xs
xsm
sm
md
lg

10 ปี “สตีวีจี” จุดประกาย ใครจะนำ “หงส์” ลิ่ว ชปล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ร็อดเจอร์ส ต้องการใครสักคน
เอเยนซี - ย้อนไป 10 ปีก่อนเชื่อว่าน่าจะยังติดตาตรึงใจสาวก “เดอะ ค็อป” กับจังหวะวิ่งมาตะบันไกลด้วยเท้าขวาระยะ 20 หลา ของ สตีเวน เจอร์ราร์ด พา ลิเวอร์พูล เปิดรัง แอนฟิลด์ ชนะ โอลิมเปียกอส จากกรีซ 3-1 ทำได้ตามเป้าเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ซึ่งวันอังคารที่ 9 ธันวาคมนี้ ทุกคนหวังว่าเหตุการณ์ทำนองนั้นจะเกิดขึ้นอีกครั้ง

เกมดังกล่าว ลิเวอร์พูล ต้องชนะด้วยความห่าง 2 ประตู แต่เริ่มมาได้ 26 นาที พลาดพลั้งตกเป็นรองจากการยิงของ ริวัลโด ทว่าสามารถแซงนำจาก ฟลอร็องต์ ซินามา ปงโกลล์ กับ นีล มิลเลอร์ ทุกสิ่งทุกอย่างทำท่าจะจบลงด้วยความผิดหวังของเจ้าถิ่น ทว่าก่อนหมดเวลา 4 นาที เจอร์ราร์ด ยิงจากนอกกรอบเขตโทษผ่านมือ อันโตนิส นิโคโปลิดิส ชนะ โอลิมเปียกอส 3-1 มี 10 แต้มเท่ากัน แต่เฮด-ทู-เฮด “หงส์แดง” ดีกว่า นอกจากนี้ ใครจะเชื่อว่าฤดูกาลนั้นบั้นปลายยอดสโมสรจากอังกฤษจะก้าวไปคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 5 ได้สำเร็จ ด้วยเหตุการณ์ดราม่าตามตีเสมอ เอซี มิลาน 3-3 ก่อนชนะจุดโทษ 3-2

ดังนั้น เกมนัดสุดท้าย กลุ่ม บี วันอังคารนี้ ลิเวอร์พูล ต้องการนักเตะที่จะจุดประกายจูงทีมเข้าสู่รอบน็อกเอาต์อีกครั้ง โดยตอนนี้มี 4 แต้ม ต้องชนะ เอฟซี บาเซิล ผู้มาเยือนจากสวิตเซอร์แลนด์ ที่มี 6 แต้ม หากทำได้ก็ไม่ต้องสนใจผลคู่ รีล มาดริด แชมป์เก่าที่เข้ารอบไปแล้วมี 15 แต้ม ต้อนรับ ลูโดโกเร็ตส์ ราซกราด จากบัลแกเรีย ที่มี 4 แต้ม

แต่ภายใต้ฟอร์มเช่นนี้ ลิเวอร์พูล เหนื่อยหนักแน่นอน เนื่องจาก เจอร์ราร์ด กองกลางกัปตันทีมร่วงโรยเข้าวัย 34 ปี ขณะที่เกม พรีเมียร์ ลีก เมื่อวันเสาร์ที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา เล่นในบ้าน แต่ทำอะไร ซันเดอร์แลนด์ ไม่ได้เสมอกัน 0-0 เกมนั้น เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือพัก “สตีวี่จี” โดยส่งลงมาช่วง 23 นาทีสุดท้าย ก็เพราะมองข้ามช็อตเพื่อให้สดสำหรับถ้วยยุโรป

ก่อนเกม ลูคัส เลวา กองกลางชาวบราซิเลียน เผยว่า “เรายังคงมีความหวังค่อนข้างสูงที่จะเข้ารอบ แชมเปียนส์ ลีก ดังนั้น แทบจะอดใจไม่ไหวแล้วที่จะเล่นเกมนี้ในบ้าน ซึ่งก็น่าจะเป็นค่ำคืนอันสุดพิเศษต่อหน้าแฟนๆ ถ้าชนะก็จะได้ไปต่อ ตอนนี้ทุกคนต้องมองในแง่บวก เนื่องจากทุกอย่างอยู่ในมือเราแล้ว”

แต่ใครที่จะมาทำแบบเดียวกับ เจอร์ราร์ด เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ซึ่งกวาดสายตาตอนนี้ยังไม่เห็น มิเช่นนั้น สถานการณ์ในลีกคงไม่ตามจ่าฝูง เชลซี สุดกู่ถึง 15 แต้มทั้งที่เพิ่งผ่านไป 15 นัด ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ดาวยิงทีมชาติอังกฤษ เจ็บยาวที่กล้ามเนื้อลงไม่ได้แน่นอน ซึ่งล่าสุดมีภาพสามารถลงเรียกความฟิตเบาๆ ได้ที่สหรัฐอเมริกา ด้าน มาริโอ บาโลเตลลี ยังต้องเช็กสภาพจนนาทีสุดท้าย เพราะไม่ได้เล่นมาแล้ว 5 นัดจากอาการบาดเจ็บต้นขา นัดที่เสมอ ซันเดอร์แลนด์ ริคกี แลมเบิร์ต ได้เล่นตำแหน่งหน้าเป้า แต่ด้วยวัย 32 ปี ทำอะไรก็ไม่ถนัด ที่ผ่านมายิงไป 2 ลูกเท่านั้นรวมทุกรายการ

สถานการณ์ฤดูกาล 2004-05 ในลีกตอนนั้นก็คล้ายกับที่ ลิเวอร์พูล เผชิญอยู่ ณ เวลานี้ ย้อนไปคือจบอันดับ 5 ไม่ได้โควตาไปเล่น แชมเปียนส์ ลีก แต่สุดท้ายไปในฐานะแชมป์เก่า ซึ่งก็ต้องเหนื่อยหนักไปเล่นรอบคัดเลือกตั้งแต่รอบแรก ปีนี้ “หงส์แดง” ก็ส่อแววไม่ได้โควตาติดท็อปโฟร์ ทั้งที่เพิ่งได้กลับมาเล่นยุโรปครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2009

บาเซิล ถือว่าประสบการณ์ถ้วย แชมเปียนส์ ลีก เขี้ยวลากดินไม่น้อย นัดล่าสุดกว่า รีล มาดริด จะบุกมาชนะ 1-0 ก็เหนื่อยหนักไม่น้อย ซึ่งคุมทัพมาโดย เปาโล ซูซา ที่เคยกุมบังเหียน สวอนซี ซิตี กับ เลสเตอร์ ซิตี ก่อนเกมอดีตนักเตะที่เคยคว้าแชมป์ถ้วยใบนี้กับ ยูเวนตุส และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จึงออกมากระตุ้นลูกทีม

“ถ้าเราสามารถผ่านเข้ารอบต่อไปได้คงปลาบปลื้มน่าดู ถือเป็นเป้าหมายแรกตอนนี้ ซึ่งทุกคนก็ทราบดีว่ายากแค่ไหน แต่ก็เหลืออีกเพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น ส่วนตัวผมเคารพ ร็อดเจอร์ส เขาฝากผลงานยอดเยี่ยมไว้กับ สวอนซี และ ลิเวอร์พูล แต่วันอังคารนี้เราต้องมีสมาธิที่ตนเองเพื่อรีดศักยภาพออกมาให้มากที่สุด” อดีตกองกลางทีมชาติโปรตุเกส เผย

เกมนี้ บาเซิล จะได้ เซรีย์ ดิเอ แข้งชาวไอวอรี โคสต์ ที่ติดโทษแบนเฉพาะศึก สวิส ซูเปอร์ ลีก กลับมาช่วยแผงมิดฟิลด์ เช่นเดียวกับ มาร์โก สเตลเลอร์ หอกตัวเก๋า เรียกความฟิตจากอาการบาดเจ็บที่หลัง ทว่ายังไร้ โจวานนี กองหน้าชาวบราซิเลียน ที่ยังคงมีปัญหาที่หัวเข่า

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


“หงส์” ต้องพึ่ง ราฮีม สเตอร์ลิง
เจอร์ราร์ด ยิงไกลปี 2004
บาเซิล เขี้ยวลากดินในถ้วยยุโรป
กำลังโหลดความคิดเห็น