คอลัมน์ BUZZER BEAT โดย MVP
ตั้งแต่พอจำความได้ การคัดทีมเข้าสู่รอบเพลย์ออฟของ ศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) จะประกอบด้วยตัวแทนสาย เอเอฟซี (AFC) และ เอ็นเอฟซี (NFC) ฝั่งละ 6 ทีม ประกอบด้วย แชมป์กลุ่ม 4 ทีม และไวลด์การ์ด 2 ทีม บางครั้งสำหรับคนที่ติดตามกีฬาประเภทนี้ใหม่ๆ ก็อาจสับสนบ้างว่า ทำไมทีมสถิติด้อยกว่า ได้สิทธิ์เป็นทีมเหย้า และทีมที่ผลงานดีกว่า ต้องเป็นทีมเยือน ซึ่งคาดกันว่า ฤดูกาล 2015 อาจมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
ยกตัวอย่างจากฤดูกาลที่แล้ว เราคงจะได้เห็นว่า กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส (8-7-1) เปิดรัง แลมโบฟิลด์ รับมือ ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส (12-4) และ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ (10-6) ต้อนรับการมาเยือนของ นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส (11-5) เป็นต้น แน่นอนว่า หากเทียบกับกีฬาอีกประเภทหนึ่งอย่าง บาสเก็ตบอล (NBA) เราจะเห็นว่า “โฮม ฟิลด์ แอดเวนเทจ” จะอยู่ในมือทีมที่สถิติเหนือกว่าเท่านั้น
สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เนื่องจากว่า การดวลกันของลีกคนชนคน มักจะมีศักดิ์ศรีคำว่า แชมป์กลุ่ม มาเป็นปัจจัยหนึ่งสำหรับการจัดทีมวาง ซึ่งบางครั้งก็ดูเหมือนแฟร์ หากพิจารณาแง่ความแข็ง-อ่อนของแต่ละดิวิชัน แต่ตรงกันข้าม หากกลุ่มๆ หนึ่ง มาตรฐานสูง และอีกกลุ่มหนึ่งมาตรฐานต่ำ ก็จะเกิดข้อสงสัยดังที่กล่าวมาแล้ว ทำเอา เจอร์รี โจนส์ เจ้าของทีม ดัลลัส คาวบอยส์ เรียกร้องถึงการเพิ่มทีมจาก 12 เป็น 14 ทีม
ลองวาดภาพคร่าวๆ หรือคาดเดากันไปต่างๆ นานา ก็จะพบว่า ทีมสถิติดีสุดของ AFC และ NFC จะรับสิทธิ์บายรอบแรก ที่เหลือก็เป็นการประกบคู่ตามปกติ เริ่มจาก อันดับ 2 พบ อันดับ 7, อันดับ 3 พบ อันดับ 6 และ อันดับ 4 พบ อันดับ 5 สำหรับพวกนักธุรกิจก็คงเชื่อว่า ทีมของตนจะได้ส่วนแบ่งจากการถ่ายทอดสดมากขึ้น แถมจับพลัดจับผลูเกิดทะลุถึง ซูเปอร์โบว์ล ก็อาจมีความสำเร็จติดไม้ติดมือ
ถ้าเทียบจากซีซันที่แล้ว สาย AFC อันดับ 7 ตกเป็นของ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส (8-8) เป็นรอง ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ เพียง 1 เกม ฟาก NFC เป็นของ อริโซนา คาร์ดินัลส์ (10-6) ซึ่งเท่ากับ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ เป๊ะ แต่กระเด็นตกรอบไป และ กัดฟันกรอดๆ ดู กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส (8-7-1) แชมป์กลุ่ม NFC เหนือ ปะทะ ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส (12-4) ก็นับว่าเป็นไอเดียที่เข้าท่า
หากยังยืนพื้นด้วยระบบแชมป์กลุ่ม 4 ทีม เหมือนทุกๆ ครั้ง และแน่นอนว่า ทีมไวลด์ การ์ด เรียกได้ว่าศักดิ์ศรีเป็นรอง ก็ต้องก้มหน้ารับสภาพสถานะทีมเยือนแทบตลอดโพสต์ซีซัน แม้จะมีผลงานช่วงเรกูลาร์ ซีซัน เหนือกว่าก็ตาม ดังนั้นเห็นได้ชัดว่า ผลประโยชน์และโอกาสลุ้นความสำเร็จของบางทีม ดูจะเป็นปัจจัยหลักสำหรับการเพิ่มทีมรอบเพลย์ออฟมากกว่าความเป็นธรรม
คงต้องลุ้นกันต่อว่า โรเจอร์ กูเดลล์ ประธาน NFL จะจัดการอย่างไรกับโควตาแชมป์กลุ่ม แต่อย่างน้อยๆ ฤดูกาลนี้ การประกบคู่รอบเพลย์ออฟ เราจะได้เห็นทีมจากกลุ่ม NFC ใต้ อย่าง แครอไลนา แพนเธอร์ส หรือ แอตแลนตา ฟอลคอนส์ ต้อนรับ กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส , ดีทรอยต์ ไลออนส์ รวมถึง ซีแอตเทิล ซีฮอว์คส ที่มีสิทธิ์จะหลุดเป็นเพียงทีม ไวลด์ การ์ด ทั้งที่ผลงาน แพนเธอร์ส กับ ฟอลคอนส์ ทำได้เต็มที่เพียง 7-8-1 และ 7-9 ตามลำดับ ซึ่งด้อยกว่า 3 คู่ต่อกรที่เป็นไปได้ทั้งหมด และ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ที่ตกรอบไปเสียอีก
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
ตั้งแต่พอจำความได้ การคัดทีมเข้าสู่รอบเพลย์ออฟของ ศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) จะประกอบด้วยตัวแทนสาย เอเอฟซี (AFC) และ เอ็นเอฟซี (NFC) ฝั่งละ 6 ทีม ประกอบด้วย แชมป์กลุ่ม 4 ทีม และไวลด์การ์ด 2 ทีม บางครั้งสำหรับคนที่ติดตามกีฬาประเภทนี้ใหม่ๆ ก็อาจสับสนบ้างว่า ทำไมทีมสถิติด้อยกว่า ได้สิทธิ์เป็นทีมเหย้า และทีมที่ผลงานดีกว่า ต้องเป็นทีมเยือน ซึ่งคาดกันว่า ฤดูกาล 2015 อาจมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
ยกตัวอย่างจากฤดูกาลที่แล้ว เราคงจะได้เห็นว่า กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส (8-7-1) เปิดรัง แลมโบฟิลด์ รับมือ ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส (12-4) และ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ (10-6) ต้อนรับการมาเยือนของ นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส (11-5) เป็นต้น แน่นอนว่า หากเทียบกับกีฬาอีกประเภทหนึ่งอย่าง บาสเก็ตบอล (NBA) เราจะเห็นว่า “โฮม ฟิลด์ แอดเวนเทจ” จะอยู่ในมือทีมที่สถิติเหนือกว่าเท่านั้น
สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เนื่องจากว่า การดวลกันของลีกคนชนคน มักจะมีศักดิ์ศรีคำว่า แชมป์กลุ่ม มาเป็นปัจจัยหนึ่งสำหรับการจัดทีมวาง ซึ่งบางครั้งก็ดูเหมือนแฟร์ หากพิจารณาแง่ความแข็ง-อ่อนของแต่ละดิวิชัน แต่ตรงกันข้าม หากกลุ่มๆ หนึ่ง มาตรฐานสูง และอีกกลุ่มหนึ่งมาตรฐานต่ำ ก็จะเกิดข้อสงสัยดังที่กล่าวมาแล้ว ทำเอา เจอร์รี โจนส์ เจ้าของทีม ดัลลัส คาวบอยส์ เรียกร้องถึงการเพิ่มทีมจาก 12 เป็น 14 ทีม
ลองวาดภาพคร่าวๆ หรือคาดเดากันไปต่างๆ นานา ก็จะพบว่า ทีมสถิติดีสุดของ AFC และ NFC จะรับสิทธิ์บายรอบแรก ที่เหลือก็เป็นการประกบคู่ตามปกติ เริ่มจาก อันดับ 2 พบ อันดับ 7, อันดับ 3 พบ อันดับ 6 และ อันดับ 4 พบ อันดับ 5 สำหรับพวกนักธุรกิจก็คงเชื่อว่า ทีมของตนจะได้ส่วนแบ่งจากการถ่ายทอดสดมากขึ้น แถมจับพลัดจับผลูเกิดทะลุถึง ซูเปอร์โบว์ล ก็อาจมีความสำเร็จติดไม้ติดมือ
ถ้าเทียบจากซีซันที่แล้ว สาย AFC อันดับ 7 ตกเป็นของ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส (8-8) เป็นรอง ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ เพียง 1 เกม ฟาก NFC เป็นของ อริโซนา คาร์ดินัลส์ (10-6) ซึ่งเท่ากับ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ เป๊ะ แต่กระเด็นตกรอบไป และ กัดฟันกรอดๆ ดู กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส (8-7-1) แชมป์กลุ่ม NFC เหนือ ปะทะ ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส (12-4) ก็นับว่าเป็นไอเดียที่เข้าท่า
หากยังยืนพื้นด้วยระบบแชมป์กลุ่ม 4 ทีม เหมือนทุกๆ ครั้ง และแน่นอนว่า ทีมไวลด์ การ์ด เรียกได้ว่าศักดิ์ศรีเป็นรอง ก็ต้องก้มหน้ารับสภาพสถานะทีมเยือนแทบตลอดโพสต์ซีซัน แม้จะมีผลงานช่วงเรกูลาร์ ซีซัน เหนือกว่าก็ตาม ดังนั้นเห็นได้ชัดว่า ผลประโยชน์และโอกาสลุ้นความสำเร็จของบางทีม ดูจะเป็นปัจจัยหลักสำหรับการเพิ่มทีมรอบเพลย์ออฟมากกว่าความเป็นธรรม
คงต้องลุ้นกันต่อว่า โรเจอร์ กูเดลล์ ประธาน NFL จะจัดการอย่างไรกับโควตาแชมป์กลุ่ม แต่อย่างน้อยๆ ฤดูกาลนี้ การประกบคู่รอบเพลย์ออฟ เราจะได้เห็นทีมจากกลุ่ม NFC ใต้ อย่าง แครอไลนา แพนเธอร์ส หรือ แอตแลนตา ฟอลคอนส์ ต้อนรับ กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส , ดีทรอยต์ ไลออนส์ รวมถึง ซีแอตเทิล ซีฮอว์คส ที่มีสิทธิ์จะหลุดเป็นเพียงทีม ไวลด์ การ์ด ทั้งที่ผลงาน แพนเธอร์ส กับ ฟอลคอนส์ ทำได้เต็มที่เพียง 7-8-1 และ 7-9 ตามลำดับ ซึ่งด้อยกว่า 3 คู่ต่อกรที่เป็นไปได้ทั้งหมด และ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ที่ตกรอบไปเสียอีก
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
