สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีม ลิเวอร์พูล เตรียมอำลาสังเวียน พรีเมียร์ ลีก แบบไม่มีค่าตัว หลังจบฤดูกาล 2014-15 โดยไม่เคยชูถ้วย พรีเมียร์ ลีก แม้แต่ครั้งเดียว อย่างไรก็ตาม จอมทัพวัย 34 ปี ยังคงมีเพื่อนเคียงบ่าเคียงไหล่อีก 10 ราย อาทิ เพื่อนเก่าอย่าง แบรด ฟรีเดล นายทวารชาวอเมริกัน และ เจมี คาร์ราเกอร์ รวมถึง แกเร็ธ เบล แข้งค่าตัวแพงสุดในโลก ตามการจัดทัพระบบ 3-5-2 ของ “เดลี เมล” แท็บลอยด์หัวดังแห่งเกาะอังกฤษ
แบรด ฟรีเดล (ผู้รักษาประตู)
สร้างสถิติเฝ้าเสาติดต่อกันนานสุด 310 เกม ของ พรีเมียร์ ลีก ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2004 - เดือนตุลาคม ปี 2012 ถึงแม้จะเป็นนายทวารฝีมือดีคนหนึ่งของเกาะอังกฤษ ทว่าตลอดระยะเวลา 17 ปี กับ ลิเวอร์พูล, แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส, แอสตัน วิลลา และ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ และอายุอานามล่วงเลยมาถึง 43 ปี ก็ยังไม่เคยสัมผัสโทรฟี ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี เลย
เจมี คาร์ราเกอร์ (กองหลัง)
สวมบทผู้แชร์ความเจ็บปวดกับ เจอร์ราร์ด คว้าแชมป์ร่วมกันมาทั้ง ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก, ยูฟา คัพ (ยูโรปา ลีก ปัจจุบัน), ยูฟา ซูเปอร์คัพ, เอฟเอ คัพ 2 สมัย, แคปิตอล วัน คัพ 3 สมัย และ คอมมูนิตี ชิลด์ ยกเว้น พรีเมียร์ ลีก ตลอดระยะเวลา 17 ปี "คาร์รา" จัดเป็นกองหลังที่ผลงานคงเส้นคงวามากสุดคนหนึ่งของวงการ
มาร์เซล เดอไซญี (กองหลัง)
หนึ่งในสุดยอดเซ็นเตอร์แบ็กระดับโลก รับใช้ เชลซี มานาน 6 ปี สัมผัสเกียรติยศสูงสุดทั้งแชมป์ ฟุตบอลโลก และ ยูโร กับ ทีมชาติฝรั่งเศส แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไรกับยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอน คว้าแชมป์ระดับสโมสรเพียง เอฟเอ คัพ, ยูฟา ซูเปอร์คัพ และ แชริตี ชิลด์ นอกเหนือจาก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก 2 สมัย กับ โอลิมปิก มาร์กเซย และ เอซี มิลาน
เลดลีย์ คิง (กองหลัง)
หากเทียบความสามารถ คิง จัดเป็นกองหลังระดับหัวแถวของเกาะอังกฤษ แต่เจอปัญหาการบาดเจ็บเข่าเรื้อรัง ทำให้ชีวิตการค้าแข้งไม่ราบรื่นนัก เคยถูก แฮร์รี เรดแนปป์ อดีตเจ้านาย ยกย่องในฐานะนนักเตะมหัศจรรย์ เพราะไม่สามารถเตะบอลเต็มแรงระหว่างการซ้อม และลงสนาม 1 เกมต่อสัปดาห์ ทว่ายังคงเป็นหัวใจสำคัญในแนวรับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ พาทีมคว้าแชมป์ ลีก คัพ ปี 2009 เพียงใบเดียว ตลอดระยะเวลา 13 ปี
สตีเวน เจอร์ราร์ด (กองกลาง)
ขึ้นทำเนียบนักเตะดีสุดที่ไม่เคยสัมผัสแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ทำได้ใกล้เคียงสุดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และถูกหลอกหลอนจังหวะลื่นล้ม เกมพ่าย เชลซี คาบ้าน 0-2 เป็นเหตุให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี แซงเข้าวิน ด้วยช่องว่างเพียง 2 แต้ม
ดาวิด ชิโนลา (ปีก)
เป็นกำลังสำคัญของ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ซึ่งเคยกุมความได้เปรียบเหนือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 10 แต้ม ฤดูกาล 1995-96 แต่กลับปิดซีซันพ่าย ทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เพียง 4 แต้ม
แม็ทธิว เลอ ทิสซิเอร์ (กองกลาง)
ไม่มีถ้วยแชมป์ติดมือตลอด ถึงแม้โดดเด่นจากทักษะ และการซัลโวประตูสุดสวยกับ เซาแธมป์ตัน ซึ่งไม่เคยหยิบยื่นโอกาสประสบความสำเร็จรายการใดๆ เลย แต่ก็ยังถูกจัดเป็นกองกลางฝีเท้าฉกาจคนหนึ่งของประเทศอังกฤษ
เชส ฟาเบรกาส (กองกลาง)
ลงเล่นเกม ลีก คัพ ฤดูกาล 2003-2004 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับ อาร์เซนอล คว้าแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ครั้งสุดท้าย แต่ยังไม่มีชื่อติดทีมชุดใหญ่ จึงไม่ได้รับเหรียญชนะเลิศ อย่างไรก็ตาม เจ้าตัว มีสิทธิ์ทำสำเร็จ หลังโชว์ฟอร์มโดดเด่นกับ เชลซี ซีซัน 2014-15
แกเร็ธ เบล (ปีก)
อำลา ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ด้วยค่าตัวอันเป็นสถิติสูงสุดของโลก 86 ล้านปอนด์ (4.3 พันล้านบาท) แบบไม่เคยชูโทรฟีใดๆ บนเกาะอังกฤษเลย แต่หลังจากจับคู่กับ คริสเตียโน โรนัลโด สตาร์ลูกหนัง รีล มาดริด ก็สามารถหยิบแชมป์ 4 รายการ ภายใน 18 เดือน
จิอันฟรังโก โซลา (กองหน้า)
เคยคว้า สคูเด็ตโต (แชมป์ กัลโช เซเรีย อา) เคียงข้าง ดีเอโก มาราโดนา ตำนานลูกหนังชาวอาร์เจนไตน์ สมัยค้าแข้งกับ นาโปลี ก่อนย้ายมาอยู เชลซี เมื่อปี 1996 ตลอดระยะเวลา 7 ปี ในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ศูนย์หน้าร่างเล็ก ร่ายมนต์คว้าแชมป์ 6 รายการ ยกเว้น พรีเมียร์ ลีก
ร็อบบี ฟาวเลอร์ (กองหน้า)
นักเตะที่ยิงประตูสูงสุดอันดับ 6 ของ พรีเมียร์ ลีก (162 ประตู) แต่ไม่เคยจับถ้วยแชมป์ พรีเมียร์ ลีก สร้างชื่อจากสัญชาตญาณการจบสกอร์อันเฉียบขาด พา “หงส์แดง” คว้าโทรฟีมากมาย ทั้ง เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ 2 สมัย, ยูฟา คัพ และ ยูฟา ซูเปอร์ คัพ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
แบรด ฟรีเดล (ผู้รักษาประตู)
สร้างสถิติเฝ้าเสาติดต่อกันนานสุด 310 เกม ของ พรีเมียร์ ลีก ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2004 - เดือนตุลาคม ปี 2012 ถึงแม้จะเป็นนายทวารฝีมือดีคนหนึ่งของเกาะอังกฤษ ทว่าตลอดระยะเวลา 17 ปี กับ ลิเวอร์พูล, แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส, แอสตัน วิลลา และ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ และอายุอานามล่วงเลยมาถึง 43 ปี ก็ยังไม่เคยสัมผัสโทรฟี ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี เลย
เจมี คาร์ราเกอร์ (กองหลัง)
สวมบทผู้แชร์ความเจ็บปวดกับ เจอร์ราร์ด คว้าแชมป์ร่วมกันมาทั้ง ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก, ยูฟา คัพ (ยูโรปา ลีก ปัจจุบัน), ยูฟา ซูเปอร์คัพ, เอฟเอ คัพ 2 สมัย, แคปิตอล วัน คัพ 3 สมัย และ คอมมูนิตี ชิลด์ ยกเว้น พรีเมียร์ ลีก ตลอดระยะเวลา 17 ปี "คาร์รา" จัดเป็นกองหลังที่ผลงานคงเส้นคงวามากสุดคนหนึ่งของวงการ
มาร์เซล เดอไซญี (กองหลัง)
หนึ่งในสุดยอดเซ็นเตอร์แบ็กระดับโลก รับใช้ เชลซี มานาน 6 ปี สัมผัสเกียรติยศสูงสุดทั้งแชมป์ ฟุตบอลโลก และ ยูโร กับ ทีมชาติฝรั่งเศส แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไรกับยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอน คว้าแชมป์ระดับสโมสรเพียง เอฟเอ คัพ, ยูฟา ซูเปอร์คัพ และ แชริตี ชิลด์ นอกเหนือจาก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก 2 สมัย กับ โอลิมปิก มาร์กเซย และ เอซี มิลาน
เลดลีย์ คิง (กองหลัง)
หากเทียบความสามารถ คิง จัดเป็นกองหลังระดับหัวแถวของเกาะอังกฤษ แต่เจอปัญหาการบาดเจ็บเข่าเรื้อรัง ทำให้ชีวิตการค้าแข้งไม่ราบรื่นนัก เคยถูก แฮร์รี เรดแนปป์ อดีตเจ้านาย ยกย่องในฐานะนนักเตะมหัศจรรย์ เพราะไม่สามารถเตะบอลเต็มแรงระหว่างการซ้อม และลงสนาม 1 เกมต่อสัปดาห์ ทว่ายังคงเป็นหัวใจสำคัญในแนวรับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ พาทีมคว้าแชมป์ ลีก คัพ ปี 2009 เพียงใบเดียว ตลอดระยะเวลา 13 ปี
สตีเวน เจอร์ราร์ด (กองกลาง)
ขึ้นทำเนียบนักเตะดีสุดที่ไม่เคยสัมผัสแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ทำได้ใกล้เคียงสุดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และถูกหลอกหลอนจังหวะลื่นล้ม เกมพ่าย เชลซี คาบ้าน 0-2 เป็นเหตุให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี แซงเข้าวิน ด้วยช่องว่างเพียง 2 แต้ม
ดาวิด ชิโนลา (ปีก)
เป็นกำลังสำคัญของ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ซึ่งเคยกุมความได้เปรียบเหนือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 10 แต้ม ฤดูกาล 1995-96 แต่กลับปิดซีซันพ่าย ทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เพียง 4 แต้ม
แม็ทธิว เลอ ทิสซิเอร์ (กองกลาง)
ไม่มีถ้วยแชมป์ติดมือตลอด ถึงแม้โดดเด่นจากทักษะ และการซัลโวประตูสุดสวยกับ เซาแธมป์ตัน ซึ่งไม่เคยหยิบยื่นโอกาสประสบความสำเร็จรายการใดๆ เลย แต่ก็ยังถูกจัดเป็นกองกลางฝีเท้าฉกาจคนหนึ่งของประเทศอังกฤษ
เชส ฟาเบรกาส (กองกลาง)
ลงเล่นเกม ลีก คัพ ฤดูกาล 2003-2004 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับ อาร์เซนอล คว้าแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ครั้งสุดท้าย แต่ยังไม่มีชื่อติดทีมชุดใหญ่ จึงไม่ได้รับเหรียญชนะเลิศ อย่างไรก็ตาม เจ้าตัว มีสิทธิ์ทำสำเร็จ หลังโชว์ฟอร์มโดดเด่นกับ เชลซี ซีซัน 2014-15
แกเร็ธ เบล (ปีก)
อำลา ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ด้วยค่าตัวอันเป็นสถิติสูงสุดของโลก 86 ล้านปอนด์ (4.3 พันล้านบาท) แบบไม่เคยชูโทรฟีใดๆ บนเกาะอังกฤษเลย แต่หลังจากจับคู่กับ คริสเตียโน โรนัลโด สตาร์ลูกหนัง รีล มาดริด ก็สามารถหยิบแชมป์ 4 รายการ ภายใน 18 เดือน
จิอันฟรังโก โซลา (กองหน้า)
เคยคว้า สคูเด็ตโต (แชมป์ กัลโช เซเรีย อา) เคียงข้าง ดีเอโก มาราโดนา ตำนานลูกหนังชาวอาร์เจนไตน์ สมัยค้าแข้งกับ นาโปลี ก่อนย้ายมาอยู เชลซี เมื่อปี 1996 ตลอดระยะเวลา 7 ปี ในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ศูนย์หน้าร่างเล็ก ร่ายมนต์คว้าแชมป์ 6 รายการ ยกเว้น พรีเมียร์ ลีก
ร็อบบี ฟาวเลอร์ (กองหน้า)
นักเตะที่ยิงประตูสูงสุดอันดับ 6 ของ พรีเมียร์ ลีก (162 ประตู) แต่ไม่เคยจับถ้วยแชมป์ พรีเมียร์ ลีก สร้างชื่อจากสัญชาตญาณการจบสกอร์อันเฉียบขาด พา “หงส์แดง” คว้าโทรฟีมากมาย ทั้ง เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ 2 สมัย, ยูฟา คัพ และ ยูฟา ซูเปอร์ คัพ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *