ASTVผู้จัดการรายวัน - ฟุตบอลโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก 2014 ปิดฉากลง พร้อมกับ 5 ทีมบนสังเวียนแข้งแห่งลีกสูงสุดต้องโบกมือลา ซึ่งเป็นธรรมเนียมเมื่อมีทีมตกชั้นก็ย่อมมีทีมเลื่อนชั้น เหล่าบรรดาทีมน้องใหม่ที่น่าจับตามองอย่าง นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี, กัลฟ์ สระบุรี เอฟซี และ สโมสรฟุตบอลราชนาวี ที่เลื่อนชั้นมาจากยามาฮา ลีกวัน (ดิวิชัน 1) รอวันขึ้นมาพิสูจน์บนเวทีไทยพรีเมียร์ลีกที่นักเตะอาชีพทุกคนใฝ่ฝัน
นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี - ฉายา สวาทแคท หรือ เจ้าแมวพิฆาต เลื่อนชั้นเป็นทีมแรกคว้าตำแหน่งแชมป์ ยามาฮา ลีกวัน (ดิวิชัน 1)ฤดูกาล 2014 ไปครอง ภายใต้การดูแลของผู้จัดการทีม “บิ๊กโต” วัชรพล โตมรศักดิ์ สามารถพาทีมเลื่อนชั้นขึ้นสู่เวทีไทยพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แม้ก่อนปิดซีซันจะมีปัญหาขัดแย้งภายในทีมจนมีข่าวว่า “บิ๊กโต” จะอำลาทีม แต่สุดท้ายก็ปรับความเข้าใจและกลับมาดำรงตำแหน่งตามเดิม เคียงข้าง ซูกาโอะ คัมเบะ กุนซือชาวญี่ปุ่นที่กำลังมีแผนเตรียมต่อสัญญาเพิ่มอีก 3 ปี
สำหรับ สวาทแคท เป็นทีมที่น่าจับตามองอย่างยิ่งมีสปอนเซอร์รายใหญ่ให้การสนับสนุน ฐานแฟนบอลโคราชถือเป็นทีมที่มีแฟนบอลเป็นจำนวนมากในระดับดิวิชัน 1 ซึ่งสนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา รังเหย้า นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เคยทุบสถิติแฟนบอลเป็นประวัติศาสตร์ของสโมสรในเกมพบกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ในศึกมูลนิธิไทยคมเอฟคัพ2014รอบ16 ทีม สุดท้าย ด้วยจำนวน 26,821 คน
เป้าหมายการทำทีมฤดูกาลหน้า “บิ๊กโต” เผยว่า มีเงินหมุนเวียนให้ใช้อย่างไม่ขาดมือหวังพาทีมหลีกเลี่ยงโซนอันตรายถ้าเป็นไปได้ขอจบอันดับเลขตัวเดียว จากประตูได้เสียที่ยิงไปถึง 56 ประตู และเสีย 27 ประตูทำให้ต้องปรับทีมในปีหน้าให้เสียประตูน้อยลง ส่วนนักเตะที่จะเข้ามาเสริมทีมคาดว่าไม่เกิน 10 รายจะเน้นแต่ความสามารถไม่เน้นซุปเปอร์สตาร์ถึงแม้ชื่อเสียงจะมาพร้อมกับผลงาน แต่ทาง “สวาทแคท” ยังยึดนโยบายความสามารถของนักเตะเป็นหลัก
นักเตะที่น่าจับตามอง : อิวาน บอสโควิช เครื่องจักรสังหารวัย 32 ปี เคยผ่านเวทีไทยลีกกับ ชลบุรีเอฟซี เมื่อปี 2013 ฤดูกาลนี้ยิงไปถึง 18 ประตูเป็นรองดาวซัลในฤดูกาลนี้พร้อมกับคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมดิวิชัน 1 ไปครองเรียกได้ว่านี่คือกุญแจดอกสำคัญในเกมรุกของสวาทแคทอย่างแท้จริง
กัลฟ์ สระบุรี เอฟซี - ฉายา ขุนศึก สร้างประวัติศาสตร์เลื่อนชั้นขึ้นมาเป็นครั้งแรกตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร ภายใต้การดูแลทีมของ นายวีระพล อดิเรกสาร ประธานสโมสร โดยมีนโยบาย ต้องการให้เป็นทีมของจังหวัดสระบุรีอย่างแท้จริง ในปี 2009 เข้าร่วมแข่งขัน ลีกภูมิภาค ดิวิชัน 2 เพื่อยกระดับทีมขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า ขุนศึก สระบุรี และต่อมาจึงเปลี่ยนเป็น สระบุรี เอฟ ซี ในปี 2010 และได้เลื่อนชั้นแข่งขันในดิวิชั่น 1 ได้เปลี่ยนเป็น กัลฟ์ สระบุรี เอฟซีในปัจจุบัน
สระบุรีเป็นทีมที่มีงบน้อยถ้าเทียบกับหลายๆสโมสร สำหรับปีหน้า บริษัท กัลฟ์ เจพี จำกัด ได้ขยายสัญญาออกไป 1 ปี จึงทำให้กัลฟ์ สระบุรี เอฟซี ยังคงใช้ชื่อเดิมต่อไป ส่วนในเรื่องของงบประมาณการทำทีมมีให้ใช้แบบไม่อึดอัด โดยมี โค้ชแบน ธชตวัน ศรีปาน กุนซือกัลฟ์ สระบุรี เอฟซี รับหน้าที่พาทีมขึ้นไปท้าชนสโมสรชั้นนำของประเทศ ซึ่ง โค๊ชแบน ถือเป็นกุนซือประวัติศาสตร์ที่พาสระบุรี เลื่อนชั้นจาก ดิวิชัน 2 สู่ ดิวิชัน 1 จนในที่สุดสามารถขึ้นสู่ไทยพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ ซึ่งก่อนหน้านี้มี ''โค้ชเจี๊ยบ'' สมชาย ไม้วิไล ที่เคยพาราชบุรีเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดมาแล้ว
เป้าหมายการทำทีมฤดูกาลหน้า โค้ชแบน เผยว่า ต้องอยู่รอดให้ได้ในปีแรก เพื่อพัฒนาทีมต่อไป และจะยังยึดผู้เล่นชุดเดิมไว้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนนักเตะที่อายุมากจะพิจารณาอีกที ที่สำคัญจะเลือกนักเตะเองโดยไม่พึ่งเอเยนซีและไม่มีแผนดึงนักเตะบิ๊กเนมหรือนักเตะที่ตกชั้นเสริมทีม และจะมีการหมุนเวียนไม่มากในฤดูกาลหน้า
นักเตะที่น่าจับตามอง : พานุวัฒ ยิ้มสง่า กัปตันทีม เป็นห้องเครื่องคนสำคัญของทีมที่สระบุรีจะขาดไม่ได้ และ สุริยกานต์ ฉิมจีน มิดฟิลด์ตัวเก่งที่ซัลโวไป 12 ประตู แถมเป็นนักเตะไทยคนเดียวที่มีชื่ออยู่อันดับ10 ของอันดับดาวซัลโวยามาฮา ลีกวัน
สโมสรฟุตบอลราชนาวี - ฉายา ตะหานน้ำ คว้าตั๋วใบสุดท้าย คัมแบ็กสู่ลีกสูงสุดอีกครั้งหลังจากตกชั้นไปในปี 2011 ในชื่อเดิม ราชนาวี ระยอง เป็นสโมสรที่มีการเลื่อนชั้นและตกชั้นระหว่างไทยพรีเมียร์ลีกและดิวิชัน 1 หลายรอบ ภายใต้การดูแลของ นาวาเอก รัฐธรี วัชรสิริสันต์ ผู้จัดการทีม โดยมี โค้ชหมี สุรศักดิ์ ตังสุรัตน์ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ที่สามารถพาทีมราชนาวีเลื่อนชั้นขึ้นลีกสูงสุดเป็นทีมที่สองต่อจาก เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ที่ก้าวเลื่อนชั้นจากดิวิชัน 1 สู่ไทยลีกมาแล้ว
ตะหานน้ำ มีงบในการทำทีมค่อนข้างจำกัด เงินที่ใช้ในการทำทีมส้วนใหญ่มาจาก บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก หรือ ทีพีแอล และ ลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสด โดยปีที่ผ่านต้องใช้นักฟุตบอลที่เป็นทหารลงแข่งขันส่วนมาก จากการขาดแคลนงบประมาณในการดึงตัวนักฟุตบอลฝีเท้าดีมาร่วมทีม จึงเป็นปัญหาที่สโมสรต้องเร่งแก้ไขเพราะเคยมีบทเรียนจากการตกชั้นมาแล้ว
เป้าหมายการทำทีมฤดูกาลหน้า โค้ชหมี เผยว่า ราชนาวีต้องการอยู่รอดให้ได้ในปีแรก เนื่องจากไทยลีกมีการแข่งขันที่สูง จึงจำเป็นอย่างมากที่ต้องอัพเกรดทีมขึ้นมา และต้องเสียประตูให้น้อย เพราะในดิวิชัน 1 เราเป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดในลีก เราจะเน้นตรงนี้เป็นพิเศษเนื่องจากผมเคยเป็นผู้เล่นกองหลังมาก่อนจึงให้คำแนะนำได้ ซึ่งตอนนี้กำลังเร่งหานักเตะต่างชาติเพราะกำลังจะหมดสัญญาถึง 6 คน
นักเตะที่น่าจับตามอง : ''ลูโด้'' ลูโดวิค ทาคาม ศูนย์หน้าร่างตอม่อ มะขามข้อเดียว อดีตเคยสร้างผลงานอย่างโดดเด่นกับ พัทยา ยูไนเต็ด ก่อนที่ ฉลามชล ชลบุรี เอฟซี ให้ความสนใจและดึงตัวไปร่วมทีมแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ทว่าเป็นที่พึงพอใจสำหรับ ''โค้ชหมี'' จึงตัดสินใจคว้าเอามาร่วมทีมราชนาวี โดยให้เหตุผลว่า ลูโด้เป็นนักตะที่จบสกอร์ได้ดี และมีประสบการณ์บนเวทีลีกสูงสุดกับหลายสโมสร
นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี - ฉายา สวาทแคท หรือ เจ้าแมวพิฆาต เลื่อนชั้นเป็นทีมแรกคว้าตำแหน่งแชมป์ ยามาฮา ลีกวัน (ดิวิชัน 1)ฤดูกาล 2014 ไปครอง ภายใต้การดูแลของผู้จัดการทีม “บิ๊กโต” วัชรพล โตมรศักดิ์ สามารถพาทีมเลื่อนชั้นขึ้นสู่เวทีไทยพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แม้ก่อนปิดซีซันจะมีปัญหาขัดแย้งภายในทีมจนมีข่าวว่า “บิ๊กโต” จะอำลาทีม แต่สุดท้ายก็ปรับความเข้าใจและกลับมาดำรงตำแหน่งตามเดิม เคียงข้าง ซูกาโอะ คัมเบะ กุนซือชาวญี่ปุ่นที่กำลังมีแผนเตรียมต่อสัญญาเพิ่มอีก 3 ปี
สำหรับ สวาทแคท เป็นทีมที่น่าจับตามองอย่างยิ่งมีสปอนเซอร์รายใหญ่ให้การสนับสนุน ฐานแฟนบอลโคราชถือเป็นทีมที่มีแฟนบอลเป็นจำนวนมากในระดับดิวิชัน 1 ซึ่งสนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา รังเหย้า นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เคยทุบสถิติแฟนบอลเป็นประวัติศาสตร์ของสโมสรในเกมพบกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ในศึกมูลนิธิไทยคมเอฟคัพ2014รอบ16 ทีม สุดท้าย ด้วยจำนวน 26,821 คน
เป้าหมายการทำทีมฤดูกาลหน้า “บิ๊กโต” เผยว่า มีเงินหมุนเวียนให้ใช้อย่างไม่ขาดมือหวังพาทีมหลีกเลี่ยงโซนอันตรายถ้าเป็นไปได้ขอจบอันดับเลขตัวเดียว จากประตูได้เสียที่ยิงไปถึง 56 ประตู และเสีย 27 ประตูทำให้ต้องปรับทีมในปีหน้าให้เสียประตูน้อยลง ส่วนนักเตะที่จะเข้ามาเสริมทีมคาดว่าไม่เกิน 10 รายจะเน้นแต่ความสามารถไม่เน้นซุปเปอร์สตาร์ถึงแม้ชื่อเสียงจะมาพร้อมกับผลงาน แต่ทาง “สวาทแคท” ยังยึดนโยบายความสามารถของนักเตะเป็นหลัก
นักเตะที่น่าจับตามอง : อิวาน บอสโควิช เครื่องจักรสังหารวัย 32 ปี เคยผ่านเวทีไทยลีกกับ ชลบุรีเอฟซี เมื่อปี 2013 ฤดูกาลนี้ยิงไปถึง 18 ประตูเป็นรองดาวซัลในฤดูกาลนี้พร้อมกับคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมดิวิชัน 1 ไปครองเรียกได้ว่านี่คือกุญแจดอกสำคัญในเกมรุกของสวาทแคทอย่างแท้จริง
กัลฟ์ สระบุรี เอฟซี - ฉายา ขุนศึก สร้างประวัติศาสตร์เลื่อนชั้นขึ้นมาเป็นครั้งแรกตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร ภายใต้การดูแลทีมของ นายวีระพล อดิเรกสาร ประธานสโมสร โดยมีนโยบาย ต้องการให้เป็นทีมของจังหวัดสระบุรีอย่างแท้จริง ในปี 2009 เข้าร่วมแข่งขัน ลีกภูมิภาค ดิวิชัน 2 เพื่อยกระดับทีมขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า ขุนศึก สระบุรี และต่อมาจึงเปลี่ยนเป็น สระบุรี เอฟ ซี ในปี 2010 และได้เลื่อนชั้นแข่งขันในดิวิชั่น 1 ได้เปลี่ยนเป็น กัลฟ์ สระบุรี เอฟซีในปัจจุบัน
สระบุรีเป็นทีมที่มีงบน้อยถ้าเทียบกับหลายๆสโมสร สำหรับปีหน้า บริษัท กัลฟ์ เจพี จำกัด ได้ขยายสัญญาออกไป 1 ปี จึงทำให้กัลฟ์ สระบุรี เอฟซี ยังคงใช้ชื่อเดิมต่อไป ส่วนในเรื่องของงบประมาณการทำทีมมีให้ใช้แบบไม่อึดอัด โดยมี โค้ชแบน ธชตวัน ศรีปาน กุนซือกัลฟ์ สระบุรี เอฟซี รับหน้าที่พาทีมขึ้นไปท้าชนสโมสรชั้นนำของประเทศ ซึ่ง โค๊ชแบน ถือเป็นกุนซือประวัติศาสตร์ที่พาสระบุรี เลื่อนชั้นจาก ดิวิชัน 2 สู่ ดิวิชัน 1 จนในที่สุดสามารถขึ้นสู่ไทยพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ ซึ่งก่อนหน้านี้มี ''โค้ชเจี๊ยบ'' สมชาย ไม้วิไล ที่เคยพาราชบุรีเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดมาแล้ว
เป้าหมายการทำทีมฤดูกาลหน้า โค้ชแบน เผยว่า ต้องอยู่รอดให้ได้ในปีแรก เพื่อพัฒนาทีมต่อไป และจะยังยึดผู้เล่นชุดเดิมไว้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนนักเตะที่อายุมากจะพิจารณาอีกที ที่สำคัญจะเลือกนักเตะเองโดยไม่พึ่งเอเยนซีและไม่มีแผนดึงนักเตะบิ๊กเนมหรือนักเตะที่ตกชั้นเสริมทีม และจะมีการหมุนเวียนไม่มากในฤดูกาลหน้า
นักเตะที่น่าจับตามอง : พานุวัฒ ยิ้มสง่า กัปตันทีม เป็นห้องเครื่องคนสำคัญของทีมที่สระบุรีจะขาดไม่ได้ และ สุริยกานต์ ฉิมจีน มิดฟิลด์ตัวเก่งที่ซัลโวไป 12 ประตู แถมเป็นนักเตะไทยคนเดียวที่มีชื่ออยู่อันดับ10 ของอันดับดาวซัลโวยามาฮา ลีกวัน
สโมสรฟุตบอลราชนาวี - ฉายา ตะหานน้ำ คว้าตั๋วใบสุดท้าย คัมแบ็กสู่ลีกสูงสุดอีกครั้งหลังจากตกชั้นไปในปี 2011 ในชื่อเดิม ราชนาวี ระยอง เป็นสโมสรที่มีการเลื่อนชั้นและตกชั้นระหว่างไทยพรีเมียร์ลีกและดิวิชัน 1 หลายรอบ ภายใต้การดูแลของ นาวาเอก รัฐธรี วัชรสิริสันต์ ผู้จัดการทีม โดยมี โค้ชหมี สุรศักดิ์ ตังสุรัตน์ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ที่สามารถพาทีมราชนาวีเลื่อนชั้นขึ้นลีกสูงสุดเป็นทีมที่สองต่อจาก เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ที่ก้าวเลื่อนชั้นจากดิวิชัน 1 สู่ไทยลีกมาแล้ว
ตะหานน้ำ มีงบในการทำทีมค่อนข้างจำกัด เงินที่ใช้ในการทำทีมส้วนใหญ่มาจาก บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก หรือ ทีพีแอล และ ลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสด โดยปีที่ผ่านต้องใช้นักฟุตบอลที่เป็นทหารลงแข่งขันส่วนมาก จากการขาดแคลนงบประมาณในการดึงตัวนักฟุตบอลฝีเท้าดีมาร่วมทีม จึงเป็นปัญหาที่สโมสรต้องเร่งแก้ไขเพราะเคยมีบทเรียนจากการตกชั้นมาแล้ว
เป้าหมายการทำทีมฤดูกาลหน้า โค้ชหมี เผยว่า ราชนาวีต้องการอยู่รอดให้ได้ในปีแรก เนื่องจากไทยลีกมีการแข่งขันที่สูง จึงจำเป็นอย่างมากที่ต้องอัพเกรดทีมขึ้นมา และต้องเสียประตูให้น้อย เพราะในดิวิชัน 1 เราเป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดในลีก เราจะเน้นตรงนี้เป็นพิเศษเนื่องจากผมเคยเป็นผู้เล่นกองหลังมาก่อนจึงให้คำแนะนำได้ ซึ่งตอนนี้กำลังเร่งหานักเตะต่างชาติเพราะกำลังจะหมดสัญญาถึง 6 คน
นักเตะที่น่าจับตามอง : ''ลูโด้'' ลูโดวิค ทาคาม ศูนย์หน้าร่างตอม่อ มะขามข้อเดียว อดีตเคยสร้างผลงานอย่างโดดเด่นกับ พัทยา ยูไนเต็ด ก่อนที่ ฉลามชล ชลบุรี เอฟซี ให้ความสนใจและดึงตัวไปร่วมทีมแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ทว่าเป็นที่พึงพอใจสำหรับ ''โค้ชหมี'' จึงตัดสินใจคว้าเอามาร่วมทีมราชนาวี โดยให้เหตุผลว่า ลูโด้เป็นนักตะที่จบสกอร์ได้ดี และมีประสบการณ์บนเวทีลีกสูงสุดกับหลายสโมสร