ASTV ผู้จัดการรายวัน – ศึกลูกหนังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2014/15 มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้น เมื่อทีม “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จับมือกับ เชฟโรเลต บริษัทผลิตรถยนต์ชั้นนำของอเมริกา เป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่พร้อมแปะโลโก้ไว้ที่หน้าอกเสื้อตลอด 7 ฤดูกาล และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นแคมเปญสำคัญอย่าง “เพลย์ ฟอร์ ดรีมส์” ของ เชฟโรเลต ประเทศไทย เพื่อมอบประสบการณ์ล้ำค่าแก่นักเตะเยาวชนไทย
สำหรับโครงการ “เล่นเพื่อฝัน - เพลย์ ฟอร์ ดรีมส์” เกิดจาก เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย นำแคมเปญระดับโลก “เพลย์ ฟอร์?” จากบริษัทแม่ในอเมริกา มาต่อยอดเป็นโครงการคัดเลือกนักเตะระดับเยาวชนอายุ 10-13 ปี ที่มีฝีเท้าโดดเด่นจากทั่วภูมิภาคของประเทศไทย บินลัดฟ้าสู่เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ชมเกมนัดสำคัญ “ศึกแดงเดือด” ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ ลิเวอร์พูล ที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งจบลงด้วยชัยชนะของ “ผีแดง” ที่ถล่มทีมคู่อริตลอดกาลแบบยับเยิน 3-0
ทั้งนี้ นายพิพัฒน์ หล่อไกรเลิศ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย เผยว่า “โครงการนี้เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ เชฟโรเลต เซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนที่ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก เปิดฤดูกาล ซึ่งเราก็หยิบแคมเปญ วอท ดู ยู เพลย์ ฟอร์? นั่นคือเล่นเพื่ออะไร? นำมาต่อยอดเป็น เล่นเพื่อฝัน และเด็กๆที่ผ่านการคัดเลือกทั้ง 5 คนก็จะเป็นตัวจุดประกายสำคัญที่ทำให้เด็กคนอื่นๆออกมาเดินตามความฝัน นั่นคือได้สัมผัสประสบการณ์ลูกหนังระดับโลกที่หาไม่ได้ง่ายๆ”
เมื่อกำหนดแนวทางชัดเจน ทีมงาน เชฟโรเลต ประเทศไทย ก็ได้ออกตระเวนเฟ้นหานักเตะเยาวชนทั่วประเทศที่กระหน่ำส่งใบสมัครเข้าร่วมโครงการถึง 3,000 คน จาก 10 จังหวัดที่ศูนย์การคัดเลือก ระหว่างวันที่ 21 มิถุนายน - 26 กรกฎาคม 2557 โดยคัดรอบแรกให้เหลือ 20 คน ก่อนนำมาอบรมเก็บตัวฝึกซ้อมร่วมกันที่กรุงเทพฯ และคัดเหลือเพียง 5 คนสุดท้ายที่ฝีเท้ายอดเยี่ยมที่สุด พร้อมกับบินไปชม “เกมแดงเดือด” ภายใต้ความดูแลของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย ที่ลงมือให้คะแนนตัดเกรดด้วยตัวเอง
สำหรับนักเตะรุ่นจิ๋วที่ผ่านการคัดเลือก ประกอบด้วย ด.ช.พบธรรม วันดี (ร.ร.ปรินส์รอยัลวิทยาลัย จ.เชียงใหม่), ด.ช.จักรพงษ์ แสนมะฮุง (ร.ร.ชุมชนดงมะไฟศิลป์เจริญ จ.สกลนคร), ด.ช.ณัฐวุฒิ เหลืองบริสุทธิ์ (ร.ร.ท่าข้ามพิทยาคม จ.ชลบุรี), ด.ช.ณัฐภัทร สิทธิสุวรรณกุล (ร.ร.อัสสัมชัญคอนแวนต์ ลานารายณ์ จ.ลพบุรี) และ ด.ช.ณัฐกิตติ์ ศรีสมบัติ จาก ร.ร.พระแม่มารี สาธุประดิษฐ์ จ.กรุงเทพฯ โดยเฉพาะรายหลังถูกรับเลือกให้เป็นมาสคอตได้จับมือ เวย์น รูนีย์ ศูนย์หน้าและฮีโร่ในดวงใจลงสนามก่อนเกมด้วย
หลังจบภารกิจตลอด 5 วันตั้งแต่ทัวร์สนามเหย้า “ผีแดง” จนถึงชมเกมบิ๊กแมตช์ ด.ช.พบธรรม หรือ “น้องภูพาน” วัย 13 ปี เป็นตัวแทนเปิดใจว่า “สิ่งที่ผมประทับใจที่สุดในทริปนี้คือการได้สัมผัสกับความเป็นมืออาชีพของนักเตะระดับโลก เพราะในเกมแม้มีจังหวะปะทะกันหนักหน่วงแต่ทุกอย่างก็จบลงภายใน 90 นาที ผิดกับวงการฟุตบอลไทยที่มีปัญหากระทบกระทั่งเกิดขึ้นบ่อยๆ บานปลายถึงขั้นบาดเจ็บซึ่งต้องมีการปรับปรุงให้ดีกว่านี้ ขณะเดียวกัน ผมจะนำประสบการณ์และโอกาสที่ได้รับมาพัฒนาตัวเองเพื่อเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่ดี และเดินตามฝันคือติดธงชาติไทยในอนาคต”
ด้าน นายพุธผ่อง แสนมะฮุง ผู้ปกครองของ จักรพงษ์ หรือ “น้องโอ๊ต” ที่เดินทางมาพร้อมกับลูกชายจากจังหวัดสกลนคร เผยบ้างว่า “นับเป็นโครงการที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนได้ลุกออกมาพัฒนาฝีเท้าเพื่อสานฝันของตัวเอง นั่นคือการเป็นนักเตะอาชีพที่มีคุณภาพของประเทศ ดังนั้น จึงอยากให้มีโครงการนี้ต่อไป เพราะหากทุกคนมีความพยายามและมุ่งมั่น ก็เชื่อว่าจะประสบความสำเร็จได้อย่างที่ตั้งใจ”
สุดท้าย นายพิพัฒน์ ได้กล่าวสรุปภาพรวม และเป้าหมายต่อไป รวมถึงอนาคตของเด็กทั้ง 5 คน เป็นการทิ้งท้ายว่า “เรียกว่าประสบความสำเร็จอย่างดี เพราะถึงจะเริ่มทำกันแค่ปีแรกและยังมีข้อบกพร่องในส่วนต่างๆ อยู่บ้าง เพราะเราเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านฟุตบอล แต่ก็ได้เสียงตอบรับที่ดีจากเด็กๆและผู้ปกครอง สังเกตได้ว่าวันที่ทีมงานลงพื้นที่ไปมีเด็กสวมสตั๊ดมารอคัดตัวจำนวนมาก รวมถึงผู้หญิงด้วย ซึ่งปีถัดไปก็มองว่าจะลองปรับเปลี่ยนรูปแบบการคัดเลือกเป็นระบบลีกคัดทีมที่ดีที่สุดจากทั่วประเทศเพียงหนึ่งเดียวไปสัมผัสประสบการณ์ยิ่งใหญ่ต่างแดน ส่วนน้องๆ ชุดแรกเราก็จะผลักดันให้พวกเขาได้ลองทดสอบฝีเท้าตามสโมสรต่างๆ ของไทย และเฝ้ามองดูการเติบโตของทุกคนต่อไป”
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *