ทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ไปไม่ถึงฝัน เจอทีเด็ดลูกโขกของ ยูนิส มาห์มุด กัปตันทีมตัวเก๋าของอิรัก พ่ายไป 0-1 ชวดเหรียญทองแดง คว้าเพียงอันดับ 4 เอเชียนเกมส์ 2014 พร้อมรับอัดฉีดเบื้องต้น 14.3 ล้านบาท
เอเชียนเกมส์ 2014
ไทย 0-1 อิรัก
ทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ที่แพ้เจ้าภาพ เกาหลีใต้ 0-2 ลงสนามรอบชิงอันดับ 3 ลุ้นคว้าเหรียญทองแดงประวัติศาสตร์ ปะทะ อิรัก ที่พ่าย เกาหลีเหนือ ช่วงต่อเวลาพิเศษ 0-1 ในศึก เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 ณ อินชอน ฟุตบอล สเตเดียม เมืองอินชอน เกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมา
เกมนี้ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือช้างศึก เปลี่ยนทัพ 2 ราย ส่ง ปกเกล้า อนันต์ กับ ชิติพัทธ์ แทนกลาง ลงแทน อดิศร พรหมรักษ์ กับ สารัช อยู่เย็น โดยมี อดิศักดิ์ ไกรษร ที่ยิงไป 5 ประตู ล่าสกอร์ร่วมกับ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ตามเดิม ฟาก ฮาคีม ชาเคอร์ เฮดโค้ชอิรัก มี ยูนิส มาห์มุด กัปตันทีมวัย 31 ปี เป็นทีเด็ดร่วมกับ ฮิวแมน ทาเรค ที่ยิงไป 4 ประตู
เปิดฉากมาพียง 2 นาที อิรัก ได้ทักทายก่อนจาก มาห์มูด แต่บอลหลุดกรอบออกไป จากนั้นยังคงเป็นแข้งแดนอาหรับที่ครองบอลได้มากกว่าแต่ยังเจาะแนวรับเข้าไปลุ้นงามๆ ไม่ได้ น.35 อาลี อัดนัน ยิงฟรีคิกกลางประตูบอลแฉลบกำแพงแต่ กวินทร์ ยังไม่พลาด
เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้ายครึ่งแรก “ช้างศึก” ได้โต้มากขึ้น น.41 อดิศักดิ์ ได้หลุดเข้าไปยิงแต่โดนปัดทิ้งออกมาได้ แม้ ปกเกล้า จะซ้ำดาบสองก็ยังไปติดผู้เล่นอิรัก ถัดมานาทีเดียว นูรูล ได้ลองปั่นจากฝั่งขวาอีกครั้ง บอลโค้งแต่มุดไม่ทันออกหลังไป จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่
สู้กันต่อครึ่งหลัง ไทย เปิดเกมบุกเข้าใส่ก่อน น.56 ชัปปุยส์ ได้หลุดเข้ากรอบฝั่งซ้ายแต่ยิงไม่ผ่านมือผู้รักษาประตู ครบ 1 ชั่วโมงเกมยังสูสี กระทั่ง น.62 เป็น อิรัก ที่ขึ้นนำก่อนจากจังหวะเตะมุมฝั่งซ้าย อัดนัน เปิดโค้งเข้าหัว ยูนิส มามุด หอกตัวเก๋าโหม่งเต็มหัว 1-0
หลังเสียประตู “ซิโก้” แก้เกมด้วยการส่ง ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ลงเลื้อยริมเส้นแทน เกริกฤทธิ์ แต่ยังไม่สามารถแก้คืนได้ เกมดำเนินมาถึงช่วง 15 นาทีสุดท้าย ไทย ส่ง สารัช อยู่เย็น ลงเป็นไพ่ใบสุดท้ายแทน ปกเกล้า ที่เล่นไม่ออก น.79 ชัปปุยส์ วางเท้าซัดไกลนอกกรอบ บอลกำลังจะมุดโคนเสาแต่นายด่านอิรักยังล้มตัวเซฟได้ทัน ถัดมา 4 นาที “เจ้ากอล์ฟ” ได้ซัดเหน่งๆ ในกรอบแต่บอลข้ามคานไปไกล
จบเกม ทีมชาติไทย ไปไม่ถึงฝันพ่ายไป 0-1 ชวดเหรียญทองแดง คว้าอันดับที่ 4 เป็นครั้งที่ 4 อีกครั้งต่อจาก ปี 1990 ที่ปักกิ่ง 1998 ที่กรุงเทพฯ และ 2002 ที่ปูซาน
สำหรับผลการแข่งขันนัดนี้ทำให้ “ช้างศึก” ได้รับเงินอัดฉีดเบื้องต้นตั้งแต่นัดแรกรวม 14.3 ล้านบาท จาก สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย 9.3 ล้านบาท และ บริษัท โหลทอง โฮลดิง จำกัด 5 ล้านบาท
ทั้งนี้หาก ทีมชาติไทย สามาถเอาชนะได้ในเกมที่ผ่านมาจะได้รับเงินอัดฉีดรวมตั้งแต่นัดแรกจำนวน 22.8 ล้านบาทเลยทีเดียว จาก สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย 10.3 ล้านบาท, บริษัท โหลทองโฮลดิง จำกัด 5 ล้านบาท, มร.เคียวอิจิ ทานะดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด 3 ล้านบาท, “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย 5 แสนบาท และกองทุนพัฒนากีฬาชาติ 4 ล้านบาท (นักกีฬา 20 คน คนละ 2 แสนบาท)
รายชื่อ 11 คนแรก
ไทย : กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (ผู้รักษาประตู/กัปตันทีม), พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, ชิติพัทธ์ แทนกลาง, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, ปกเกล้า อนันต์, ชาริล ชัปปุยส์, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, นูรูล ศรียานเก็ม, ชนาธิป สรงกระสินธ์, อดิศักดิ์ ไกรษร
อิรัก :โมฮัมเหม็ด ฮามีด (ผู้รักษาประตู), อาลี บาห์จาท, มุสตาฟา นาดิมห์, อาลี อัดนัน, ซาอีฟ ซัลมาน, ฮิวแมน ทาเรค, ซาเมห์ ซาอีด, อาเม็ด คาเลฟ, ซาลาม ชาเคอร์, มาร์วาน ฮัสเซียน, ยูนิส มาห์มูด (กัปตันทีม)