ขุนพล “กระทิงดุ” สเปน กลายเป็นทีมแชมป์เก่า ชาติที่ 4 ที่ต้องกระเด็นตกรอบแรก ศึกฟุตบอลโลก 2014 หลังปราชัย 2 เกมแรก ต่อ เนเธอร์แลนด์ และ ชิลี ล่าสุดเมื่อคืนวันพุธที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยบรรดาแข้งดังยอมรับเป็นเรื่องสุดเศร้า แต่สมควรต้องกลับบ้านเนื่องจากยังไม่ดีพอ
“แชมป์เก่า” ปี 2010 อยู่ร่วมสายบี กับ เนเธอร์แลนด์, ชิลี และ ออสเตรเลีย โดยเกมประเดิมสนามพ่าย “กังหันลม” แบบช็อกโลก 1-5 ก่อนที่ล่าสุด จะถูกทีมชาติชิลี ไล่อัด 2-0 เมื่อคืนวันพุธที่ 18 มิถุนายน เขี่ยตกรอบแรก เป็นที่เรียบร้อย โดยหลังผ่าน 2 เกม ยิงได้ประตูเดียว และเสียไปถึง 7 ประตู เหลือเพียงเกมสุดท้ายให้ลุ้นหนีอันดับบ๊วยของกลุ่มกับ “ซอคเกอร์รูส์” เท่านั้น
โดยการตกรอบของสเปน ทำให้พวกเขากลายเป็นชาติที่ 4 ในประวัติศาสตร์เวิลด์ คัพ ในฐานะแชมป์เก่าที่ต้องตกรอบแรกต่อจากทีมชาติอิตาลีในปี 1950 และ 2010, บราซิล ในปี 1966 และ ฝรั่งเศส ในปี 2002 ซึ่งบรรดาดาวดังของทีมต่างยอมรับสภาพ แต่ก็ชี้ว่าทีมชุดนี้ของพวกเขายังไม่ดีพอที่จะได้ไปต่อ
“สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้เสมอในวงการกีฬา มันเป็นเรื่องไม่คาดคิด แต่เราต้องรับมือกับมันให้ได้ เราไม่สามารถรักษาฟอร์มการเล่น รวมถึงความหิวกระหายในการไล่ล่าความสำเร็จ เรามุ่งมั่นแต่ก็เกิดข้อผิดพลาดมากมาย จิตใจเราเหมือนไม่พร้อมสำหรับการแข่งขัน และสภาพร่างกายก็เหมือนจะปัญหาเล็กน้อย” อลอนโซ กล่าว
ด้าน อีเคร์ คาซึยาส กัปตันทีมที่เสียถึง 7 ประตู และถูกวิจารณ์อย่างหนักในทัวร์นาเมนต์นี้ เผยว่า “เราไม่ได้มุ่งมั่นอย่างที่ควรจะเป็น และก็ไม่สมควรจะเข้ารอบต่อไป เราต้องยอมรับทีมที่ทำได้ดีกว่า ผมก็ไม่ได้เล่นดี ตอนนี้เราต้องการจะจบด้วยผลงานที่ดีสุดเท่าที่จะทำได้”
ขณะที่ เซร์จิโอ รามอส ยอมรับว่า “เห็นได้ชัดมันคือสิ่งที่เราไม่คาดคิดมาก่อน แต่ก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้และยินดีกับ ชิลี และ เนเธอร์แลนด์ ที่ทำได้ดีกว่า ผมคิดว่าทีมของเราเคยประสบความสำเร็จแบบที่อาจไม่มีใครทำได้ และเราไม่ควรลืมมัน ผู้เล่นยังเป็นชุดเดิม เพียงแต่เราคงโชคไม่ดีเท่านั้น”
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *