ASTV ผู้จัดการรายวัน – ชื่อของ “อัลเฟรด” เนติพงษ์ ศรีทองอินทร์ ยังคงติดตาตรึงใจแฟนฟุตบอลชาวไทย แม้รับใช้ทัพ “ช้างศึก” เพียงแค่ช่วงสั้นๆ อย่างไรก็ตาม ดาวยิงลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส กลับสู่เส้นทางลูกหนังอีกครั้งในฐานะโค้ชแม่เนื้ออ่อนที่กำลังจะต้องไปลุยศึก เอเชียน เกมส์ ครั้งที่ 17 ณ เมืองอินชอน เกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 19 กันยายน ถึง 4 ตุลาคมนี้ ตามด้วย เวิลด์ คัพ 2015 ที่แคนาดา
เนติพงษ์ หันหลังให้ทีมชาติไทย โดยฝากผลงาน 55 นัด ถลุง 25 ประตู ตอนนั้นอายุเพียงแค่ 25 ปีเท่านั้น พร้อมเหตุผลที่ว่ารู้สึกเบื่อการเล่นฟุตบอล อยากหาอะไรที่ท้าทายมากกว่า สุดท้ายเราได้เห็นบทบาทใหม่คือเทิร์นโปรเป็นนักกอล์ฟมืออาชีพอย่างเต็มตัว
ก่อนจะเผยถึงการกลับมาครั้งนี้อดีตนักเตะที่ปัจจุบันวัย 41 ปี เผยว่า “ช่วงที่ถึงจุดอิ่มตัวกับฟุตบอลทำให้เรารู้สึกว่ากีฬานี้ไม่สนุกแล้วผมจึงเลิกเล่นแล้วเดินทางไป สหรัฐอเมริกา 2 ปีเพื่อเรียนภาษาจากนั้นก็กลับมาอยู่ที่ประเทศไทย เพื่อหัดเล่นกอล์ฟด้วยความที่เราเป็นคนที่ทำอะไรก็ทำเต็มที่จึงมีความคิดอยากจะเทิร์นโปรจากนั้นอีก 4 ปีผมก็ขึ้นมาเล่นกอล์ฟอาชีพได้ แต่ตอนนี้ก็พักการแข่งขันมากว่าสองปีแล้วเพราะช่วงนี้รู้สึกว่ามันยังทำไม่สำเร็จอย่างที่ต้องการ”
“โดยช่วงที่ผมเลิกเล่นฟุตบอลไป ก็ไม่เคยได้ยุ่งเกี่ยวกับวงการนี้อีกเลย แม้กระทั่งเกม โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก ที่ช่วงนี้กำลังคึกคักก็ไม่ได้ดู ได้แต่ตามข่าวอย่างเดียวว่าตอนนี้ทีมอย่าง ชลบุรี เอฟซี กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กำลังพีคสุดๆในประเทศไทยมีคนดูนัดละเป็นหมื่นคนก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน” เนติพงษ์ เผย
อดีตศูนย์หน้าของ ธ.กสิกรไทย สโมสรระดับตำนานไทยลีก เล่าให้ฟังถึงเหตุผลที่กลับมาในวงการฟุตบอลอีกครั้ง จากการชักชวนของ “โค้ชหรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิน ที่ปรึกษาและผู้ช่วยโค้ชทีมฟุตบอลหญิง ทีมชาติไทย ว่า “ตอนนั้นมีโอกาสได้คุยกับอาจารย์หรั่ง ก็มีความรู้สึกว่าน่าสนใจนะ เพิ่งรู้มาว่าท่านทำบอลหญิง ก็เจอกันแล้วคุยกันนิดหน่อย เลยถามไปว่าพอเป็นไปได้ไหมที่ผมอยากจะกลับมาในวงการนี้ อาจจะเป็นโค้ชก็ได้ ซึ่งอาจารย์บอกไม่มีปัญหา เลยตกลงมาช่วยติวกองหน้าหญิงทีมชาติทันที”
เมื่อกลับมาอยู่ในจุดที่เคยยืนแต่เป็นบทบาทใหม่ในฐานะโค้ช เนติพงษ์ เผยรู้สึกทึ่งในความสามารถของนักฟุตบอลหญิงไทยเป็นอย่างมาก โดยเล่าว่า “ตอนมาครั้งแรกผมไม่รู้เลยว่าบอลหญิงไปถึงไหน พอมาเห็นเขาซ้อมอยู่ ตกใจมากในทักษะที่พัฒนาได้อย่างน่าพอใจ ทั้งความเข้าใจ หรือแรงปะทะ ก็คือโดยรวมแล้วทุกอย่าง สมัยผมที่เล่นบอลอยู่ บอลหญิงก็ไม่ได้ขนาดนี้ แต่จากนี้จะเข้ามาแนะนำในบางสิ่งที่ต้องใช้ประสบการณ์หรือความถูกต้อง เป็นทักษะที่ต้องใช้ประสบการณ์เป็นหลัก แต่ก็จะยังไม่เข้าไปยุ่งเกียวกับระบบการเล่นกลัวจะเสียรูปขบวนที่ซ้อมมา”
อัลเฟรด เผยอีกว่า “สำหรับการเปลี่ยนบทบาทจากผู้เล่นมาเป็นโค้ชมันไม่ยาก โดยเฉพาะตนเองที่คลุกคลีกับบอลชายมาก่อน ซึ่งหากเทียบกันไม่ว่าจะเป็นบอลหญิงหรือบอลชาย ถ้าไม่นับเรื่องพลังความฟิต ก็ไม่มีอะไรที่แตกต่างกัน ซึ่งที่มาสอนศูนย์หน้าก็ไม่ต้องไปเร่งความฟิตเขาเพราะมันคือสัญชาตญาณ ความฉลาดในการทำประตู ทักษะในการวางเท้า แม้ว่านักบอลหญิงยังไม่ค่อยได้เห็นจังหวะทำประตูที่ชัดเจน แต่เมื่อเราอธิบายให้เขาฟังก็ทำได้ดีพอสมควร”
ซึ่งเมื่อถามว่าอยากจะกลับหันมาสวมบทโค้ชเต็มตัวหรือไม่ เนติพงษ์ ตอบทันทีว่า “สนใจเหมือนกัน เพราะว่าพอมาทำตรงนี้เริ่มรู้สึกสนุกตรงที่เราไม่ได้สอนเหมือนคนอื่น ที่จะต้องเป็นสูตรหรือเป็นอะไรที่มันตายตัว ผมสอนการทำประตูจริงๆ ด้วยสัญชาตญาณ และเปลี่ยนความทัศนคติของผู้เล่นให้ถูกต้อง เช่นหาก ลูกฟุตบอลมาแบบนี้เราควรจะยิงแบบไหนให้มันเข้าประตู เหมือนสอนเบสิกมากกว่า”
เมื่อถูกถามว่าอนาคตจะเป็นโค้ชเต็มตัวหรือคุมทีมฟุตบอลชายในฐานะกุนซือ เนติพงษ์ ทิ้งท้ายว่า “ตอนนี้ผมก็ยังไม่เลิกเล่นกอล์ฟ ไปซ้อมวงสวิงทุกวัน แต่อนาคตแล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะไปหยุดอยู่ตรงไหน ชีวิตตนไม่ได้มีอะไรที่กำหนดตายตัว แต่ถ้าหากพร้อมเมื่อไหร่ก็คงจะเดินเส้นทางสายฟุตบอลซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นแรกที่ทำให้มีทุกวันนี้ได้”
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *