ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - เสียงเชียร์ของหนุ่มสาวเอวบาง แต่เต็มไปด้วยท่วงท่าที่แข็งแรงในฐานะผู้นำเชียร์ เปรียบเสมือนคอนดักเตอร์หน้าอัฒจันทร์ ที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าแมตช์ระทึกขวัญตรงหน้า แต่ใครจะรู้บ้างว่าภายใต้ความสวยงามและลีลาเหมือนมีมนต์สะกดไม่ได้มาง่ายๆ อย่างที่หลายคนเข้าใจ
สิ่งที่บรรยายมาเป็นเหมือนการบ่งบอกว่า “การแข่งขันฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์” กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง โดยปีนี้ถือเป็นหนที่ 70 ฟาดแข้งกันวันเสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2558 ณ สนามกีฬาศุภชลาศัยกรีฑาสถาน ซึ่งทีมข่าว MGR SPORT ได้ไปเกาะติดการซ้อมเข้มของหนุ่ม-สาวเชียร์ลีดเดอร์เริ่มจากทางฝั่ง “ลูกแม่โดม” มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ปักหลักซ้อมกันที่ท่าพระจันทร์
ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบทอดกันมาจนถึงรุ่นที่ 70 ในการเก็บตัวและฝึกซ้อมร่วมกัน โดยปีใหม่ที่ผ่านมา หนุ่มสาวไฟแรงทุกคนได้ไปรวมตัวกันเพื่อทำกิจกรรมรับคืนข้ามปี เพื่อเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้น รวมถึงทบทวนท่าเชียร์ร่วมกับรุ่นพี่หลายคนที่กลับมาช่วยฝึกซ้อม
“มายด์” อภิรติ ราชวงษ์ สาวจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ฯ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ชั้นปีที่ 4 ผู้นำเชียร์รั้วยูงทอง ที่กำลังฝึกซ้อมอย่างจริงจัง รอปะทะคู่ปรับในสนามจากรั้วจามจุรี กล่าวว่า “พวกเราต้องซ้อมทุกวันหลังเลิกเรียน ยังไม่รวมเสาร์-อาทิตย์ที่ต้องตื่นมาซ้อมกันแต่เช้า ฝึกหนักจริงๆ ทุกคนเหนื่อยมาก แต่เมื่อเรายินดีมายืนจุดนี้ ก็ต้องลุยให้ถึงที่สุด แค่เรามองว่าการเชียร์เหมือนกับการเรียนเป็นหนึ่งในหน้าที่ที่เราได้รับมอบหมาย สร้างความภูมิใจให้มหาวิทยาลัย ในฐานะตัวแทนของลูกแม่โดม"
ขณะที่ฝ่ายชาย "เจ็ม" อติเทพ ปัญญาอธิกุล หนุ่มตี๋ชาวเหลืองแดง จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 บอกว่า ยิ่งใกล้วันงานพวกเรายิ่งกดดัน "เพราะเรามาจากต่างคณะ สิ่งที่ต้องมีร่วมกันคือ ใจสู้ แน่นอนว่าการเชียร์เป็นเรื่องหนัก ต้องวิ่งวอร์มรอบสนามฟุตบอลเป็นสิบๆ รอบ ต้องฝึกความอดทน ฝึกท่าเชียร์ซ้ำๆ ให้พร้อมเพรียง ต้องอดหลับอดนอนเป็นเดือน แต่นึกถึงความสำเร็จ ความเหนื่อยก็หายเป็นปลิดทิ้งแล้ว"
กว่าจะมาถึงก้าวแรกที่เข้าสู่การเป็นเชียร์ลีดเดอร์ ประจำการแข่งขันประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัย ต้องผ่านการคัดเลือกจากความสามารถและฝ่าด่านทดสอบบุคลิกภาพมากมาย จนมารวมตัวกันเป็นทั้งหมด 20 ชีวิต โดย "เพชร" ชนะภูมิ เถรว่อง คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นปี 3 บอกว่า "พวกเรามาจากต่างคณะ ต่างชั้นปี แรกๆ ก็มีเขินกันบ้าง แต่พอต้องมาซ้อมด้วยกัน เจอหน้ากันแทบทุกวัน ค่อยๆ สร้างเป็นมิตรภาพ เพราะเหน็ดเหนื่อย ร่วมกันสู้ ร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรคมาด้วยกัน"
"แพรว" ปทิตตา สันติวิชช์ คณะศิลปศาสตร์ เสริมว่า "ท่าเชียร์ที่เราจะใช้คือท่าเบสิคของลีดธรรมศาสตร์ เพื่อเป็นการคงเอกลักษณ์ คือ หมุนมือขึ้น-ลง, ฟันมือ, แทงมือล่าง-กลาง-บน และท่าเลขแปด แต่นำมาปรับเปลี่ยนให้เข้ากับแต่ละเพลงเชียร์ ซึ่งรุ่นพี่เชียร์รุ่นต่างๆ จะมาช่วยกันสอนให้พวกเรา"
"เนื่องจากเราจริงจังกับการซ้อมมาก จะมีทำตารางฝึกซ้อมว่าแต่ละวันซ้อมท่าไหน เพลงไหน ถ้าทำได้ไม่ดีก็จะไม่ข้ามไปเพลงอื่นหรือท่าอื่น นอกจากนี้ยังต้องดูแลเรื่องการกิน ซึ่งหลายคนอาจคิดว่าเชียร์ลีดเดอร์จะต้องอดอาหารเพื่อให้หุ่นสวยแต่ที่จริงแล้วไม่ใช่เลย เราต้องกินให้มากขึ้นด้วยซ้ำ เพราะการซ้อมหนักมากจนหลายคนซูบผอมลง รุ่นพี่ก็จะมาช่วยดูแลให้กินโปรตีน หรือกินอาหารให้ครบทุกมื้อ เพื่อให้มีแรงซ้อมและไม่ผอมแห้งจนเกินไป" แพรว ทิ้งท้าย
คนภายนอกมักจะมองว่าผู้นำเชียร์แค่สวยหล่อรวมถึงเต้นเก่ง แต่ "ฮันนี่" อินทุอร พัฒนศิริมงคล สาวสวยจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังว่าใครไม่ได้มาอยู่ตรงนี้คงไม่รู้ "ตำแหน่งผู้นำเชียร์ไม่ได้มายืนเต้นสวยๆ เน้นโชว์หน้าตา หรือรูปร่าง อย่างที่หลายคนเข้าใจ เพราะนอกจากพวกเราจะซ้อมอย่างหนัก ยังต้องแบกรับความกดดันด้วย ทั้งคำชมจากนักศึกษาด้วยกันที่คอยให้กำลังใจ และรอชมให้เราโชว์ออกมาดี หรือคนที่ไม่ชอบก็มีเขียนจดหมายมาด่า เป็นกลอนก็มี ส่วนตัวก็ขำๆ คิดในแง่ดีว่าอย่างน้อยเขาก็ใส่ใจที่จะเขียนว่าเรา”
"แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะเราต้องไม่ยอมแพ้ง่ายๆ การที่เราเข้ามาเรียนในสถาบันที่ใฝ่ฝัน แต่ไม่ได้ร่วมกิจกรรมอะไรเลย มันเป็นเรื่องน่าเสียดาย ไม่ว่าจะเป็นงานบอล หรืองานคณะ แค่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างก็ถือเป็นประโยชน์กับตัวเองทั้งนั้น เพราะจะทำให้เรารู้จักเข้าสังคม ดีต่ออนาคตของพวกเราทุกคน" ฮันนี่ เผย
ธันยมัย สุริยอัมพร ทิ้งท้ายว่า "การเป็นผู้นำเชียร์ คือ โอกาสดีๆ ที่เราจะได้เป็นทั้งผู้รับและผู้ให้ ได้รับประสบการณ์ที่ดีน่าจดจำไปพร้อมๆ กับการเป็นผู้ให้ ทั้งการส่งมอบความรู้ต่อไปยังผู้นำเชียร์รุ่นน้องและใหความสุขเพื่อนๆ ในงานบอลประเพณีฯ ถึงใครยังยึดติดกับภาพเดิมๆ เห็นเชียร์ลีดเดอร์เป็นแค่คนสวยคนหล่อ ยืนเต้นแร้งเต้นกาไปวันๆ เราไม่เคยโกรธ แต่จะเก็บเอาคำตำหนิเหล่านั้นกลับมาเป็นบทเรียน เป็นแรงกระตุ้นเพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่า ผู้นำเชียร์อย่างเราก็มีดีเหมือนกัน"
เรื่อง วัลลภ สวัสดี
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *