“ตราไก่” ฝรั่งเศส ทำได้เพียงเสมอกับ เอกวาดอร์ ซึ่งเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนแบบไร้สกอร์ แต่ก็เพียงพอที่จะกอดคอ สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเอาชนะ ฮอนดูรัส 3-0 ตีตั๋วสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึกฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล เมื่อคืนวันพุธที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา
ฟุตบอลโลก 2014 รอบแรก กลุ่ม อี
ฝรั่งเศส 0-0 เอกวาดอร์
ดิดิเยร์ เดส์ชองป์ส เทรนเนอร์ ฝรั่งเศส ปรับแดนกลาง ส่ง มอร์แกน ชไนเดอร์แลง คุมแดนกลางกับ พอล ป็อกบา และ แบลส มาตุยดี ส่วนแนวรุกดร็อป มาติเยอ วัลบูเอนา เพลย์เมกเกอร์ร่างเล็ก จัด มูสซา ซิสโซโก ประสานงาน คาริม เบนเซมา และ อังตวน กรีซมันน์ รับมือ เอกวาดอร์ นำโดย อันโตนิโอ และ เอ็นเนอร์ วาเลนเซีย ซึ่งต้องการ 3 แต้ม เพื่อเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย
เสียงนกหวีดดังขึ้น เอกวาดอร์ อาศัยเกมรับอันเหนียวแน่น ต้านทานแนวรุกคู่แข่งอยู่หมัด จนกระทั่งนาที 38 ฝรั่งเศส มีลุ้นครั้งแรก อังตวน กรีซมันน์ เปิดฟรีคิกกราบซ้าย พอล ป็อกบา โหม่งย้อนศร อเล็กซานเดอร์ โรดริเกวซ ปัดข้ามคาน ต่อมา 3 นาที ทีมของ เรนัลโด รูเอดา ได้เสียว ไมเคิล อาร์โรโย กระชากถึงสุดเส้นหลังกราบซ้าย แล้วโยนมาเสาสอง เอ็นเนอร์ วาเลนเซีย โขกกดลงพื้น ฮูโก โยริส ป้องกันไว้ได้ ครบ 45 นาที เสมอกัน 0-0
ครึ่งหลังเปิดฉากมาเพียง 2 นาที แชมป์โลก 1 สมัย น่าขึ้นนำแบบสุดๆ บาการี ซานญา เติมมาทางกราบขวา แล้วเปิดเข้ากลางมาเสาแรก อังตวน กรีซมันน์ ปรี่เข้าชาร์ต อเล็กซานเดอร์ โรดริเกวซ ปัดชนเสา เข้าสู่นาที 50 เอกวาดอร์ ต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน อันโตนิโอ วาเลนเซีย เปิดปุ่มยันหน้าแข้ง ลูคัส ดีญ แบ็กซ้ายดาวรุ่ง ซึ่งทิ้งตัวสไลด์บอล จังหวะ 50-50 ผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ออกจากสนาม
ถึงกระนั้น ตัวแทนจากทวีปอเมริกาใต้ หวิดสร้างเซอร์ไพรส์นาที 54 จากเกมโต้กลับ เอ็นเนอร์ วาเลนเซีย จ่ายออกขวาให้ คริสเตียน โนบัว ซัดไม่ตรงกรอบ ต่อมา พลพรรค “ตราไก่” กดดันต่อเนื่อง นาที 62 แบลส มาตุยดี รับบอลชิ่งจาก คาริม เบนเซมา หลุดเข้าเขตโทษ ก่อนกดด้วยซ้ายกลางประตูไม่ผ่านมือ โดมิงเกวซ นาที 73 มูสซา ซิสโซโก เปิดจากขวามาเสาสองให้ ป็อกบา โหม่งย้อนศรเฉี่ยวเสา
เอกวาดอร์ ก็เกือบจะปล่อยหมัดน็อกนาที 82 อเล็กซ์ อิบาร์รา ตัวสำรอง ลากจากขวาตัดเข้ามาในเขตโทษ แล้วตะบันด้วยซ้าย ฮูโก โยริส ปัดออกมาได้ ถัดมา 2 นาที “เลอ เบลอส์” พลาดโอกาสทอง คาริม เบนเซมา ทำชิ่งกับ โอลิวิเยร์ ชีรูด์ ก่อนแปเหน่งๆ ตรงตัว อเล็กซานเดอร์ โดมิงเกวซ จากนั้นนาที 88 โลอิค เรมี ปั่นไซด์โป้งจากเขตโทษด้านขวา โดมิงเกวซ พุ่งปัดไว้ได้ นาที 90 เรมี เปิดจากขวามาให้ ชีรูด์ โหม่งสะบัดเข้ามือ โดมิงเกวซ จบเกม เสมอกัน 0-0 ฝรั่งเศส คว้าแชมป์กลุ่ม เก็บ 7 แต้ม จาก 3 นัด เข้ารอบ 2 พบ ไนจีเรีย
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่หนึ่ง สวิตเซอร์แลนด์ ถล่ม ฮอนดูรัส 3-0 โดย เซอร์ดาน ชาคิรี ปีกจาก บาเยิร์น มิวนิก เหมาคนเดียว 3 ประตู นาที 6 , 31 และ 71 นับเป็นแฮตทริกที่ 2 ของทัวร์นาเมนต์ต่อจาก โธมัส มุลเลอร์ กองหน้าของ เยอรมนี เก็บเพิ่มเป็น 6 แต้ม จาก 3 นัด แซง เอกวาดอร์ ขึ้นอันดับ 2 ของสาย เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย พบ อาร์เจนตินา
รายชื่อ 11 ตัวจริง
ฝรั่งเศส : ฮูโก โยริส, มามาดู ซาโก, บาการี ซานญา, ลูคัส ดีญ, โลร็องต์ กอสเซียลนี, แบลส มาตุยดี, พอล ป็อกบา, มอร์แกน ชไนเดอร์แลง, คาริม เบนเซมา, อังตวน กรีซมันน์, มูสซา ซิสโซโก
เอกวาดอร์ : อเล็กซานเดอร์ โดมิงเกวซ, ฮอร์เก กัวกัว, ฟริคสัน เอราโซ, ฮวน ปาเรเดส, วอลเตอร์ อโยวี, คริสเตียน โนบัว, เจฟเฟอร์สัน มอนเตโร, ออสวัลโด มินดา, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, เอ็นเนอร์ วาเลนเซีย, ไมเคิล อาร์โรโย
ฟุตบอลโลก 2014 รอบแรก กลุ่ม อี
ฝรั่งเศส 0-0 เอกวาดอร์
ดิดิเยร์ เดส์ชองป์ส เทรนเนอร์ ฝรั่งเศส ปรับแดนกลาง ส่ง มอร์แกน ชไนเดอร์แลง คุมแดนกลางกับ พอล ป็อกบา และ แบลส มาตุยดี ส่วนแนวรุกดร็อป มาติเยอ วัลบูเอนา เพลย์เมกเกอร์ร่างเล็ก จัด มูสซา ซิสโซโก ประสานงาน คาริม เบนเซมา และ อังตวน กรีซมันน์ รับมือ เอกวาดอร์ นำโดย อันโตนิโอ และ เอ็นเนอร์ วาเลนเซีย ซึ่งต้องการ 3 แต้ม เพื่อเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย
เสียงนกหวีดดังขึ้น เอกวาดอร์ อาศัยเกมรับอันเหนียวแน่น ต้านทานแนวรุกคู่แข่งอยู่หมัด จนกระทั่งนาที 38 ฝรั่งเศส มีลุ้นครั้งแรก อังตวน กรีซมันน์ เปิดฟรีคิกกราบซ้าย พอล ป็อกบา โหม่งย้อนศร อเล็กซานเดอร์ โรดริเกวซ ปัดข้ามคาน ต่อมา 3 นาที ทีมของ เรนัลโด รูเอดา ได้เสียว ไมเคิล อาร์โรโย กระชากถึงสุดเส้นหลังกราบซ้าย แล้วโยนมาเสาสอง เอ็นเนอร์ วาเลนเซีย โขกกดลงพื้น ฮูโก โยริส ป้องกันไว้ได้ ครบ 45 นาที เสมอกัน 0-0
ครึ่งหลังเปิดฉากมาเพียง 2 นาที แชมป์โลก 1 สมัย น่าขึ้นนำแบบสุดๆ บาการี ซานญา เติมมาทางกราบขวา แล้วเปิดเข้ากลางมาเสาแรก อังตวน กรีซมันน์ ปรี่เข้าชาร์ต อเล็กซานเดอร์ โรดริเกวซ ปัดชนเสา เข้าสู่นาที 50 เอกวาดอร์ ต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน อันโตนิโอ วาเลนเซีย เปิดปุ่มยันหน้าแข้ง ลูคัส ดีญ แบ็กซ้ายดาวรุ่ง ซึ่งทิ้งตัวสไลด์บอล จังหวะ 50-50 ผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ออกจากสนาม
ถึงกระนั้น ตัวแทนจากทวีปอเมริกาใต้ หวิดสร้างเซอร์ไพรส์นาที 54 จากเกมโต้กลับ เอ็นเนอร์ วาเลนเซีย จ่ายออกขวาให้ คริสเตียน โนบัว ซัดไม่ตรงกรอบ ต่อมา พลพรรค “ตราไก่” กดดันต่อเนื่อง นาที 62 แบลส มาตุยดี รับบอลชิ่งจาก คาริม เบนเซมา หลุดเข้าเขตโทษ ก่อนกดด้วยซ้ายกลางประตูไม่ผ่านมือ โดมิงเกวซ นาที 73 มูสซา ซิสโซโก เปิดจากขวามาเสาสองให้ ป็อกบา โหม่งย้อนศรเฉี่ยวเสา
เอกวาดอร์ ก็เกือบจะปล่อยหมัดน็อกนาที 82 อเล็กซ์ อิบาร์รา ตัวสำรอง ลากจากขวาตัดเข้ามาในเขตโทษ แล้วตะบันด้วยซ้าย ฮูโก โยริส ปัดออกมาได้ ถัดมา 2 นาที “เลอ เบลอส์” พลาดโอกาสทอง คาริม เบนเซมา ทำชิ่งกับ โอลิวิเยร์ ชีรูด์ ก่อนแปเหน่งๆ ตรงตัว อเล็กซานเดอร์ โดมิงเกวซ จากนั้นนาที 88 โลอิค เรมี ปั่นไซด์โป้งจากเขตโทษด้านขวา โดมิงเกวซ พุ่งปัดไว้ได้ นาที 90 เรมี เปิดจากขวามาให้ ชีรูด์ โหม่งสะบัดเข้ามือ โดมิงเกวซ จบเกม เสมอกัน 0-0 ฝรั่งเศส คว้าแชมป์กลุ่ม เก็บ 7 แต้ม จาก 3 นัด เข้ารอบ 2 พบ ไนจีเรีย
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่หนึ่ง สวิตเซอร์แลนด์ ถล่ม ฮอนดูรัส 3-0 โดย เซอร์ดาน ชาคิรี ปีกจาก บาเยิร์น มิวนิก เหมาคนเดียว 3 ประตู นาที 6 , 31 และ 71 นับเป็นแฮตทริกที่ 2 ของทัวร์นาเมนต์ต่อจาก โธมัส มุลเลอร์ กองหน้าของ เยอรมนี เก็บเพิ่มเป็น 6 แต้ม จาก 3 นัด แซง เอกวาดอร์ ขึ้นอันดับ 2 ของสาย เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย พบ อาร์เจนตินา
รายชื่อ 11 ตัวจริง
ฝรั่งเศส : ฮูโก โยริส, มามาดู ซาโก, บาการี ซานญา, ลูคัส ดีญ, โลร็องต์ กอสเซียลนี, แบลส มาตุยดี, พอล ป็อกบา, มอร์แกน ชไนเดอร์แลง, คาริม เบนเซมา, อังตวน กรีซมันน์, มูสซา ซิสโซโก
เอกวาดอร์ : อเล็กซานเดอร์ โดมิงเกวซ, ฮอร์เก กัวกัว, ฟริคสัน เอราโซ, ฮวน ปาเรเดส, วอลเตอร์ อโยวี, คริสเตียน โนบัว, เจฟเฟอร์สัน มอนเตโร, ออสวัลโด มินดา, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, เอ็นเนอร์ วาเลนเซีย, ไมเคิล อาร์โรโย
