แดเนียล ริคคิอาร์โด นักขับ ฟอร์มูลา วัน ของทีม เรด บูลล์ ประเดิมออกตัวครึ่งฤดูกาลหลังด้วยผลงานคว้าแชมป์ศึก เบลเยียม กรังด์ ปรีซ์ มาครองได้สำเร็จ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา ขณะที่ นิโค รอสเบิร์ก และ ลูอิส แฮมิลตัน จาก เมอร์เซเดส จีพี รถเกี่ยวกันเองจนวืดโพเดียมสูงสุด
ศึก ฟอร์มูลา วัน กลับมาลุยต่อครึ่งหลังในสนามที่ 12 รายการ เบลเยียม กรังด์ ปรีซ์ ณ สนาม สปา ฟรองโคชองป์ส ประเทศเบลเยียม วันที่ 24 สิงหาคม เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ทั้งหมด 44 รอบ ท่ามกลางสภาพฝนฟ้ามืดครึ้ม เล่นเอานักแข่งทุกทีมเลือกใช้ยางสลิคเป็นส่วนใหญ่
สิ้นสัญญาณไฟ ลูอิส แฮมิลตัน จาก เมอร์เซเดส จีพี ออกตัวยอดเยี่ยมแซง นิโค รอสเบิร์ก เพื่อนร่วมทีมขึ้นมาหัวแถว แต่ผ่านไป 3 รอบก็เกิดดรามาเมื่อวิงหน้ารถของ รอสเบิร์ก จิ้มเข้าล้อซ้ายหลังของ แฮมิลตัน ทำเอาอดีตแชมป์โลกปี 2008 ยางพังหลุดออกนอกแทร็ค ก่อนที่ รอสเบิร์ก อาศัยช่วงชุลมุนแซงขึ้นนำ
ผ่านไปครึ่งทาง การแข่งขันเริ่มสนุกเข้มข้น เมื่อ แดเนียล ริคคิอาร์โด จาก เรด บูลล์ เร่งเครื่องแซงนำ รอสเบิร์ก ที่รถได้รับความเสียหายจากจังหวะดังกล่าว ตามด้วย วอลเตรี บอตตาส จาก วิลเลียมส์ อันดับ 2 ขณะที่ เซบาสเตียน เวทเทล แชมป์โลก 4 สมัยจาก เรด บูลล์ ก็ไล่จี้ติดเพื่อหวังขึ้นมาอยู่ที่ 3
ช่วงโค้งสุดท้าย รอสเบิร์ก หวังเสียบนักซิ่งค่าย เรด บูลล์ ขึ้นหน้า แต่ทำไม่สำเร็จ แล้วเป็น ริคคิอาร์โด ที่ขับประคองวิ่งเข้าป้ายคันแรก ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 24 นาที 36.556 วินาที ตามด้วย รอสเบิร์ก และ บอตตาส ที่ขับมาเป็นอันดับ 2 และ 3 ส่วน แฮมิลตัน เครื่องยนต์มีปัญหาต้องออกจากเรซก่อนกำหนด
ผลจากสนามนี้ทำให้ ริคคิอาร์โด เก็บเพิ่มอีก 25 แต้ม รวมเป็น 156 แต้ม ทว่ายังคงอยู่อันดับ 3 บนตารางชิงแชมป์โลก ขณะที่ รอสเบิร์ก วิ่งเข้าที่ 2 แต่ยังรักษาตำแหน่งจ่าฝูงต่อไปด้วย 220 แต้ม ส่วน แฮมิลตัน ที่ออกจากสนามก่อนกำหนด ถึงไม่มีแต้มติดมือแต่ยังรั้งอันดับ 2 มี 191 แต้ม
สำหรับการแข่งขันรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก จะหยุดพักหายใจหายคอ 1 สัปดาห์ ก่อนจะกลับมาลุยกันต่อในดินแดนมักกะโรนี กับศึก อิตาเลียน กรังด์ ปรีซ์ ที่สนาม มอนซา ออโตโดรม ประเทศอิตาลี วันที่ 5-7 กันยายนนี้
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
