xs
xsm
sm
md
lg

2015 AFC Champions League / กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน

ฟุตบอลชิงแช้มพ์สโมสรทวีปเอเชีย (AFC Champions League) จะกลับมาเปิดฉากอีกครั้งเป็นหนที่ 34 เริ่มเตะรอบคัดเลือกกันตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2015 ซึ่งนับเป็นปีที่ 13 แล้วที่ เอเอฟซี ใช้ระบบใหม่ในการจัดการแข่งขัน มี รอบแบ่งกลุ่มและ รอบน้อค-เอ๊าท์ แบบสากลเหมือนในทวีปยุโรป ซึ่งแช้มพ์รายการนี้จะได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน ฟุตบอลชิงแช้มพ์สโมสรโลก (2015 FIFA Club World Cup) ในช่วงปลายปีด้วย

ในเรื่องการแบ่งสรรโควต้าทีมสโมสรของแต่ละชาติที่ได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน ทั้งในรอบแบ่งกลุ่ม และ รอบ เพลย์-อ๊อฟ ก็ยังใช้ระบบเดิมที่ทางคณะกรรมการด้านการแข่งขันของ สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (Asian Football Confederation - AFC) เสนอไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2013 เพื่อให้ใช้สำหรับฤดูกาล 2014-16 ทั้งนี้ มีข้อจำกัดด้วยว่าโควต้าที่แต่ละชาติได้นั้นต้องมีจำนวนไม่เกิน 1 ใน 3 ของจำนวนทีมในลีกสูงสุดของตน

ทาง เอเอฟซี มีแบบวิธีการประเมินความพร้อมในด้านต่างๆ ของชาติสมาชิก ให้เป็นคะแนนเพื่อจัดอันดับ โดยชาติสมาชิกที่ติดใน 24 อันดับแรกของ เอเอฟซี สามารถยื่นสมัครเข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งก็จะแบ่งออกเป็น 2 ซีก คือ ซีกตะวันออก นับจาก อินเดีย มาทางตะวันออกทั้งหมด และ ซีกตะวันตก อันนี้ถัดจาก อินเดีย ไปทางด้านตะวันตกก็จะประกอบด้วยชาติแขกทั้งหลาย

แต่ละซีกมี 16 ทีม โดย 12 ทีมได้เข้ารอบแบ่งกลุ่มโดยตรง ส่วนอีก 4 ทีมนั้นต้องผ่าน รอบเพลย์-อ๊อฟ ซึ่งมีถึง 3 รอบ เมื่อได้มาครบแล้วก็แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม รวม 2 ซีกก็เป็น 8 กลุ่ม แข่งกันแบบพบกันหมดในกลุ่ม แบบเหย้า-เยือน แล้วคัดเอา 2 อันดับแรกของแต่ละกลุ่มเข้าสู่ รอบน้อค-เอ๊าท์ 16 ทีม 8 ทีม และรอบรองชนะเลิศ จนถึงนัดชิงชนะเลิศ ซึ่งก็ยังใช้ ระบบเหย้า-เยือน

และเมื่อวันที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมา ทางคณะกรรมการด้านการแข่งขันได้เสนอให้ปรับปรุงวิธีการเพื่อจัดอันดับชาติสมาชิกอีก โดยให้ขึ้นอยู่กับผลงานของทีมชาติและสโมสรในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา อันนี้ให้ใช้สำหรับฤดูกาล 2015 และ 2016 ซึ่งได้รับการรับรองจากคณะกรรมการบริหาร เอเอฟซี แล้วตั้งแต่วันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา ที่สำคัญก็คือให้น้ำหนักกับระดับสโมสร 70 เพอร์เซ็นท์ ส่วนทีมชาติ 30 เพอร์เซ็นท์

เมื่อเราดูตารางคะแนนที่ เอเอฟซี ทำออกมาล่าสุดเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา นั้น จะเห็นได้ว่า ไทย มีคะแนนในระดับสโมสร 27.585 จาก 70 คะแนน อันนี้น่าจะได้รับผลบุญจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่โชว์ผลงานใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ส่วนในระดับทีมชาติ ไทย มีคะแนนเพียง 5.464 จาก 30 คะแนน นับว่าน้อยมากเพราะที่ผ่านมา สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ไม่ค่อยให้ความสนใจเกมที่ ฟีฟา รับรองและคิดคะแนนให้ อย่างไรก็ตาม คะแนนรวมของ ไทย เป็น 33.049 รั้งอันดับ 13 ของทวีปเอเชีย และเป็นอันดับ 5 ของซีกตะวันออก ทำให้เราได้โควตา เอซีแอล 1+2 คือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฐานะแช้มพ์ โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก 2014 ได้เข้ารอบแบ่งกลุ่ม ส่วนอีก 2 ทีมได้เข้า รอบเพลย์-อ๊อฟ คือ บางกอกกล๊าส เอฟซี ในฐานะแช้มพ์ เอฟเอ คัพ และ ชลบุรี เอฟซี รองแช้มพ์ โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก

ที่ผมเล่ามานั้นยังเป็นเพียงคะแนนและการจัดอันดับล่าสุดของ เอเอฟซี ซึ่งจะมีผลอย่างเป็นทางการเมื่อทาง เอเอฟซี ให้การรับรองในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ อย่างไรก็ตาม กำหนดการแข่งขันได้ถูกประกาศออกมาล่วงหน้าแล้ว ดังนี้ รอบเพลย์-อ๊อฟ เล่นกันนัดเดียวไม่มีเหย้า-เยือน รอบแรก 4 กุมภาพันธ์ รอบสอง 10 กุมภาพันธ์ และรอบสาม 17 กุมภาพันธ์ รอบแบ่งกลุ่ม เริ่มนัดแรก 24 กุมภาพันธ์ นัดที่สอง 3-4 มีนาคม นัดที่สาม 17-18 มีนาคม นัดที่สี่ 7-8 เมษายน นัดที่ห้า 21-22 เมษายน และนัดที่หก 5-6 พฤษภาคม รอบน้อค-เอ๊าท์ 16 ทีม นัดแรก 19-20 พฤษภาคม นัดที่สอง 26-27 พฤษภาคม รอบ 8 ทีม นัดแรก 25-26 สิงหาคม นัดที่สอง 15-16 กันยายน รอบรองชนะเลิศ นัดแรก 29-30 กันยายน นัดที่สอง 20-21 ตุลาคม และรอบชิงชนะเลิศ นัดแรก 7 พฤศจิกายน นัดที่สอง 21 พฤศจิกายน ทั้งนี้ จะมีการจับสลาก รอบเพลย์-อ๊อฟ และ รอบแบ่งกลุ่ม กันในวันที่ 11 ธันวาคมนี้ ที่สำนักงานใหญ่ใน กรุงกัวลา ลุมโปร์ ประเทศมาเลเซีย

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น