โลอิค เรมี ศูนย์หน้าชาวฝรั่งเศสของ เชลซี อาจทำเอากองเชียร์ ลิเวอร์พูล ออกอาการเสียดาย หลัง เจ้าตัว ลงสนาม ศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เพียง 160 นาที แต่กลับทะลวงตาข่ายเทียบเท่ากับ 4 หัวหอกแห่งย่านเมอร์ซีย์ไซด์
ดาวยิงดีกรีทีมชาติฝรั่งเศส ยินยอมรับบทบาทพระรอง “สิงโตน้ำเงินคราม” เนื่องจากความร้อนแรงของ ดีเอโก กอสตา กอปรกับ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ก็ถือเป็นนักเตะคู่บุญของ โชเซ มูรินโญ นายใหญ่ฝีปากกล้าชาวโปรตุกีส ทว่ายังสามารถซัลโวถึง 2 ประตู แม้ไม่ค่อยได้รับโอกาสสำแดงฝีเท้าย่อยนัก
เรมี วัย 28 ปี ซึ่งสังหารไปแล้ว 3 ประตู (รวมทุกรายการ) ตลอดฤดูกาล 2014-15 หลังถูก เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือ เมินเซ็นสัญญาร่วมทัพ ช่วงซัมเมอร์ หายหน้าหายตาไปนาน เพราะอาการบาดเจ็บโคนขาหนีบ ตั้งแต่เกมถล่ม มาริบอร์ 6-0 รอบแบ่งกลุ่ม ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ขุมกำลังแนวรุกค่าย แอนฟิลด์ ประกอบด้วย แดเนียล สเตอร์ริดจ์, มาริโอ บาโลเตลลี, ริคกี แลมเบิร์ต และ ฟาบิโอ บอรินี คลำเป้าเจอรวมกันเพียง 2 ประตู (นับเฉพาะ พรีเมียร์ ลีก) ระหว่างการออกสตาร์ทอันย่ำแย่
โดย บาโลเตลลี แข้งค่าตัว 16 ล้านปอนด์ (ประมาณ 800 ล้านบาท) กำลังฝืดสุดขีด หลังย้ายมาสวมยูนิฟอร์ม “หงส์แดง” แถมยังยิงประตูไม่ได้เกม ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ไม่ได้เลย ถึงแม้ลงเล่นตัวจริง 8 จาก 14 เกม รวมทั้งสิ้น 685 นาที ส่วน สเตอร์ริดจ์ อีกหนึ่งความหวังจบสกอร์ ซัดเพียง 1 ประตู ก่อนจะเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา จนต้องพักยาว ตั้งแต่เดือนกันยายน
ด้าน แลมเบิร์ต ที่ย้ายจาก เซาแธมป์ตัน ค่าตัว 4 ล้านปอนด์ (ประมาณ 200 ล้านบาท) เพิ่งได้รับโอกาสติดทีม 11 คนแรก ก่อนจะเปิดบัญชี เกมพ่าย คริสตัล พาเลซ 1-3 ที่สนาม เซลเฮิร์สต ปาร์ก เมื่อเดือนพฤศจิกายน และ บอรินี สำรองอดทน ก็ยังปลดล็อกไม่สำเร็จ หลังลงสนามไป 156 นาที
อย่างไรก็ตาม อดีตผู้เล่น ควีนสปาร์ก เรนเจอร์ส ซึ่งส่งบอลสู่ก้นตาข่าย 3 ครั้ง จาก 9 เกม ให้ ยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอน ยอมรับตนต้องรักษาฟอร์มเก่งต่อไป “สำหรับผม มันมีความหมายอย่างยิ่งที่ทำประตูได้ เพราะ ดีเอโก กอสตา ไม่ได้ลงสนามคืนนี้ (ชนะ สเปอร์ส 3-0) และ ดิดิเยร์ (ดร็อกบา) ก็ยังโดดเด่น”
สถิติการลงสนามกับจำนวนประตูใน พรีเมียร์ ลีก ระหว่าง โลอิค เรมี กับ 4 กองหน้า ลิเวอร์พูล
โลอิค เรมี (เชลซี) : 2 ประตู จาก 160 นาที
ริคกี แลมเบิร์ต (ลิเวอร์พูล) : 1 ประตู จาก 445 นาที
แดเนียล สเตอร์ริดจ์ (ลิเวอร์พูล) : 1 ประตู จาก 270 นาที
ฟาบิโอ บอรินี (ลิเวอร์พูล) : 0 ประตู จาก 156 นาที
มาริโอ บาโลเตลลี (ลิเวอร์พูล) : 0 ประตู จาก 685 นาที
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
ดาวยิงดีกรีทีมชาติฝรั่งเศส ยินยอมรับบทบาทพระรอง “สิงโตน้ำเงินคราม” เนื่องจากความร้อนแรงของ ดีเอโก กอสตา กอปรกับ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ก็ถือเป็นนักเตะคู่บุญของ โชเซ มูรินโญ นายใหญ่ฝีปากกล้าชาวโปรตุกีส ทว่ายังสามารถซัลโวถึง 2 ประตู แม้ไม่ค่อยได้รับโอกาสสำแดงฝีเท้าย่อยนัก
เรมี วัย 28 ปี ซึ่งสังหารไปแล้ว 3 ประตู (รวมทุกรายการ) ตลอดฤดูกาล 2014-15 หลังถูก เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือ เมินเซ็นสัญญาร่วมทัพ ช่วงซัมเมอร์ หายหน้าหายตาไปนาน เพราะอาการบาดเจ็บโคนขาหนีบ ตั้งแต่เกมถล่ม มาริบอร์ 6-0 รอบแบ่งกลุ่ม ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ขุมกำลังแนวรุกค่าย แอนฟิลด์ ประกอบด้วย แดเนียล สเตอร์ริดจ์, มาริโอ บาโลเตลลี, ริคกี แลมเบิร์ต และ ฟาบิโอ บอรินี คลำเป้าเจอรวมกันเพียง 2 ประตู (นับเฉพาะ พรีเมียร์ ลีก) ระหว่างการออกสตาร์ทอันย่ำแย่
โดย บาโลเตลลี แข้งค่าตัว 16 ล้านปอนด์ (ประมาณ 800 ล้านบาท) กำลังฝืดสุดขีด หลังย้ายมาสวมยูนิฟอร์ม “หงส์แดง” แถมยังยิงประตูไม่ได้เกม ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ไม่ได้เลย ถึงแม้ลงเล่นตัวจริง 8 จาก 14 เกม รวมทั้งสิ้น 685 นาที ส่วน สเตอร์ริดจ์ อีกหนึ่งความหวังจบสกอร์ ซัดเพียง 1 ประตู ก่อนจะเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา จนต้องพักยาว ตั้งแต่เดือนกันยายน
ด้าน แลมเบิร์ต ที่ย้ายจาก เซาแธมป์ตัน ค่าตัว 4 ล้านปอนด์ (ประมาณ 200 ล้านบาท) เพิ่งได้รับโอกาสติดทีม 11 คนแรก ก่อนจะเปิดบัญชี เกมพ่าย คริสตัล พาเลซ 1-3 ที่สนาม เซลเฮิร์สต ปาร์ก เมื่อเดือนพฤศจิกายน และ บอรินี สำรองอดทน ก็ยังปลดล็อกไม่สำเร็จ หลังลงสนามไป 156 นาที
อย่างไรก็ตาม อดีตผู้เล่น ควีนสปาร์ก เรนเจอร์ส ซึ่งส่งบอลสู่ก้นตาข่าย 3 ครั้ง จาก 9 เกม ให้ ยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอน ยอมรับตนต้องรักษาฟอร์มเก่งต่อไป “สำหรับผม มันมีความหมายอย่างยิ่งที่ทำประตูได้ เพราะ ดีเอโก กอสตา ไม่ได้ลงสนามคืนนี้ (ชนะ สเปอร์ส 3-0) และ ดิดิเยร์ (ดร็อกบา) ก็ยังโดดเด่น”
สถิติการลงสนามกับจำนวนประตูใน พรีเมียร์ ลีก ระหว่าง โลอิค เรมี กับ 4 กองหน้า ลิเวอร์พูล
โลอิค เรมี (เชลซี) : 2 ประตู จาก 160 นาที
ริคกี แลมเบิร์ต (ลิเวอร์พูล) : 1 ประตู จาก 445 นาที
แดเนียล สเตอร์ริดจ์ (ลิเวอร์พูล) : 1 ประตู จาก 270 นาที
ฟาบิโอ บอรินี (ลิเวอร์พูล) : 0 ประตู จาก 156 นาที
มาริโอ บาโลเตลลี (ลิเวอร์พูล) : 0 ประตู จาก 685 นาที
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *