คอลัมน์ “TIMEOUT” โดย “ชมณัฐ”
อีกไม่กี่อึดใจมหกรรมกีฬาแห่งทวีปเอเชีย หรือ เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่เมืองอินชอน เกาหลีใต้ ก็จะเปิดฉากกันให้ได้ลุ้นได้เชียร์กันแล้ว โดยแต่ละสมาคมกีฬาต่างตั้งเป้าคว้าเหรียญรางวัลติดมือมากบ้างน้อยบ้างตามศักยภาพ ซึ่งอีกหนึ่งแรงสนับสนุนชั้นดีที่จะเป็นเชื้อเพลิงให้ตัวนักกีฬาคงหนีไม่พ้นเงินอัดฉีดที่จะมอบให้กับความเพียรพยายามจนประสบความสำเร็จดั่งใจหมาย
สำหรับ “อินชอนเกมส์ 2014” ทีมชาติไทย ส่งนักกีฬาเข้าชิงชัยทั้งหมด 33 จาก 36 ชนิดกีฬา โดยมีนักกีฬาเข้าร่วมทั้งสิ้น 517 คน ซึ่งคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ได้ตั้งเป้าไว้ว่าน่าจะหยิบเหรียญทองกลับบ้านได้อย่างน้อย 11 เหรียญเท่ากับครั้งก่อนที่จีน ขณะที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) หวังสูงกว่าวางไว้ที่ 17 เหรียญทอง จาก 9 ชนิดกีฬา คือ ตะกร้อ 4 เหรียญ, เรือใบ 3 เหรียญ, มวยสากลสมัครเล่น 3 เหรียญ, กรีฑา 2 เหรียญ และ เทควันโด, แบดมินตัน, ยกน้ำหนัก, ยิงปืน, วอลเลย์บอล อย่างละ 1 เหรียญ
โดยหากนักกีฬาคนใดสามารถคว้าเหรียญทองได้จะได้รับเงินสนับสนุนในส่วนของภาครัฐจาก “กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ” จำนวน 1 ล้านบาท เหรียญเงินได้ 5 แสนบาท และเหรียญทองแดง 2 แสนบาท ส่วนภาคเอกชน เบื้องต้นมีแล้วแน่ๆ 1 ราย คือ “เอไอเอส” ที่เตรียมมอบให้เหรียญทอง 5 แสนบาท เหรียญเงิน 3 แสนบาท และเหรียญทองแดง 2 แสนบาท
แต่ที่ผู้คนให้ความสนใจและติดตามก็คือจะมีสมาคมใดที่อัดฉีดเพิ่มเติมให้บ้าง และที่ผ่านมาที่ฮือฮาที่สุดคงหนีไม่พ้น ฟุตบอลชาย ที่ได้ผู้ใหญ่ใจดีอย่าง วิลักษณ์ โหลทอง รองประธานสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ประกาศในนาม ประธานบริษัท โหลทอง โฮลดิ้ง จำกัด เตรียมควักกระเป๋าทันทีถ้าผ่านเข้ารอบตัดเชือกได้ จำนวน 5 ล้านบาท และหากถึงขั้นผงาดคว้าแชมป์ทุ่มเพิ่มอีก 50 ล้านบาท รวมเป็น 55 ล้านบาท(ส่วนรองแชมป์รับเพิ่ม 10 ล้าน) ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าจะถึงฝั่งฝันหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาดีสุดก็จบเพียงอันดับ 4 เท่านั้น
ส่วนสมาคมอื่นอย่าง สมาคมโบว์ลิ่งเเห่งประเทศไทย ไม่น้อยหน้าเตรียมเงินไว้ให้ทอยแก่นเหรียญทอง 4 ล้านบาท ขณะที่ มวยสากลสมัครเล่น ที่มีลุ้นทุกครั้ง งวดนี้ “บิ๊กบางจาก” พิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมฯ ใส่ซองให้ 2 ล้านบาท และระหว่างทางหากกำปั้นรายใดชนะรอบแรกรับไปก่อนเลย 1 หมื่นบาท รอบสอง 2 หมื่นบาท และรอบสาม 3 หมื่นบาท ด้านหวดลูกสักหลาด สุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายกลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย ควักกระเป๋าเหรียญทอง 1 ล้านบาท เหรียญเงิน 5 แสนบาท และเหรียญทองแดง 2 แสนบาท
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายสมาคมที่ขออุบเรื่องนี้ไว้ก่อนแต่แย้มว่ากระเป๋าตุงแน่นอน อาทิ ฟุตบอลหญิง ที่มี “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมสุดสวยเป็นสปอนเซอร์หลัก หรือ แบดมินตัน ที่ได้ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล เข้ามานั่งแท่นนายใหญ่ รวมถึง วอลเลย์บอลหญิง ที่หากคว้าแชมป์ได้ตามปรารถนา บริษัทเอกชนต่างๆคงไม่รอช้าที่จะตบเท้าเข้าแจมแน่นอน
อย่างไรก็ตามยังมีบางสมาคมที่มองว่าเรื่องเงินอัดฉีดนั้นเป็นความคิดล้าหลังไปแล้วอย่างเช่น "บิ๊กเอ" ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย ที่ยังยึดนโยบายเดิมคือทางสมาคมฯจะไม่อัดฉีดเนื่องจากมองว่าควรนำเงินจำนวนนั้นมาพัฒนาในการฝึกซ้อมและเตรียมตัวดีกว่า ส่วนภาคเอกชนใดจะเข้ามาสนับสนุนเองก็สุดแล้วแต่
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
อีกไม่กี่อึดใจมหกรรมกีฬาแห่งทวีปเอเชีย หรือ เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่เมืองอินชอน เกาหลีใต้ ก็จะเปิดฉากกันให้ได้ลุ้นได้เชียร์กันแล้ว โดยแต่ละสมาคมกีฬาต่างตั้งเป้าคว้าเหรียญรางวัลติดมือมากบ้างน้อยบ้างตามศักยภาพ ซึ่งอีกหนึ่งแรงสนับสนุนชั้นดีที่จะเป็นเชื้อเพลิงให้ตัวนักกีฬาคงหนีไม่พ้นเงินอัดฉีดที่จะมอบให้กับความเพียรพยายามจนประสบความสำเร็จดั่งใจหมาย
สำหรับ “อินชอนเกมส์ 2014” ทีมชาติไทย ส่งนักกีฬาเข้าชิงชัยทั้งหมด 33 จาก 36 ชนิดกีฬา โดยมีนักกีฬาเข้าร่วมทั้งสิ้น 517 คน ซึ่งคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ได้ตั้งเป้าไว้ว่าน่าจะหยิบเหรียญทองกลับบ้านได้อย่างน้อย 11 เหรียญเท่ากับครั้งก่อนที่จีน ขณะที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) หวังสูงกว่าวางไว้ที่ 17 เหรียญทอง จาก 9 ชนิดกีฬา คือ ตะกร้อ 4 เหรียญ, เรือใบ 3 เหรียญ, มวยสากลสมัครเล่น 3 เหรียญ, กรีฑา 2 เหรียญ และ เทควันโด, แบดมินตัน, ยกน้ำหนัก, ยิงปืน, วอลเลย์บอล อย่างละ 1 เหรียญ
โดยหากนักกีฬาคนใดสามารถคว้าเหรียญทองได้จะได้รับเงินสนับสนุนในส่วนของภาครัฐจาก “กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ” จำนวน 1 ล้านบาท เหรียญเงินได้ 5 แสนบาท และเหรียญทองแดง 2 แสนบาท ส่วนภาคเอกชน เบื้องต้นมีแล้วแน่ๆ 1 ราย คือ “เอไอเอส” ที่เตรียมมอบให้เหรียญทอง 5 แสนบาท เหรียญเงิน 3 แสนบาท และเหรียญทองแดง 2 แสนบาท
แต่ที่ผู้คนให้ความสนใจและติดตามก็คือจะมีสมาคมใดที่อัดฉีดเพิ่มเติมให้บ้าง และที่ผ่านมาที่ฮือฮาที่สุดคงหนีไม่พ้น ฟุตบอลชาย ที่ได้ผู้ใหญ่ใจดีอย่าง วิลักษณ์ โหลทอง รองประธานสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ประกาศในนาม ประธานบริษัท โหลทอง โฮลดิ้ง จำกัด เตรียมควักกระเป๋าทันทีถ้าผ่านเข้ารอบตัดเชือกได้ จำนวน 5 ล้านบาท และหากถึงขั้นผงาดคว้าแชมป์ทุ่มเพิ่มอีก 50 ล้านบาท รวมเป็น 55 ล้านบาท(ส่วนรองแชมป์รับเพิ่ม 10 ล้าน) ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าจะถึงฝั่งฝันหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาดีสุดก็จบเพียงอันดับ 4 เท่านั้น
ส่วนสมาคมอื่นอย่าง สมาคมโบว์ลิ่งเเห่งประเทศไทย ไม่น้อยหน้าเตรียมเงินไว้ให้ทอยแก่นเหรียญทอง 4 ล้านบาท ขณะที่ มวยสากลสมัครเล่น ที่มีลุ้นทุกครั้ง งวดนี้ “บิ๊กบางจาก” พิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมฯ ใส่ซองให้ 2 ล้านบาท และระหว่างทางหากกำปั้นรายใดชนะรอบแรกรับไปก่อนเลย 1 หมื่นบาท รอบสอง 2 หมื่นบาท และรอบสาม 3 หมื่นบาท ด้านหวดลูกสักหลาด สุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายกลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย ควักกระเป๋าเหรียญทอง 1 ล้านบาท เหรียญเงิน 5 แสนบาท และเหรียญทองแดง 2 แสนบาท
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายสมาคมที่ขออุบเรื่องนี้ไว้ก่อนแต่แย้มว่ากระเป๋าตุงแน่นอน อาทิ ฟุตบอลหญิง ที่มี “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมสุดสวยเป็นสปอนเซอร์หลัก หรือ แบดมินตัน ที่ได้ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล เข้ามานั่งแท่นนายใหญ่ รวมถึง วอลเลย์บอลหญิง ที่หากคว้าแชมป์ได้ตามปรารถนา บริษัทเอกชนต่างๆคงไม่รอช้าที่จะตบเท้าเข้าแจมแน่นอน
อย่างไรก็ตามยังมีบางสมาคมที่มองว่าเรื่องเงินอัดฉีดนั้นเป็นความคิดล้าหลังไปแล้วอย่างเช่น "บิ๊กเอ" ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย ที่ยังยึดนโยบายเดิมคือทางสมาคมฯจะไม่อัดฉีดเนื่องจากมองว่าควรนำเงินจำนวนนั้นมาพัฒนาในการฝึกซ้อมและเตรียมตัวดีกว่า ส่วนภาคเอกชนใดจะเข้ามาสนับสนุนเองก็สุดแล้วแต่
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *