกลาง สจ๊วร์ต ดาวนิง กับกองหน้าอย่าง แอนดี คาร์โรลล์ ที่ต้องยิงให้เป็นกอบเป็นกำมากกว่านี้ ล่าสุดคือนัดเปิดบ้านถล่ม ฮัลล์ ซิตี 3-0 อีกทั้งดูเหมือน แซม อัลลาไดซ์ กุนซือจะมีกลยุทธ์ที่หลากหลายขึ้นปรับไปตามคู่ต่อสู้ที่เจอแน่ละนัด ส่วนเหตุที่จะสะดุดก็คือไร้ประสบการณ์ยืนระยะไม่ได้ต่อเนื่อง เพราะก่อนหน้านี้ก็ 4 นัดที่ไม่ชนะใครเลย ที่สำคัญเดี๋ยวจะมีโปรแกรมโหด 4 นัดติด เจอกับ ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เซาแธมป์ตัน และ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ที่มีเป้าหมายเดียวกัน

ลิเวอร์พูล (อันดับ 8 / 35 แต้ม) แนวโน้มดีขึ้นเก็บ 13 แต้ม จากความเป็นไปได้ 15 แต้มหลังสุด แต่ถือว่าแต้มรวมตอนนี้น้อยกว่า 10 แต้ม ที่ทำได้เมื่อฤดูกาลที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน เพราะการเสียนักเตะที่ดีที่สุดคือ 2 กองหน้า หลุยส์ ซัวเรซ ไปอยู่กับ บาร์เซโลนา เมื่อซัมเมอร์และ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ เจ็บยาว ลิเวอร์พูล อยากจะไปเล่น แชมเปียนส์ ลีก ต่อเนื่อง ดังนั้น ต้องภาวนาให้กองหน้าทีมชาติอังกฤษ หายเร็ววันและจูนกับ ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกร่วมชาติ ที่ดูเหมือนจะพึ่งพาได้มากที่สุด โอกาสเร่งเครื่องปลายฤดูกาลคว้าท็อปโฟร์ถึงจะเป็นไปได้ แต่ปัญหาคือเกมรับที่ยังเรื้อรังตั้งแต่ปีที่แล้ว รวมถึงพลังขับเคลื่อนจากแผงกองกลางที่ไม่ดีเหมือนก่อน ทั้ง สตีเวน เจอร์ราร์ด, ฟิลิปเป คูตินโญ, อดัม ลัลลานา และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน แต่ชื่อชั้นนักเตะถ้าเทียบกับอีกหลายทีมที่มีจุดประสงค์เดียวกันนั้นยังเหนือกว่า ขอแค่ให้เรียกความมั่นใจกลับคืนมาโดยเร็ว

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


ฟาน กัล จะใช้ 3-5-2 ไปชปล.
“นักบุญ” มาดีเหลือเชื่อ
“ขุนค้อน” อาจเป็นม้ามืด
กำลังโหลดความคิดเห็น