เอเยนซี - “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี มีโอกาสดีที่จะผ่านเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกเป็นหนที่ 8 เนื่องจากคู่ต่อกร บราซิล ตกอยู่ภายใต้สภาพที่ไม่พร้อมต้องปรับกระบวนทัพขนานใหญ่ ขาด 2 แกนหลัก เนย์มาร์ กับ ติอาโก ซิลวา โดยทั้งคู่จะเตะรอบรองชนะเลิศกันวันอังคารที่ 8 กรกฎาคมนี้ ณ เอสตาดิโอ มิเนโร ตอนตี 3 ตามเวลาประเทศไทย
เลิฟ กุมบังเหียน “ดี มันชาฟต์” (Die Mannschaft หรือ The Team) เริ่มตั้งแต่ ยูโร 2008 เข้าถึงรอบชิง ตามด้วยฟุตบอลโลก 2010 คว้าอันดับ 3 และ ยูโร 2012 เข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ตลอดระยะเวลา 8 ปียังไม่ถึงฝั่งฝันคว้าโทรฟี ซึ่ง “เวิลด์ คัพ” ที่แดนละตินปี 2014 นี้ เยอรมนี ยังรักษามาตรฐานเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน
เกมนี้ เยอรมนี พร้อมเต็มอัตราศึกน่าจะเปลี่ยนตำแหน่งเดียวจากรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่ชนะ ฝรั่งเศส 1-0 คือ มิโรสลาฟ โคลเซ หอกวัย 36 ปี กลับไปนั่งสำรอง และส่ง มาริโอ เกิทเซ ลงมาแทน โชคดีที่ตัวจริงไม่ค่อยมีใครได้รับบาดเจ็บ เพราะสำรองทดแทนไม่ได้อย่าง จูเลียน แดร็กซ์เลอร์ กับ ลูคัส โพดอลสกี ขณะที่ มาร์โก รอยส์ เจ็บก่อนฟุตบอลโลกเปิดฉาก เมซุต โอซิล ฟอร์มไม่เปรี้ยงปร้าง แต่ก็มี โทนี โครส, โทมัส มุลเลอร์ และ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ 3 ประสานจาก บาเยิร์น มิวนิก ประคับประคอง
ด้าน บราซิล ไม่มี เนย์มาร์ ดาวยิงความหวังที่เจ็บกระดูกหลังหักจากเกมรอบก่อนรองชนะเลิศที่ชนะ โคลอมเบีย 2-1 รวมถึง ติอาโก ซิลวา กองหลังกัปตันทีม ที่ติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลือง ทำให้ หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี กุนซือชุดแชมป์ปี 2002 ต้องปรับแนวรุก ซึ่งค่อนข้างจะมีหลายทางเลือก เริ่มจากอัดกองกลาง 3 คน หลุยส์ กุสตาโว ที่พ้นโทษแบนกลับมา โดยมี เปาลินโญ กับ เฟอร์นานดินโญ ช่วยงาน ปล่อยให้แนวรุกริมเส้นเป็นหน้าที่ของ ออสการ์ อีกฝั่งเลือกระหว่าง วิลเลียน หรือ แบร์นาร์ด
ส่วนกองหน้าตัวเป้าโดนวิจารณ์หนัก เฟร็ด ฟุตบอลโลกหนนี้ซัดได้แค่ประตูเดียว ด้าน ฮัล์ค ยังยิงไม่ได้ แต่เล่นได้ประทับใจสร้างโอกาสพังประตูด้วยเท้าซ้ายหลายครั้งรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่ชนะ โคลอมเบีย 2-1 ทว่าแข้งจาก เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก สถิติยิงให้ทีมชาติบราซิล 9 ประตูที่ผ่านมาๆ จากแมตช์กระชับมิตรทั้งสิ้น
หรือใช้ กุสตาโว กับ เปาลินโญ ปักหลักหน้าแบ็กโฟร์ โดยมี ออสการ์ เชื่อมเกมและยังคงให้โอกาส ฮัล์ค ป่วนริมเส้นด้านซ้าย ส่วน เฟร็ด ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า ด้านขวาใช้ แบร์นาร์ด ที่มีภาษีดีกว่า วิลเลียน เล็กน้อย เพราะทำได้น่าประทับใจตั้งแต่ศึก ฟีฟา คอนเฟเดอเรชันส์ คัพ 2013 รอบรองชนะเลิศ ที่ลงมาสำรองแล้วช่วยเอาชนะ อุรกวัย 2-1
ขณะที่กองหลัง ซิลวา ติดโทษแบน ทำให้ ดานเต จาก บาเยิร์น จะได้จับคู่กับ ดาวิด ลุยซ์ ซึ่งก็ต้องปะทะกับนักเตะเยอรมนีที่เล่นอยู่ในทีมเดียวกันคือ บาเยิร์น รวมถึงบนเวที บุนเดสลีกา อีกหลายคน แต่ก็จะได้ ดานี อัลเวส แบ็กขวาจอมทะลุทะลวง คืนสนาม ส่วนฝั่งซ้ายเป็น มาร์เซโล แม้จะถูกวิจารณ์ว่าเติมเกมรุกจนลืมหลังบ้าน แต่ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่มีอยู่ในมือแล้ว
ไม่มีโอกาสไหนที่ดีกว่านี้อีกแล้วสำหรับ เยอรมนี ที่จะล้ม บราซิล ส่วนหนึ่งเพื่อล้างแค้นนัดชิงปี 2002 ที่ เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น ซึ่งแพ้ 0 - 2 จากการเหมายิงของ โรนัลโด หากผ่านไปได้ก็มีโอกาสสูงที่จะเป็นยุโรปชาติแรกมาปักธงแชมป์ ณ แดนละติน เพราะอีกคู่รอบรองชนะเลิศ อาร์เจนตินา พบ เนเธอร์แลนด์ เตะวันพุธที่ 9 กรกฎาคมนี้เทียบขุมกำลัง “อินทรีเหล็ก” ก็ยังเหนือกว่าตั้งแต่หน้าบ้านยันหลังบ้าน ซึ่งตอนนี้คนทั้งประเทศก็กำลังรอคอยแชมป์รอบ 24 ปีอย่างใจจดจ่อ
ขณะที่ฝั่ง บราซิล เป็นเรื่องของสปิริตล้วนๆ แล้ว เนื่องจากทีมชุดนี้ก็ถูกวิจารณ์ว่าไม่คู่ควรกับดาวดวงที่ 6 บนหน้าอก แถมยังมาเสีย เนย์มาร์ ซึ่งทำให้ทุกคนที่เหลืออยากจะคว้าแชมป์เพื่อมอบให้กับแข้งค่าย บาร์เซโลนา โดยที่ผ่านมาชนะ 5 จาก 6 เกมที่ไม่มีหอกวัย 22 ปีลงสนาม นอกจากนี้ ยังมี เปเล ตำนานแชมป์โลก 3 สมัยของทัพ “เซเลเซา” ออกมากระตุ้นรุ่นน้อง เพราะเมื่อปี 1962 ที่ ชิลี เจ้าของฉายา “ไข่มุกดำ” เจ็บต้องถอนตัวตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม แต่ยังก้าวไปซิวถ้วยได้ในบั้นปลายชนะ เชโกสโลวาเกีย 3-1
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *