หลุยส์ ซัวเรซ หัวหอกจอมยิงของ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา เผยไม่รู้สึกสะทกสะท้านแต่อย่างใดหากถูกสื่อหรือแฟนบอลตั้งฉายาว่าเป็นจอมกัดหรือพุ่งล้ม ระบุรู้สึกชอบด้วย แต่ขอร้องอย่ากล่าวหาว่าตนเป็นพวกชอบเหยียดผิว เพราะเนื้อแท้ไม่ใช่คนแบบนั้นสักนิด
ดาวเตะทีมชาติอุรุกวัย ผ่านประสบการณ์โดนแบนมาอย่างโชกโชน ทั้งคดีกัดแขน บรานิสลาฟ อิวาโนวิช แข้ง เชลซี จนโดนแบนไป 10 เกม รวมถึงเฉาะหัวไหล่ จอร์โจ คิเอลลินี แนวรับทีมชาติอิตาลี ศึกฟุตบอลโลก 2014 จนโดน ฟีฟา ลงโทษห้ามลงสนาม 4 เดือนเต็ม
ทั้งนี้ คดีที่แฟนบอลจดจำมากที่สุดหนีไม่พ้นใช้วาจาเหยียดสีผิว ปาทริซ เอฟรา แบ็กซ้าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนกลายเป็นข่าวใหญ่โต อย่างไรก็ตาม ซัวเรซ วัย 27 ปี เผยผ่านตัวอักษรบนหนังสืออัตชีวประวัติของตัวเองว่าไม่ชอบใจนักที่ถูกเรียกว่าเป็นพวกเหยียดผิว จนถูกเข้าใจผิดไปทั่ว
ซัวเรซ บรรยายว่า “คุณจะเรียกผมว่าเป็นพวกชอบกัดหรือพุ่งล้มก็ได้ แต่ไม่ใช่พวกเหยียดผิว ผมโดนแบนถึง 8 เกมเพราะเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องที่เลวร้ายมากที่ผมต้องถูกกล่าวหาแบบนั้นไปตลอดชีวิต ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว มันมีผลกระทบต่อภรรยาของผมที่ต้องได้ยินเรื่องนี้ทั้งที่เธอรู้ว่าผมไม่ใช่คนแบบนั้น”
“มันน่าเจ็บปวดเพราะคำกล่าวหานี้จะติดตัวไปเรื่อยๆ จนถึงวันที่ลูกๆ ของผมเติบโต ถ้าถามว่าผมพูดคำว่า เนโกร ใส่ ปาทริซ เอฟรา วันที่ 15 ตุลาคม 2011 ในเกมนั้นหรือไม่ ผมตอบว่าใช่ แต่ความหมายมันไม่เหมือนกัน ผมไม่ใช่พวกเหยียดผิว แต่เมื่อถูกกล่าวหาก็รู้สึกเสียใจและเป็นรอยมลทินติดตัวผมตลอดไป” ซัวเรซ ระบาย
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *