“มังกรไฟ” ไร้พ่าย! รากฐานที่มาถูกทาง

ASTV ผู้จัดการรายวัน - ศึกลูกหนัง โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก 2014 ผ่านไปแล้วครึ่งทาง มีหนึ่งไฮไลต์ที่หลายฝ่ายจับตา คือ ฟอร์มอันยอดเยี่ยมของ บีอีซี เทโรศาสน ยักษ์หลับแห่งวงการที่ตื่นขึ้นมาเบียดทาบรัศมีแย่งแชมป์กับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อย่างถึงพริกถึงขิง ซึ่งผลงานที่ยังไม่แพ้ทีมใดของ “มังกรไฟ” ฤดูกาลนี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่มาจากเมล็ดพันธุ์ที่ถูกบ่มเพาะมาหลายปีจนผลิดอกออกผล

หลังจากครองความยิ่งใหญ่คว้าแชมป์ลีกสูงสุด 2 สมัยติด เมื่อปี 2000 และ 2000/2001 รวมถึงเข้าป้ายเป็นอันดับ 2 ในอีก 2 ฤดูกาลถัดมา นับจากนั้น บีอีซี เทโรศาสน ยังไม่สามารถทำผลงานได้เฉียดเข้าใกล้บัลลังก์แชมป์อีกเลย โดยดีที่สุดจบเพียงอันดับ 3 ในปี 2006, 2007, 2008 และ 2012 แต่ซีซันนี้ “มังกรไฟ” ถือว่ามีลุ้นที่จะกลับมาผงาดอีกครั้ง หลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ลงเล่น 21 นัด ชนะ 11 เสมอ 10 ยังไม่แพ้ทีมใด ยิงได้ 40 ประตู เสีย 19 ประตู มี 43 แต้ม รั้งรองจ่าฝูง คะแนนและผลต่างประตูได้เสียเท่ากับผู้นำอย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แต่ยิงประตูได้น้อยกว่าเพียง 1 ตุงเท่านั้น

ซึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้ บีอีซี เทโรฯ กลับมาแข็งแกร่งในครั้งนี้คงหนีไม่พ้นการวางรากฐานของฝ่ายบริหารที่ไว้วางใจให้โอกาสแข้งพลังหนุ่มลงสนามอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 2 ฤดูกาลที่แล้วจนกระดูกแข็งกล้า ไม่ว่าจะเป็น พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา (แบ็กซ้าย - 21 ปี), นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม (แบ็กขวา - 19 ปี), ธนบูรณ์ เกษารัตน์ (กลางรับ - 20 ปี) และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ (กลางรุก - 20 ปี) ที่ต่างก้าวขึ้นมาเป็นแกนหลักของทีมในปีนี้ ซึ่งทั้งหมดยังได้บ่มเพาะประสบการณ์ระดับชาติจากการเป็นกำลังสำคัญพาทีมชาติไทย คว้าแชมป์ซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่ประเทศเมียนมาร์ เมื่อปลายปีที่แล้วอีกด้วย

โดย ธัญญะ วงศ์นาค ผู้จัดการทีมบีอีซี เทโรฯ เผยว่า สโมสรได้เน้นความสำคัญของการพัฒนาผู้เล่นเยาวชนเป็นหลัก เห็นได้จากการส่งนักเตะดาวรุ่งไปหาประสบการณ์ในระดับ เอไอเอส ลีก ภูมิภาค (ดิวิชัน 2) กับทีมอาร์แบค - บีอีซี เทโรศาสน และในปัจจุบันจับมือเป็นพันธมิตรกับ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ในนาม บีซีซี-เทโร เอฟซี รวมถึงการส่งนักเตะไปร่วมซ้อมกับ ชิมิสุ เอส - พัลส์ ยอดทีมในเจ-ลีก ถึงประเทศญี่ปุ่น

“เราให้ความสำคัญกับการพัฒนาผู้เล่นดาวรุ่งมาโดยตลอด หากนักเตะคนไหนมีผลงานและความสามารถเราก็พร้อมให้โอกาสดันขึ้นเล่นกับทีมชุดใหญ่ ซึ่งการที่เรามีผู้เล่นไทยอายุน้อยก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมหลายคนนั้นแสดงให้เห็นแล้วว่าเราเดินมาถูกทาง ซึ่งปีนี้แม้ผลงานจะออกมาดี แต่การจะเป็นแชมป์นั้นยังเป็นเรื่องที่ยากเพราะมีจุดบกพร่องอีกหลายอย่างที่ต้องแก้ไข ซึ่งผมเชื่อว่าในอีก 1 - 2 ปีจากนี้เราพร้อมแน่นอน” เสี่ยแมน กล่าวอย่างมั่นใจ

อีกหนึ่งปัจจัยฐานความสำเร็จของทีมยุคปัจจุบัน คือ แผงกองหลังที่แข็งแกร่ง ด้วยผลงานไร้พ่าย และเสียประตูน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ในลีกรองจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (19 ประตู) นำโดย ทศพร ศรีเรือง มือกาวร่างยักษ์วัย 24 ปี ที่ดึงตัวมาจากอาร์มี่ ยูไนเต็ด ขณะที่แผงหลังนอกจากมีคู่หู “บาส - ต้น” คอยคุมริมเส้นแล้วยังได้ ไดกิ อิวามาสะ ตัวเก๋าเลือดซามูไร วัย 32 ปี ที่ผ่านสังเวียน เจ - ลีก มากว่า 10 ฤดูกาล เข้ามาเป็นคีย์แมนสำคัญยืนเป็นเซ็นเตอร์ร่วมกับ อดิศร พรหมรักษ์ กองหลังดาวรุ่งวัย 20 ปี ที่ย้ายตามนายด่านรายนี้มา

ขณะที่เกมรุกแดนกลางที่ถือเป็นจุดเด่นของ “มังกรไฟ” ถล่มตาข่ายคู่แข่งไปแล้วถึง 40 ประตู เป็นรองเพียงเอสซีจี เมืองทองฯ (41 ประตู) เท่านั้น ถูกขับเคลื่อนด้วย 2 แข้งต่างชาติอย่าง โช ชิโมจิ สตาร์ยุ่น วัย 28 ปี ที่โชว์ฟอร์มลากเลื้อย ยิงไปแล้ว 11 ลูก และแอสซิสต์อีก 5 ครั้ง พาทีมเดินหน้าคว้าชัยต่อเนื่อง กับ กิลเบิร์ต คูมสัน แข้งกานา วัย 19 ปี ที่ทำไป 4 ลูก และแอสซิสต์ถึง 11 ครั้ง อีกทั้งยังมีทีเด็ดลูกตั้งเตะของ รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค กัปตันทีมวัย 35 ปี ที่ไว้ลายเท้าชั่งทองทำไปแล้ว 5 ตุงจากฟรีคิกล้วนๆ พร้อมเปิดสวยๆ อีก 6 ครั้ง รวมถึงกำลังเสริมอย่าง นฤพล อารมณ์สวะ, เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ หรือ ชยพัทธ์ กิจพงษ์ศรีธาดา(อนุชา กิจพงษ์ศรี)

ส่วนกองหน้าแม้จะเสีย เคลย์ตัน ซิลวา ดาวซัลโวบราซิเลียน ที่กระหน่ำให้ทีมไป 44 ประตู ใน 2 ฤดูกาลที่ค้าแข้ง แต่ก็ได้ จอร์จี เวลคัม หอกทีมชาติฮอนดูรัส วัย 29 ปี ที่มีความแข็งแกร่งทั้งบนอากาศและภาคพื้น ช่วยยิงไปแล้ว 6 ประตู เมื่อส่วนผสมกลมกล่อมทุกขุมกำลัง จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขามีลุ้นที่จะทำสถิติไร้พ่ายตลอดซีซันเหมือนที่ “กิเลนผยอง” และ “ปราสาทสายฟ้า” เคยทำไว้เมื่อปี 2012 และ 2013 ตามลำดับ และจะเป็นสถิติที่เหนือกว่าเพราะปีนี้ถูกเพิ่มจาก 18 เป็น 20 ทีม ดังนั้น ต้องจับตาดูต่อไปว่าอีก 17นัดจากนี้ “มังกรไฟ” จะสร้างปาฏิหาริย์ได้หรือไม่

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *