xs
xsm
sm
md
lg

เปิด “แชมเปียนส์ ลีก” ปีนี้ความมันระดับ 5 ดาว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โด้ ลุ้นทั้งตนเองและต้นสังกัด
เอเยนซี - ศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาล 2014-15 ได้ฤกษ์เปิดฉากตะบันแข้งนัดแรกรอบแบ่งกลุ่มระหว่างวันที่ 16-17 กันยายนนี้ แน่นอนว่าฟุตบอลถ้วยใบใหญ่สุดของยุโรปปีนี้เต็มไปด้วยไฮไลต์ที่น่าสนใจมากมายไม่ว่าจะเป็น ลิเวอร์พูล ที่ได้โม่แข้งครั้งแรกรอบ 5 ปีรวมถึง "แชมป์เก่า" รีล มาดริด จะสามารถป้องกันตำแหน่งได้หรือไม่ และนักเตะดาวรุ่งที่จ่อคิวแจ้งเกิดอีกเพียบ

"หงส์" คืนเวที - ลิเวอร์พูล ที่มีศักดิ์ศรีเป็นสโมสรอังกฤษที่คว้าแชมป์ยุโรปสูงสุด 5 สมัยได้กลับคืนสังเวียนที่คุ้นเคย หลังหายหน้าหายตาไป 4 ปีเต็มก่อนหน้านี้ โดยฤดูกาลสุดท้ายคือ 2009-10 ซึ่งผลงานตกรอบแรก ดังนั้นครั้งนี้ต้องสร้างความประทับใจให้ได้ ประเดิมเปิด แอนฟิลด์ พบ ลูโดโกเร็ตส์ ราซกราด จากบัลแกเรีย วันอังคารที่ 16 กันยายนนี้ ด่านแรกอาจจะไม่น่าเป็นห่วง แต่ต้องผ่านรอบแรกให้ได้ก่อน อยู่ร่วมสาย บี กับ "แชมป์เก่า" รีล มาดริด รวมถึง เอฟซี บาเซิล จากสวิตเซอร์แลนด์ ที่จะประมาทไม่ได้ เนื่องจากเจนจัดบนเวทีนี้พอสมควร "หงส์แดง" ไม่น่ามี ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ กองหน้าความหวังที่บาดเจ็บ คงต้องพึ่ง มาริโอ บาโลเตลลี หลังขาย หลุยส์ ซัวเรซ ดาวซัลโว พรีเมียร์ ลีก 31 ประตูเมื่อปีที่แล้วออกไป เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือใหญ่ คนต้องขบคิดว่าจะทำอย่างไร เนื่องจากตอนนี้ตัวหลักคือ ราฮีม สเตอร์ลิง เห็นได้ชัดเกม พรีเมียร์ ลีก เมื่อวันเสาร์ที่ 13 กันยายนที่ผ่านมาดร็อปปีกทีมชาติอังกฤษ ถึงกับแพ้คาบ้านให้ แอสตัน วิลลา 0-1 เลยทีเดียว

"ชุดขาว" ลุ้นป้องแชมป์ - สิ้นสุดการรอคอย 12 ปี รีล มาดริด หยิบแชมป์ยุโรปสมัยที่ 10 เมื่อปีที่แล้วหรือที่เรียกว่า "ลา เดซิมา" ด้วยการต่อเวลาพิเศษชนะ แอตเลติโก มาดริด 4-1 เป้าหมายตอนนี้คือเป็นสโมสรแรกที่ป้องกันแชมป์ภายใต้ชื่อ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก แต่ คาร์โล อันเชล็อตติ นายใหญ่ "ราชันชุดขาว" ปล่อย 2 กองกลาง อังเคล ดิ มาเรีย กับ ชาบี อลอนโซ แม้จะเติมด้วย โทนี โครส กับ เจมส์ โรดริเกวซ ดาวเด่น เวิลด์ คัพ 2014 แต่ยังไม่กลมกล่อมเพราะแพ้ใน ลา ลีกา มาแล้ว 2 นัดติดต่อกันล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ 13 กันยายนที่ผ่านมาถูก "ตราหมี" บุกมาล้างแค้น 1-2 แข้งหลายคนเริ่มหมดสภาพไล่ตั้งแต่ อิเคร์ คาซิยาส มือกาวกัปตันทีมชาติสเปน แนวรับอย่าง ดานี คาร์บาฆัล แบ็กขวายังบาดเจ็บ สำรองที่เหลือ ราฟาเอล วาราน, อิสโก และ อาเซียร์ อิลยาร์ราเมนดี ฟอร์มไม่คงเส้นคงวา

แข้งน่าจับตา - ถือเป็นเวทีที่นักเตะต่างใจจดอยากโชว์ฝีเท้าเพื่อให้เตะตาทีมยักษ์ โดยแข้งที่น่าสนใจคือ วิคเตอร์ ฟิสเชอร์ ปีกซ้ายที่ปรากฎตัวระดับนานาชาติด้วยวัยแค่ 18 ปี ขึ้นชั้นจากอะคาเดมีของ อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม ที่การันตีอยู่แล้วเรื่องคุณภาพคับแก้ว ปัจจุบันวัย 20 ปีเริ่มฉายแววเด่นทีละเล็กละน้อยน่าจะได้เลือดปู่อย่าง โพล พีเดอร์เซน มาพอสมควรเนื่องจากเล่นในตำแหน่งเดียวกัน ฤดูกาล 2012-13 ได้รางวัลแข้งทักษะโดดเด่นแห่งปี ยิงไป 12 ประตูรวมทุกรายการ ทำให้ บาร์เซโลนา และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เริ่มสนใจ อีกคนคือ แม็กซ์ เมเยอร์ เล่นได้ทั้งกองกลางและกองหน้า ปีที่แล้วยิงใน บุนเดสลีกา เยอรมนี ให้ ชาลเก 04 ทั้งสิ้น 6 ประตู ตอนนี้อายุแค่ 18 ปียังพัฒนาได้อีกไกล ได้รับการปลุกปั้นจากแคมป์เยาวชนเช่นเดียวกับ เมซุต โอซิล, มานูเอล นอยเออร์, จูเลียน แดร็กซ์เลอร์ และ เบเนดิคต์ โฮเวเดส ที่เพิ่งได้เป็นแชมป์โลก 2014 กับทีมชาติเยอรมนี น่าจะได้แสดงฝีเท้าพอสมควรรอบแรกอยู่กลุ่มเดียวกับเชลซี, สปอร์ติง ลิสบอน และ มาริบอร์ ที่ไม่แข็งนัก

"ม้าลาย" กู้หน้า - สโมสรอิตาลีห่างหายจากความสำเร็จแชมป์ยุโรปนับตั้งแต่ อินเตอร์ มิลาน คว้าโทรฟี่ "บิ๊กเอียร์ส" เมื่อปี 2010 ทั้งที่ เอซี มิลาน มีดีกรีแชมป์สูงสุดอันดับ 2 คือ 7 สมัยรองจาก รีล มาดริด แต่ปีนี้ต้องฝากความหวังเอาไว้ที่ ยูเวนตุส โดยฤดูกาลที่แล้วผลงานย่ำแย่ตกรอบแรก ส่วนปีนี้ไม่แข็งนักอยู่กับ แอตเลติโก มาดริด, โอลิมเปียกอส และ มัลโม จึงมีโอกาสสูงที่จะทะลุเข้าสู่รอบน็อกเอาท์ ด้านตำแหน่งกุนซือมีการเปลี่ยนแปลงจาก อันโตนิโอ คอนเต เป็น มัสซิมิเลียโน อัลเลกรี ซึ่งก็ออกสตาร์ท กัลโช เซเรีย อา อิตาลี ใช้ได้คว้าชัย 2 นัดรวด อาจจะยังไม่มี อาร์ตูโร วิดัล กับ อันเดรีย ปิร์โล 2 กองกลางเวิลด์คลาสที่เจ็บและล้ามาจากฟุตบอลโลก 2014 ก็เป็นหน้าที่ของพวกที่เข้ามาใหม่อย่าง ปาทริซ เอฟรา, อัลบาโร โมราตา และ คิงส์ลีย์ โคแมน ได้ปล่อยของ อีกตัวแทนจากเมืองมะกะโรนีคือ โรมา แต่อยู่สายหินกับ บาเยิร์น มิวนิค, แมนเชสเตอร์ ซิตี และ ซีเอสเคเอ มอสโก

"โรนัลโด" สร้างสถิติ - ตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลฟุตบอลยุโรปที่ ราอูล กอนซาเลซ ตำนานดาวยิง รีล มาดริด และทีมชาติสเปน ยึดครองมาอย่างยาวนานมีสิทธิ์ที่จะถูกทำลายในฤดูกาลนี้ โดย คริสเตียโน โรนัลโด แนวรุก "ราชันชุดขาว" ต้องการอีกเพียงแค่ 4 ประตูจะแซงขึ้นไปเป็น 72 ลูก อย่างไรก็ตามมี ลิโอเนล เมสซี กองหน้า บาร์เซโลนา ที่ทำไว้ใกล้เคียงกันคือ 67 ประตู ซึ่งตามมาตรฐานของทั้งคู่ที่ยิงต่อฤดูกาลน่าจะทำได้สำเร็จอยู่แล้ว ปีที่แล้วแข้งทีมชาติโปรตุเกสกดไปถึง 17 ประตูจนพาทีมคว้าแชมป์ ส่วนตนเองก็ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี "ฟีฟา บัลลงดอร์" นอกจากนี้ 4 ปีหลังสุดแข้งวัย 29 ปียิงรวมทุกรายการปีละไม่ต่ำกว่า 50 ลูก หากรักษาฟอร์มคงเส้นคงวาปีนี้ก็จะทะลุ 300 ลูก ตามหลังแค่ ราอูล (323 ประตู) กับ อัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน (305 ประตู)

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


“หงส์” คืนเวทีที่คุ้นเคย
“ม้าลาย” ปีนี้อาจมาดี
ฟิสเชอร์ เตรียมแจ้งเกิด
กำลังโหลดความคิดเห็น