เอเยนซี - เวทีลูกหนัง พรีเมียร์ ลีก ครองตำแหน่งแชมป์นักช็อปประจำซัมเมอร์นี้ เพราะท็อป 10 มี 6 สโมสรอังกฤษติดโผ ส่วนอันดับ 1 เป็นใครไปไม่ได้คือ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับยอดตัวเลขเสริมทัพ 157.7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 8,358 ล้านบาท) หลังวันสุดท้ายเมื่อ 1 กันยายน 2557 ฮุบเบิ้ลคือ ราดาเมล ฟัลเกา กับ ดาลีย์ บลินด์
วันสุดท้าย แมนฯยู คว้า ฟัลเกา กองหน้าทีมชาติโคลอมเบีย มาจาก โมนาโก พร้อมออปชันซื้อขาด ส่วนการมาเล่นในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ของแข้งวัย 28 ปี “ผีแดง” ต้องจ่ายค่ายืม 6 ล้านปอนด์ (ประมาณ 318 ล้านบาท) ส่วนอีกคนก็คือ บลินด์ ฟูลแบ็กทีมชาติเนเธอร์แลนด์ส ชุดอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2014 ที่ บราซิล ซึ่ง หลุยส์ ฟาน กัล นายใหญ่ชาวดัตช์ ดึงมาร่วมงานกันอีกครั้งด้วยค่าตัว 14 ล้านปอนด์ (ประมาณ 742 ล้านบาท) จาก อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม
รวมแล้วซัมเมอร์นี้ แมนฯยู ได้นักเตะใหม่ 6 ราย คือ อังเคล ดิ มาเรีย, มาร์กอส โรโฮ, ลุค ชอว์, อันเดร เอร์เรรา, บลินด์ และ ฟัลเกา ซึ่งก็ต้องรอดูว่า ฟาน กัล จะเล่นระบบไหนให้ออกมาแล้วกลมกล่อมที่สุด แต่เมื่อพิจารณาจากการซื้อตัวแล้วคงเป็น 3-5-2 ที่ออกสตาร์ทศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ 3 นัดแรกมีเพียงแค่ 2 แต้ม เหตุที่ “ผีแดง” ต้องช็อปกระหน่ำขนาดนี้มาจากเมื่อปีที่แล้วที่ไม่ได้ไปเล่น ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก เพราะจบอันดับ 7 ไร้แชมป์ติดมือ
อันดับ 2 ได้แก่ บาร์เซโลนา แห่งศึก ลา ลีกา สเปน หว่านเม็ดเงิน 138.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 7,340 ล้านบาท) หนึ่งในนั้นคือ หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัยที่โยกจาก ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวสูงสุดซัมเมอร์นี้ว่ากันว่าอยู่ที่ 75 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,975 ล้านบาท) ที่เหลือใช้คว้า มาร์ก-อังเดร เตอร์ สเตเกน, อิวาน ราคิติช, เคลาดิโอ บราโว, ดั๊กลาส, โทมัส แฟร์มาเลน และ เฌเรมี มาติเยอ โดยถือเป็นอีกสโมสรที่ปีที่แล้วไม่มีเกียรติยศประดับตู้โชว์ เหนืออื่นใดคือต้องคว้าเผื่อโทษแบนห้ามซื้อ-ขายนักเตะ 2 ช่วงตลาดนับจากนี้ตามคำสั่งของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟา
ต่อมาคือ ลิเวอร์พูล ใช้ไป 133.6 ล้านปอนด์ (ประมาณ 7 พันล้านบาท) กวาด ดิว็อค โอริกี, เดยัน ลอฟเรน, ริคกี แลมเบิร์ต, อัลเบอร์โต โมเรโน, ฆาบี มานกีโญ (ยืมตัว), อดัม ลัลลานา, เอ็มเร คาน, มาริโอ บาโลเตลี และ ลาซาร์ มาร์โควิช โดยเป็นอีกทีมที่ไม่มีแชมป์ แต่เกือบคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษครั้งแรกรอบ 24 ปี รวมถึงได้กลับไปเล่น ยูฟา แชมเปียนส ลีก
ส่วนที่เหลือนั้นเสริมกันแบบพอหอมปากหอมคอ รีล มาดริด แชมป์ยุโรปสมัยที่ 10 เมื่อปีที่แล้ว 108 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,724 ล้านบาท) ดึงดาวเด่นฟุตบอลโลกทั้ง โทนี โครส กับ เจมส์ โรดริเกวซ มาเสริมกองกลาง พ่วง เคย์เลอร์ นาบาส มือกาว ตามด้วย แอตเลติโก มาดริด 98 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,194 ล้านบาท) แชมป์ ลา ลีกา สเปน ดึง มาริโอ มานด์ซูคิช, อองตวน กรีซมันน์ และ อเลสซิโอ แชร์ชี
ท็อปเทนสโมสรที่ใช้เงินมากที่สุดซัมเมอร์นี้ปรากฏว่ามีทีมจากอังกฤษติดโผถึง 6 คือ แมนฯยู (1) ลิเวอร์พูล (3) เชลซี (6) อาร์เซนอล (7) เซาแธมป์ตัน (8) แมนเชสเตอร์ ซิตี (9) โดย “เรือใบสีฟ้า” ใช้ไปแค่ 57.7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,058 ล้านบาท) เพราะติดบทลงโทษทำผิดกฎ “ไฟแนนเชียล แฟร์ เพลย์” (ควบคุมด้านการเงินของ) ฟีฟา ซึ่งมีผลต่อการลงทะเบียนนักเตะเล่นฟุตบอลยุโรป ที่เหลือคือ สเปน 3 และ โรมา หนึ่งเดียวจาก กัลโช เซเรีย อา อิตาลี อันดับ 10 ใช้ไป 50 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,650 ล้านบาท)
เรียกได้ว่าลีกอื่นๆ ของยุโรปต่างซบเซามีเพียง พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เท่านั้นที่ใช้เงินเสริมทัพกันอย่างมันมือ โดยถ้านำรวม 20 สโมสรตัวเลขอยู่ที่ราว 850 ล้านปอนด์ (ประมาณ 42,500 ล้านบาท) เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วอยู่ที่ 630 ล้านปอนด์ (ประมาณ 33,390 ล้านบาท) ซัมเมอร์นี้ทีมที่ซื้อเยอะสุดก็ทราบไปแล้วคือ แมนฯยู แต่ทีมที่จ่ายน้อยสุดคือ สโต๊ค ซิตี 3.4 ล้านปอนด์ (ประมาณ 180 ล้านบาท) เท่านั้น
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *