xs
xsm
sm
md
lg

“กลีนีเกิลส์ กอล์ฟ คลับ” รู้จักสนาม “ไรเดอร์ คัพ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สังเวียน ไรเดอร์ คัพ ครั้งที่ 40
ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ปลายปี 2014 ปฏิทินเวียนบรรจบครบรอบ 2 ปี ถึงการแข่งขันกอล์ฟประเภททีมแห่งศักดิ์ศรีรายการที่เก่าแก่และยิ่งใหญ่ที่สุด “ไรเดอร์ คัพ” โดยหนนี้ถือเป็นการจัดครั้งที่ 40 คิวของทีมรวมยุโรปรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขัน ณ สนาม กลีนีเกิลส์ กอล์ฟ คลับ ฝั่ง พีจีเอ เซนเทนารี คอร์ส ในเมืองกลีนีเกิลส์ สกอตแลนด์ ซึ่งตามประวัติศาสตร์สังเวียนแห่งนี้ ถือเป็นของแสลงสำหรับทีมสหรัฐฯ เนื่องจากที่ผ่านมานักกอล์ฟชาวอเมริกันยังไม่เคยมาคว้าชัยได้แม้แต่ครั้งเดียว และ 5 สิ่งต่อจากนี้ คือเรื่องน่ารู้สำหรับสถานที่ชิงชัย

ได้รับการออกแบบโดย แจ็ค นิคคลอส
สนาม กลีนีเกิลส์ กอล์ฟ คลับ ฝั่ง พีจีเอ เซนเทนารี คอร์ส แห่งนี้ถือเป็น 1 ใน 4 คอร์สจากบริเวณพื้นที่ของสนามทั้งหมด และถูกออกแบบโดย แจ็ค นิคคลอส ตำนาน นักกอล์ฟชาวอเมริกัน และเปิดใช้งานหนแรกตั้งแต่ปี 1993 เพิ่งได้รับโอกาสให้จัดแข่งในรายการระดับเมเจอร์หนแรกในศึก ไรเดอร์ คัพ 2014 ขณะที่คอร์สอื่นๆ เคยได้รับเกียรติจัดรายการสำคัญในแอลพีจีเอ ทัวร์ เมเจอร์ “วีเมนส์ บริติช โอเพน” ในปี 1957 รวมถึง ยูโรเปียน ทัวร์ “สกอตติช โอเพน” ในปี 1987 และ 1994 มาแล้ว

สนามที่มีระยะสั้นที่สุดในประวัติศาสตร์ไรเดอร์ คัพ
ด้วยระยะ 7,262 หลา พาร์ 72 ตลอด 18 หลุม ทำให้สนาม กลีนีเกิลส์ กอล์ฟ คลับ ฝั่ง พีจีเอ เซนเทนารี คอร์ส จึงถูกบันทึกในหน้าสถิติใหม่ว่า เป็นสนามจัดแข่งขันไรเดอร์ คัพ ที่มีระยะสั้นที่สุด นับตั้งแต่เริ่มแข่งขันมาเมื่อราวๆ 80 ปีก่อน โดยทำลายสถิติเดิมในการแข่งขันครั้งที่ 35 ของสนาม โอคแลนด์ ฮิลล์ คันทรี คลับ เซาธ์ คอร์ส ในเมือง บลูมฟีลด์ ทาวน์ชิป รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีระยะอยู่ที่ 7,445 หลา พาร์ 72 โดยในการแข่งครั้งนั้นเป็นทีมรวมยุโรปที่บุกเอาชนะไปได้ 18ครึ่ง - 9 ครึ่ง

เป็นกอล์ฟ รีสอร์ท ที่เยี่ยมสุดในโลกช่วง 3 ปีหลัง
สนามกอล์ฟสมัยใหม่ในปัจจุบันส่วนใหญ่มักถูกออกแบบให้เป็น กอล์ฟ คลับ แอนด์ รีสอร์ท ที่เพียบพร้อมด้วยโรงแรมห้องพัก สระว่ายน้ำ คลับเฮาส์ และห้องอาหารสุดหรู และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โดยสนาม กลีนีเกิลส์ ฝั่ง พีจีเอ เซนเทนารี คอร์ส แห่งนี้ก็ถือเป็น 1 ใน 3 คอร์สที่เปิดบริการโรงแรมกลีนีเกิลส์ ซึ่งขึ้นชื่อในสกอตแลนด์ เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว พร้อมอำนวยความสะดวกให้กับนักกอล์ฟและแฟนคลับทั้ง 2 ทีมที่เดินทางไปตามเชียร์ในศึก ไรเดอร์ คัพ ครั้งที่ 40 นอกจากนั้นสนามแห่งนี้ยังได้รับการยกย่องให้เป็น กอล์ฟ รีสอร์ท ที่ยอดเยี่ยมสุดในโลกตลอดช่วง 3 ปีหลังด้วย

ก้านเหล็กชาวอเมริกันยังไม่เคยชนะที่สนามนี้
แม้ว่า พีจีเอ เซนเทนารี คอร์ส ของสนามกลีนีเกิลส์ จะถูกออกแบบโดยตำนานนักกอล์ฟชาวอเมริกันอย่าง แจ็ค นิคคลอส ก่อนได้รับการโหวตให้เป็นสังเวียนประจำของศึกยูโรเปียน ทัวร์ “จอห์นนี วอล์คเกอร์ แชมเปียนชิป” มาตั้งแต่ปี 1999 ซึ่งตลอด 15 ปี ที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีนักกอล์ฟชาวอเมริกันมาคว้าแชมป์ที่นี่ได้แม้แต่ครั้งเดียว ในขณะที่ โธมัส บียอห์น ก้านเหล็กชาวเดนมาร์ค สมาชิกทีมยุโรปชุดปัจจุบันเคยคว้าแชมป์ที่สนามแห่งนี้มาแล้ว ในปี 2011

สภาพอากาศคาดเดายาก-ห้ามหลุดแฟร์เวย์
ด้วยเลย์เอาท์ตามแบบฉบับสนามกอล์ฟในแถบอังกฤษ-สกอตแลนด์ แฟร์เวย์ที่ถูกออกแบบมาแคบทำให้การไดร์ฟลูกที่แม่นยำของนักกอล์ฟทั้ง 2 ทีม ถือเป็นกุญแจสำคัญของชัยชนะหนนี้ เพราะหากมีเปอร์เซ็นต์ตีหลุดแฟร์เวย์สูงพวกเขาจะต้องไปเจอกับรัฟสูงทั้งสองฝั่งยากต่อการเล่นในช็อตแก้ไข ขณะที่บังเกอร์ที่เรียงรายอยู่รอบกรีนถือเป็นอีกหนึ่งอุปสรรคใหญ่ในรายการนี้ พร้อมกันนี้ยังต้องไม่ลืมเรื่องของลมทะเลและสภาพอากาศที่คาดเดาได้ยากลำบาก โดยการพยากรณ์อากาศล่าสุดระบุว่าสัปดาห์นี้จะมีฝนตกและมีลมที่แรงถึง 15 ไมล์ต่อชั่วโมงมารบกวนการแข่งครั้งนี้

เรื่องโดย : ปภังกรณ์ นิลวรกุล

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


โธมัส บียอห์น เคยเป็นแชมป์ที่สนามนี้
เป็น กอล์ฟ รีสอร์ท แถวหน้าของโลก
รัฟสูงแบบนี้ไม่น่าเสี่ยง
บังเกอร์อีกหนึ่งอุปสรรคสำคัญ
กำลังโหลดความคิดเห็น