คอลัมน์ “TIMEOUT” โดย “ชมณัฐ”
กระแสฟุตบอลไทยช่วงที่ผ่านมา ถูกฟุตบอลโลก ฉบับแซมบ้า กลบเสียสนิท ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรเพราะมหกรรมลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติน่าดูและน่าติดตามกว่าเยอะ ซึ่งตอนนี้ได้จบลงไปแล้วก็ถึงเวลาที่ “บอลไทย” จะต้องเดินหน้าต่อไปอย่างเป็นรูปเป็นร่างเสียที
ฟุตบอลโลกที่ผ่านมา มีหลายเหตุการณ์ใหม่ๆ เกิดขึ้นหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เข้ามาช่วยอย่าง โกล-ไลน์ หรือ วานิชชิง สเปรย์ (สเปรย์ล่องหน) เช่นเดียวกับแท็กติกใหม่ๆ ที่แต่ละทีมเลือกใช้โดยเฉพาะ “เยอรมันสไตล์” ที่เน้นความแข็งแกร่งของทีมเวิร์กเป็นหลัก จนนำมาซึ่งความหลากหลายในเกมรุก และสามารถคว้าแชมป์ได้ในที่สุด หรือแม้กระทั่งการเปลี่ยนผู้รักษาประตูสำรองลงมาเพื่อเซฟจุดโทษโดยเฉพาะของเนเธอร์แลนด์
ดังนั้น บุคลากรหรือผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายในแวดวงลูกหนังไทยคงจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้มากโข ตัวนักเตะเองที่ได้เรียนรู้วิธีการเล่นจากเหล่าสตาร์ดัง หรือโค้ชไทยที่ได้เห็นแผนการเล่น การเปลี่ยนตัว การแก้สถานการณ์ ของกุนซือระดับโลก (โดยเฉพาะ 3-4 รายที่ได้เป็นคอมเมนเตเตอร์คอยวิเคราะห์เกม)
เหนือสิ่งอื่นใดคณะผู้บริหารฟุตบอลไทย นำโดย “บังยี” วรวีร์ มะกูดี ที่ได้ไปเกาะติดสถานการณ์ ทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังติดขอบเวที แถมยังได้เป็นฝ่ายควบคุมดูแลการแข่งขันอีกด้วย ดังนั้น แฟนบอลชาวไทยจึงหวังว่าพวกเขาเหล่านั้นจะนำประสบการณ์และความรู้ที่ได้มาพัฒนาฟุตบอลไทยได้ไม่มากก็น้อย
ทีนี้ลองชำเลืองกลับมาที่บ้านเรากันบ้าง หลายคนคงส่ายหน้าเพราะยังเจอแต่ปัญหาเดิมๆ ไล่ตั้งแต่การทำหน้าที่ผิดพลาดของผู้ตัดสิน แม้ล่าสุดได้มีการนำวิธีจับสลากรายชื่อการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินและผู้ช่วยมาใช้แล้วก็ตาม ซึ่งดูแล้วก็ไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาได้สักกี่น้ำ
ที่สำคัญเรื่องนี้ยังแสดงให้เห็นแล้วว่ามีการไม่ลงรอยกันเกิดขึ้นภายในสมาคมฟุตบอลเอง ระหว่าง “เสธ.ตุ้ม” พล.อ.ชินเสณ ทองโกมล ประธานผู้ตัดสินไทย กับคณะทำงานของ บริษัท ไทย พรีเมียร์ ลีก จำกัด เพราะไม่ว่า ดร.องอาจ ก่อสินค้า ประธานทีพีแอล หรือ นิโรจน์ สุนทรเลขา ประธานประเมินจริยธรรมและจรรยาบรรณฯ ที่ดูเรื่องล้มบอล จะกระทุ้งให้คณะผู้ตัดสินมีการเปลี่ยนแปลงการทำงาน หรือลงโทษผู้ผิดพลาดอย่างต่อเนื่อง แต่สุดท้ายก็ไร้สัญญาณตอบรับ แถมยังถูก “เสธ.ทหาร” ตอกกลับเสียอีก
เท่ากับว่าทั้ง 2 ฝั่งเริ่มไม่มีใครยอมใครกันแล้ว จะมีเพียงแค่ “บังยี” เท่านั้นที่จะตัดสินใจสั่งขั้นเด็ดขาดที่ทุกฝ่ายต้องทำตาม (แม้จะไม่เต็มใจก็ตาม) ได้ ทีนี้ก็ต้องติดตามดูว่าเมื่อนายใหญ่กลับจากภารกิจฟุตบอลโลกแล้ว จะเดินหน้าอย่างไรต่อให้สมกับที่พ้นมลทินและข้อครหาต่างๆ ที่ฝ่ายต่อต้านฟ้องร้องกับศาลกีฬาโลก
อ้อ แล้วอย่าลืมเรื่องสำคัญอย่าง “เลขาธิการสมาคมฯ” ด้วย เพราะทุกวันนี้เก้าอี้ยังว่างเปล่ามีเพียง “ผู้พันหลอ” พ.อ.วรวุฒิ ทองศรีงาม ที่ถูกดันขึ้นมารักษาการแทนแบบงงกันทั้งบาง ซึ่งสุดท้ายก็แทบจะไม่มีบทบาทอะไรให้เห็นเลย ในระหว่างที่ สโมสร ผู้ตัดสิน และทีพีแอล กำลังเป็นไม้เบื่อไม้เมากันอยู่ตอนนี้ และตัวท่านเองก็ไม่ค่อยมีเวลาว่างมาช่วยแก้ปัญหาเพราะต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยครั้ง รีบหาใครสักคนที่มีความสามารถมาช่วยดับร้อนจุดนี้เถิดครับ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
กระแสฟุตบอลไทยช่วงที่ผ่านมา ถูกฟุตบอลโลก ฉบับแซมบ้า กลบเสียสนิท ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรเพราะมหกรรมลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติน่าดูและน่าติดตามกว่าเยอะ ซึ่งตอนนี้ได้จบลงไปแล้วก็ถึงเวลาที่ “บอลไทย” จะต้องเดินหน้าต่อไปอย่างเป็นรูปเป็นร่างเสียที
ฟุตบอลโลกที่ผ่านมา มีหลายเหตุการณ์ใหม่ๆ เกิดขึ้นหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เข้ามาช่วยอย่าง โกล-ไลน์ หรือ วานิชชิง สเปรย์ (สเปรย์ล่องหน) เช่นเดียวกับแท็กติกใหม่ๆ ที่แต่ละทีมเลือกใช้โดยเฉพาะ “เยอรมันสไตล์” ที่เน้นความแข็งแกร่งของทีมเวิร์กเป็นหลัก จนนำมาซึ่งความหลากหลายในเกมรุก และสามารถคว้าแชมป์ได้ในที่สุด หรือแม้กระทั่งการเปลี่ยนผู้รักษาประตูสำรองลงมาเพื่อเซฟจุดโทษโดยเฉพาะของเนเธอร์แลนด์
ดังนั้น บุคลากรหรือผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายในแวดวงลูกหนังไทยคงจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้มากโข ตัวนักเตะเองที่ได้เรียนรู้วิธีการเล่นจากเหล่าสตาร์ดัง หรือโค้ชไทยที่ได้เห็นแผนการเล่น การเปลี่ยนตัว การแก้สถานการณ์ ของกุนซือระดับโลก (โดยเฉพาะ 3-4 รายที่ได้เป็นคอมเมนเตเตอร์คอยวิเคราะห์เกม)
เหนือสิ่งอื่นใดคณะผู้บริหารฟุตบอลไทย นำโดย “บังยี” วรวีร์ มะกูดี ที่ได้ไปเกาะติดสถานการณ์ ทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังติดขอบเวที แถมยังได้เป็นฝ่ายควบคุมดูแลการแข่งขันอีกด้วย ดังนั้น แฟนบอลชาวไทยจึงหวังว่าพวกเขาเหล่านั้นจะนำประสบการณ์และความรู้ที่ได้มาพัฒนาฟุตบอลไทยได้ไม่มากก็น้อย
ทีนี้ลองชำเลืองกลับมาที่บ้านเรากันบ้าง หลายคนคงส่ายหน้าเพราะยังเจอแต่ปัญหาเดิมๆ ไล่ตั้งแต่การทำหน้าที่ผิดพลาดของผู้ตัดสิน แม้ล่าสุดได้มีการนำวิธีจับสลากรายชื่อการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินและผู้ช่วยมาใช้แล้วก็ตาม ซึ่งดูแล้วก็ไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาได้สักกี่น้ำ
ที่สำคัญเรื่องนี้ยังแสดงให้เห็นแล้วว่ามีการไม่ลงรอยกันเกิดขึ้นภายในสมาคมฟุตบอลเอง ระหว่าง “เสธ.ตุ้ม” พล.อ.ชินเสณ ทองโกมล ประธานผู้ตัดสินไทย กับคณะทำงานของ บริษัท ไทย พรีเมียร์ ลีก จำกัด เพราะไม่ว่า ดร.องอาจ ก่อสินค้า ประธานทีพีแอล หรือ นิโรจน์ สุนทรเลขา ประธานประเมินจริยธรรมและจรรยาบรรณฯ ที่ดูเรื่องล้มบอล จะกระทุ้งให้คณะผู้ตัดสินมีการเปลี่ยนแปลงการทำงาน หรือลงโทษผู้ผิดพลาดอย่างต่อเนื่อง แต่สุดท้ายก็ไร้สัญญาณตอบรับ แถมยังถูก “เสธ.ทหาร” ตอกกลับเสียอีก
เท่ากับว่าทั้ง 2 ฝั่งเริ่มไม่มีใครยอมใครกันแล้ว จะมีเพียงแค่ “บังยี” เท่านั้นที่จะตัดสินใจสั่งขั้นเด็ดขาดที่ทุกฝ่ายต้องทำตาม (แม้จะไม่เต็มใจก็ตาม) ได้ ทีนี้ก็ต้องติดตามดูว่าเมื่อนายใหญ่กลับจากภารกิจฟุตบอลโลกแล้ว จะเดินหน้าอย่างไรต่อให้สมกับที่พ้นมลทินและข้อครหาต่างๆ ที่ฝ่ายต่อต้านฟ้องร้องกับศาลกีฬาโลก
อ้อ แล้วอย่าลืมเรื่องสำคัญอย่าง “เลขาธิการสมาคมฯ” ด้วย เพราะทุกวันนี้เก้าอี้ยังว่างเปล่ามีเพียง “ผู้พันหลอ” พ.อ.วรวุฒิ ทองศรีงาม ที่ถูกดันขึ้นมารักษาการแทนแบบงงกันทั้งบาง ซึ่งสุดท้ายก็แทบจะไม่มีบทบาทอะไรให้เห็นเลย ในระหว่างที่ สโมสร ผู้ตัดสิน และทีพีแอล กำลังเป็นไม้เบื่อไม้เมากันอยู่ตอนนี้ และตัวท่านเองก็ไม่ค่อยมีเวลาว่างมาช่วยแก้ปัญหาเพราะต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยครั้ง รีบหาใครสักคนที่มีความสามารถมาช่วยดับร้อนจุดนี้เถิดครับ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *