คอลัมน์ BUZZER BEAT โดย MVP
อย่าเพิ่งสับสนหากมองเพียงชื่อว่า บทความชิ้นนี้จะเกี่ยวข้องกับฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เนื่องจาก ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ชั่วโมงนี้ ฟอร์มไม่ค่อยดีนักจนเริ่มมีเครื่องหมายคำถามต่อ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน กุนซืออาร์เจนไตน์ หากข้ามมามองฝั่งสหรัฐอเมริกา ซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส อาการก็ดูจะใกล้เคียงกันอยู่บ้าง หลังเปิดฉากศึก บาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ฤดูกาล 2014-15 สถิติของพวกเขาเพิ่งข้ามผ่าน 50 เปอร์เซ็นต์ มาหมาดๆ
บางครั้งเกิดนึกขึ้นมาในใจว่า สเปอร์ส ของ เกร็ก โพโพวิช เฮดโค้ชประสบการณ์สูง ออกสตาร์ทดูจะไม่สมศักดิ์ศรี แชมป์เก่า เท่าไร ด้วยผลงาน ชนะ 4 แพ้ 3 ขยับรั้งอันดับ 8 ของสายตะวันตก ซึ่งความปราชัย 2 จาก 3 เกม เป็นการดวลกับทีมที่ไม่ติดพื้นที่เพลย์ออฟ (ท็อป 8) อย่าง ฟีนิกซ์ ซันส์ และ นิวออร์ลีนส์ เพลิแกนส์ ก่อนจะมาแก้ตัว ปราบ แอลเอ คลิปเปอร์ส ตามด้วย โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส ที่กำลังฟอร์มแรง
ตั้งแต่ก่อนเปิดฤดูกาล บอกตามตรงว่า รู้สึกประหลาดใจไม่น้อยที่บรรดาผู้จัดการทั่วไปของ NBA อุ้มชู สเปอร์ส เป็นเต็ง 1 เหนือ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ภายใต้การนำของ “บิ๊กทรี” ประกอบด้วย คายรี เออร์วิง , เลอบรอน เจมส์ และ เควิน เลิฟ ที่นับว่ามาแรงกว่า 3 ขุนพลแห่งถิ่น เอที แอนด์ ที เซ็นเตอร์ อย่าง ทิม ดันแคน , โทนี พาร์เกอร์ และ มานู จิโนบิลี ที่ใกล้จะปลดระวางเต็มทน
ถ้าเทียบตัวกุนซือ แน่นอนว่าเครดิตของ “โค้ชพ็อพ” ที่คุมทีมมานานถึง 17 ฤดูกาล นานสุดของ NBA ชั่วโมงนี้ ย่อมเหนือกว่า เดวิด แบล็ตต์ ของ คาวาเลียร์ส ที่สร้างชื่อจากการคว้าแชมป์ ยูโร ลีก เมื่อซีซันที่แล้ว มากมายนัก โดยเฉพาะการปลุกปั้นส่วนเกินของแฟรนไชส์อื่นๆ ขึ้นมาเป็นดาวจรัสแสง เช่น บอริส เดียว ฟอร์เวิร์ดชาวฝรั่งเศส กำลังเสริมชั้นดีบนม้านั่งสำรอง หรือเด็กหนุ่มโนเนมอย่าง คาไว เลียวนาร์ด ที่กลายเป็นเจ้าของรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) รอบชิงชนะเลิศ
สิ่งหนึ่งที่สร้าง สเปอร์ส เป็นทีมแกร่งของสาย นั่นคือ ทีมเวิร์ก ที่ไม่ได้ฝากความหวังเพียงแค่คนใดคนหนึ่ง ซึ่งแต่ละเกม เรามักจะเห็นว่า ดันแคน , เลียวนาร์ด , พาร์เกอร์ , เดียว หรือ จิโนบิลี ผลัดกันโดดเด่นช่วยทีมคว้าชัยมาได้นับครั้งไม่ถ้วน คล้ายๆ กับ อินเดียนา เพเซอร์ส สัก 2-3 ปีก่อน ถือเป็นสาเหตุหนึ่งที่ป่วนเกมรับของคู่แข่ง เนื่องจากไม่รู้ว่าจะต้องจับตาใครมากเป็นพิเศษ
เริ่มต้นซีซันใหม่ ขุมกำลังหลักๆ ของ สเปอร์ส ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากมายนัก ความเข้าขารู้ใจกันระหว่างผู้เล่น ย่อมมากขึ้น หลายๆ คนที่ชื่นชอบทีมบาสเก็ตบอลซึ่งไม่ต้องการซูเปอร์สตาร์ อาจมองว่า ทีมของ โพโพวิช น่าจะไปได้ไกลอีกครั้ง แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า แชมป์ 5 สมัย ยังคงมี ดันแคน , พาร์เกอร์ และ จิโนบิลี ซึ่งอายุเพิ่มขึ้นอีก 1 ปี
ต้องไม่ลืมเสียว่า เรกูลาร์ ซีซัน ของ NBA ยังต้องดวลกันถึง 82 เกม ช่วงต้นฤดูกาลเช่นนี้ ถือว่าเป็นเวลาอันเหมาะสมที่จะเปิดโอกาสผู้เล่นรายอื่นๆ แสดงฝีมือเต็มที่ในเกมที่เอาจริงเอาจัง และการถนอมบรรดาผู้อาวุโสที่เปรียบดั่งเสาหลัก ก็นับว่าสำคัญอย่างยิ่ง ครั้นจะทู่ซี้ปล่อย ดันแคน , พาร์เกอร์ และ จิโนบิลี เล่น 30-35 นาที ทุกๆ เกม ย่อมเสี่ยงต่อการบาดเจ็บและอาการล้าช่วงบั้นปลาย เชื่อว่า นับจากนี้สัก 1-2 เดือน สเปอร์ส ด้วยประสบการณ์ของ โพโพวิช และ บรรดาตัวเก๋าทั้งหลาย น่าจะเร่งเครื่องมาอยู่หัวแถวเมื่อถึงช่วงกลางเรกูลาร์ ซีซัน อย่างแน่นอน
อย่าเพิ่งสับสนหากมองเพียงชื่อว่า บทความชิ้นนี้จะเกี่ยวข้องกับฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เนื่องจาก ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ชั่วโมงนี้ ฟอร์มไม่ค่อยดีนักจนเริ่มมีเครื่องหมายคำถามต่อ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน กุนซืออาร์เจนไตน์ หากข้ามมามองฝั่งสหรัฐอเมริกา ซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส อาการก็ดูจะใกล้เคียงกันอยู่บ้าง หลังเปิดฉากศึก บาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ฤดูกาล 2014-15 สถิติของพวกเขาเพิ่งข้ามผ่าน 50 เปอร์เซ็นต์ มาหมาดๆ
บางครั้งเกิดนึกขึ้นมาในใจว่า สเปอร์ส ของ เกร็ก โพโพวิช เฮดโค้ชประสบการณ์สูง ออกสตาร์ทดูจะไม่สมศักดิ์ศรี แชมป์เก่า เท่าไร ด้วยผลงาน ชนะ 4 แพ้ 3 ขยับรั้งอันดับ 8 ของสายตะวันตก ซึ่งความปราชัย 2 จาก 3 เกม เป็นการดวลกับทีมที่ไม่ติดพื้นที่เพลย์ออฟ (ท็อป 8) อย่าง ฟีนิกซ์ ซันส์ และ นิวออร์ลีนส์ เพลิแกนส์ ก่อนจะมาแก้ตัว ปราบ แอลเอ คลิปเปอร์ส ตามด้วย โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส ที่กำลังฟอร์มแรง
ตั้งแต่ก่อนเปิดฤดูกาล บอกตามตรงว่า รู้สึกประหลาดใจไม่น้อยที่บรรดาผู้จัดการทั่วไปของ NBA อุ้มชู สเปอร์ส เป็นเต็ง 1 เหนือ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ภายใต้การนำของ “บิ๊กทรี” ประกอบด้วย คายรี เออร์วิง , เลอบรอน เจมส์ และ เควิน เลิฟ ที่นับว่ามาแรงกว่า 3 ขุนพลแห่งถิ่น เอที แอนด์ ที เซ็นเตอร์ อย่าง ทิม ดันแคน , โทนี พาร์เกอร์ และ มานู จิโนบิลี ที่ใกล้จะปลดระวางเต็มทน
ถ้าเทียบตัวกุนซือ แน่นอนว่าเครดิตของ “โค้ชพ็อพ” ที่คุมทีมมานานถึง 17 ฤดูกาล นานสุดของ NBA ชั่วโมงนี้ ย่อมเหนือกว่า เดวิด แบล็ตต์ ของ คาวาเลียร์ส ที่สร้างชื่อจากการคว้าแชมป์ ยูโร ลีก เมื่อซีซันที่แล้ว มากมายนัก โดยเฉพาะการปลุกปั้นส่วนเกินของแฟรนไชส์อื่นๆ ขึ้นมาเป็นดาวจรัสแสง เช่น บอริส เดียว ฟอร์เวิร์ดชาวฝรั่งเศส กำลังเสริมชั้นดีบนม้านั่งสำรอง หรือเด็กหนุ่มโนเนมอย่าง คาไว เลียวนาร์ด ที่กลายเป็นเจ้าของรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) รอบชิงชนะเลิศ
สิ่งหนึ่งที่สร้าง สเปอร์ส เป็นทีมแกร่งของสาย นั่นคือ ทีมเวิร์ก ที่ไม่ได้ฝากความหวังเพียงแค่คนใดคนหนึ่ง ซึ่งแต่ละเกม เรามักจะเห็นว่า ดันแคน , เลียวนาร์ด , พาร์เกอร์ , เดียว หรือ จิโนบิลี ผลัดกันโดดเด่นช่วยทีมคว้าชัยมาได้นับครั้งไม่ถ้วน คล้ายๆ กับ อินเดียนา เพเซอร์ส สัก 2-3 ปีก่อน ถือเป็นสาเหตุหนึ่งที่ป่วนเกมรับของคู่แข่ง เนื่องจากไม่รู้ว่าจะต้องจับตาใครมากเป็นพิเศษ
เริ่มต้นซีซันใหม่ ขุมกำลังหลักๆ ของ สเปอร์ส ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากมายนัก ความเข้าขารู้ใจกันระหว่างผู้เล่น ย่อมมากขึ้น หลายๆ คนที่ชื่นชอบทีมบาสเก็ตบอลซึ่งไม่ต้องการซูเปอร์สตาร์ อาจมองว่า ทีมของ โพโพวิช น่าจะไปได้ไกลอีกครั้ง แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า แชมป์ 5 สมัย ยังคงมี ดันแคน , พาร์เกอร์ และ จิโนบิลี ซึ่งอายุเพิ่มขึ้นอีก 1 ปี
ต้องไม่ลืมเสียว่า เรกูลาร์ ซีซัน ของ NBA ยังต้องดวลกันถึง 82 เกม ช่วงต้นฤดูกาลเช่นนี้ ถือว่าเป็นเวลาอันเหมาะสมที่จะเปิดโอกาสผู้เล่นรายอื่นๆ แสดงฝีมือเต็มที่ในเกมที่เอาจริงเอาจัง และการถนอมบรรดาผู้อาวุโสที่เปรียบดั่งเสาหลัก ก็นับว่าสำคัญอย่างยิ่ง ครั้นจะทู่ซี้ปล่อย ดันแคน , พาร์เกอร์ และ จิโนบิลี เล่น 30-35 นาที ทุกๆ เกม ย่อมเสี่ยงต่อการบาดเจ็บและอาการล้าช่วงบั้นปลาย เชื่อว่า นับจากนี้สัก 1-2 เดือน สเปอร์ส ด้วยประสบการณ์ของ โพโพวิช และ บรรดาตัวเก๋าทั้งหลาย น่าจะเร่งเครื่องมาอยู่หัวแถวเมื่อถึงช่วงกลางเรกูลาร์ ซีซัน อย่างแน่นอน