เอพี - อิสราเอลได้เปิดเผยรายละเอียดของผู้ที่ลักพาตัววัยรุ่นชาวยิว 3 คน ที่หายไปร่วม 2 สัปดาห์ โดยพบว่าสมาชิกกลุ่มฮามาส 2 คน มาร์วาน คาวาซเมห์ ( Marwan Qawasmeh) วัย 29 ปี และอาเมอร์ อาบู อาเชห์ (Amer Abu Aisheh) วัย 33 ปีที่เป็นที่รู้จักดีในเขตเวสต์แบงก์เป็นผู้ต้องสงสัยหลักในการทำคดีครั้งนี้ และถือเป็นสัญญาณความคืบหน้าแรกสุดเท่าที่เคยมีมา
ทั้งเจ้าหน้าที่อิสราเอลและปาเลสไตน์ต่างยืนยันว่า ชายทั้งสองคนนี้ได้หายตัวไปนับตั้งแต่การหายไปของวัยรุ่นชาวยิว 3 คน และมีปฎิบัติการตามหาครั้งใหญ่หลังจากนั้น
ในแถลงการณ์ของหน่วยงานข่าวกรองชินเบต(Shin Bet )ของอิสราเอลได้ระบุว่า มาร์วาน คาวาซเมห์ ( Marwan Qawasmeh) ที่เกิดในปี 1985 และอาเมอร์ อาบู อาเชห์ (Amer Abu Aisheh) ในปี 1981 สมาชิกกลุ่มติดอาวุธฮามาสในเขตเวสต์แบงก์ เมืองฮีบรอน (Hebron) เป็นตัวการลักพาตัววัยรุ่นชาวยิวทั้ง 3 ที่ได้หายไปในวันที่ 12 มิถุนายนจากบริเวณ กัช เอ็ตไซออน (Gush Etzion) เขตตั้งถิ่นฐานชาวยิวระหว่างกรุงเยรูซาเลม และเมืองฮีบรอน เขตที่มีชาวปาเลสไตน์อยู่หนาแน่น
โดยก่อนหน้านี้ อิสราเอลได้กล่าวหากลุ่มติดอาวุธฮามาสว่าเป็นผู้รับผิดชอบในการหายไปของนาฟตาลี เฟรนเคล (Naftali Frenkel) ที่ถือสัญชาติยิวและอเมริกัน วัย 16 ปี กิลแอด ชาร์ (Gil-ad Shaar) ในวัย 16 ปี และ อียาล ยิฟราช (Eyal Yifrach) อายุ 19 ปี ในขณะที่นักเรียนทั้งสามคนอยู่ในระหว่างการโบกรถเพื่อเดินทางกลับบ้านหลังจากเลิกเรียนในช่วงค่ำ แต่จนถึงเมื่อวานนี้(26) อิสราเอลยังไม่มีหลักฐานเพื่อสนับสนุนข้อกล่าวหานี้ แต่ชินเบตได้แถลงว่าทั้งคาวาซเมห์และอาบู อาเชห์ได้เคยถูกจำคุกที่อิสราเอลมาแล้ว
และนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ได้เรียกร้องให้ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ มะห์มูด อับบาส แห่งปาเลสไตน์ ยุบรัฐบาลของเขาที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มติดอาวุธฮามาสเมื่อต้นเดือนนี้ โดยอับบาสเคยประนามคดีลักพาตัวในซาอุดิอาระเบียอย่างเป็นทางการ
“ผมคาดหวังว่าประธานาธิบดีอับบาส ที่เคยแสดงสุนทรพจน์อันโด่งดังในซาอุดิอาระเบีย จะยังคงรักษาคำพูดเหล่านั้น และทำการยุติความสัมพันธ์กับกลุ่มติดอาวุธก่อการร้ายฮามาสที่ได้ลักพาตัวเด็ก และเรียกร้องให้มีการทำลายอิสราเอล” เนทันยาฮู แถลง
ทั้งนี้เนทันยาฮูได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องที่คล้ายกันตั้งแต่เกิดเหตุลักพาตัวขึ้น โดยกล่าวว่า ทางกลุ่มฮามาสไม่อาจอ้างว่าต้องการแสวงหาสันติภาพได้ในขณะผู้ร่วมขบวนการก่อการร้ายออกปฎิบัติการเพื่อทำลายอิสราเอล อย่างไรก็ตาม กลุ่มติดอาวุธฮามาสที่ถูกอิสราเอลและชาติตะวันตกจัดเป็นกลุ่มก่อการร้ายไม่มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการในรัฐบาลปาเลสไตน์ และอับบาสได้กล่าวว่าคณะครม.ของเขายังคงทำตามนโยบายของเขา
และหลังจากที่วัยรุ่นชาวยิว 3 คนได้หายตัวไป ทางอิสราเอลได้ออกปฎิบัติการทางทหารค้นหาในเขตเวสต์แบงก์ จับกุมชาวปาเลสไตน์เกือบ 400 คน ที่ส่วนมากเป็นสมาชิกกลุ่มฮามาส ท่ามกลางการติดตามข่าวความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องของสื่อในอิสราเอล และการมีพิธีสวดวิจิลทางศาสนาเป็นระยะๆ
สำนักงานกลุ่มฮามาสในฮีบรอนยืนยันว่า คาวาซเมห์และอาบู อาเชห์เป็นสมาชิก และได้เปิดเผยว่ากองทัพอิสราเอลได้พุ่งเป้าไปที่บ้านของสองคนนี้ตั้งแต่เริ่มปฎิบัติการค้นหา และแหล่งข่าวกลุ่มฮามาสเปิดเผยกับเอพีต่อว่า ทั้งน้องชายและพี่ชายรวมไปถึงภรรยาของชายทั้งสองถูกกองทัพอิสราเอลควบคุมไปกักขังไว้ ถึงแม้ว่าภรรยาของคนทั้งคู่จะถูกปล่อยตัวออกมาภายหลังก็ตาม และพบว่ากองกำลังอิสราเอลได้เดินเข้าออกบ้านของคาวาซเมห์และอาเชห์หลายครั้ง ทำการค้นหาและยึดสิ่งของภายในบ้านเพื่อนำไปเป็นของกลางคดี
โอมาร์ อาบู อาเชห์ บิดาของอาบู อาเชห์ได้เปิดเผยว่า เขาพบลูกชายครั้งสุดท้ายที่งานเลี้ยงแต่งงานในวันที่ 12 มิถุนายน ล่าสุด ก่อนที่จะหายตัวไปในคืนนั้น “ผมไม่ทราบว่าอาบู อาเชห์ อยู่ที่ไหน” โอมาร์กล่าว และโอมาร์ยังถามต่อว่า อิสราเอลได้จับตัวลูกชายของเขาไปแล้วใช่หรือไม่ นอกจากนี้โอมาร์ยังให้ข้อมูลเพิ่มว่า ทางกองทัพอิสราเอลได้บุกจับสมาชิกครอบครัวไปแล้ว 7 คน รวมถึงลูกชายของโอมาร์อีก 2 คน และบ้านพักของเขาถูกกองทัพอิสราเอลบุกเข้าค้นถึง 8 ครั้ง
“ทหารยิวค้นทุกอย่างที่อยู่ภายในบ้าน ทุกตารางเซนติเมตรของพื้นที่ และรวมถึงคอกแกะอีกด้วย โดยกองทัพอิสราเอลได้พลิกบ้านเพื่อค้นหาแต่ไม่พบอะไร” โอมาร์เปิดเผย นอกจากนี้โอมาร์ยังอ้างว่า อาเมอร์ อาบู อาเชห์ ที่แต่งงานแล้วและมีบุตรชาย 3 คนนั้นไม่ได้ข้องเกี่ยวทางการเมือง แต่ยอมรับว่าบุตรชายเคยถูกขังในเรือนจำอิสราเอลร่วม 7 เดือนในปี 2005 และนอกจากนี้โอมาร์ยอมรับว่าเขาถูกอิสราเอลจับกุมในปี 1995 จากข้อหาช่วยซ่อนตัวนักโทษหลบหนีกลุ่มฮามาส และยังเปิดเผยว่าอิสราเอลได้ทำลายบ้านของเขาเป็นการลงโทษ โอมาร์ยังกล่าวต่ออีกว่า บุตรชายอีกคนหนึ่งของเขาถูกกองทัพอิสราเอลสังหารในปี 2005 โดยกองทัพอิสราเอลได้ยืนยันข้อมูลการเสียชีวิตและอธิบายว่า บุตรชายของโอมาร์โยนระเบิดเข้าใส่ทหารยิวจึงถูกสังหารในเวลานั้น
แต่ญาติของคาวาซเมห์ปฎิเสธที่จะให้ความเห็นด้วยเกรงความไม่ปลอดภัยจากอิสราเอล
ในขณะที่อับบาสปฎิเสธข้อเรียกร้องของเนทันยาฮูที่ต้องการให้ยุติความสัมพันธ์กับกลุ่มฮามาส แต่อับบาสยังคงสั่งให้หน่วยงานความมั่นคงปาเลสไตน์ยังคงนโบายให้ความร่วมมือกับอิสราเอล
ด้านแหล่งข่าวกรองปาเลสไตน์กล่าวว่า เชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งสองยังคงซ่อนตัวอยู่ และเจ้าหน้าที่ความมั่นคงปาเลสไตน์ได้ออกค้นหาคนทั้งคู่เช่นกัน และแหล่งข่าวยืนยันว่า จากเหตุผลที่ทั้งคาวาซเมห์และอาบู อาเชห์ได้หายตัวไปหลังเกิดเหตุเป็นการยืนยันอย่างดีว่าพวกเขาเชื่อมโยงกับเหตุลักพาตัววัยรุ่นชาวยิว
