“เสือ-ชุดขาว” แลกหมัด เบิกทาง “ทริปเปิลแชมป์”

เอเยนซี - ศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบตัดเชือก นัดสอง คู่แรกชี้ชะตาว่าใครจะได้ตั๋วเข้าไปยืนรอชิงดำที่สนาม เอสตาดิโอ ดา ลุซ กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส โดย บาเยิร์น มิวนิก แชมป์เก่าจากเยอรมนี จะเปิด อัลลิอันซ์ อารีนา รับมือ รีล มาดริด เจ้ายุโรปสูงสุด 9 จากสเปน วันอังคารที่ 29 เมษายนนี้ เจ้าถิ่นแม้ยกแรกจะเพลี่ยงพล้ำมาก่อน 0-1 ทว่าเตรียมใช้ความได้เปรียบเล่นในบ้าน ซึ่งตามสถิติของทั้งคู่ที่เจอกันนั้น “เสือใต้” ไม่เคยปราชัยในรัง แถมใครแพ้ฝัน “ทริปเปิลแชมป์” ปีนี้ก็จะสลายไปด้วย

นัดแรกที่ ซานติอาโก เบร์นาบิว รีล มาดริด เฉือน 1-0 จากประตูชัยของ คาริม เบนเซมา ท่ามกลางเกมที่แลกหมัดกันกลางสังเวียนผืนหญ้า ทำให้เกมนี้ บาเยิร์น อยู่ภายใต้ข้อแม้ต้องชนะสถานเดียว โดยรอบก่อนหน้านี้ “เสือใต้” แชมป์ บุนเดสลีกา เยอรมนี ก็ใช้ความได้เปรียบเล่นในรังนัดสองแซงชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-1 หลังถูกเบิกร่องไปก่อนรวม 2 นัดชนะ 4-2 ที่ผ่านมา 10 นัดเจอกับ “ราชันชุดขาว” ถ้วยยุโรปในรังไม่เคยแพ้ แถมชนะถึง 9 นัด

ก่อนเกม เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือ บาเยิร์น ที่เคยคุม บาร์เซโลนา กวาดทุกแชมป์ระหว่างปี 2008-2012 โดยเฉพาะถ้วย แชมเปียนส์ ลีก 2 สมัยฤดูกาล 2008-09 และ 2010-11 ซึ่งน่าจะรู้ทาง รีล มาดริด เป็นอย่างดี ออกมากระตุ้นลูกทีมให้มีสมาธิ เพราะหลังคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 24 เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา 9 นัดก็มีสะดุดเสมอ 2 และแพ้ 2 นัด

“เกมลีกนัดล่าสุดที่เปิดบ้านชนะ แวร์เดอร์ เบรเมน 5-2 เมื่อวันเสาร์ที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกที่ผมผิดหวัง โดยเฉพาะครึ่งแรกที่ตามหลัง 1-2 แม้เราจะได้แชมป์ลีกไปแล้วก็ตาม เพราะแฟนบอลไม่ควรต้องเผชิญเรื่องแบบนี้ ก่อนที่จะทำได้ดีในอีก 45 นาทีที่เหลือ ถือเป็นเรื่องดีก่อนเจอ รีล มาดริด ซึ่งจะแตกต่างกว่านี้แน่นอน ผมยังเชื่อในตัวลูกทีมหวังว่าจะรับมือทุกอย่างและพลิกสถานการณ์ผ่านเข้ารอบไปด้วยกัน” กุนซือชาวสเปน เผย

ขณะที่การตุนสกอร์มาเพียงแค่ 1-0 ทำให้ คาร์โล อันเชล็อตติ นายใหญ่ รีล มาดริด ที่เคยมีดีกรีแชมป์ยุโรป 2 สมัยกับ เอซี มิลาน ฤดูกาล 2002–03 กับ 2006–07 แถมไม่เคยแพ้สโมสรจากเยอรมนีตอนคุม “ปีศาจแดง-ดำ” กล่าวว่า “ผมเชื่อมั่นในตัวนักเตะทั้ง 11 คนว่าจะเล่นเต็มความสามารถไม่ว่าจะเจอกับใครและเป็นบิ๊กแมตช์แค่ไหน ตอนนี้เรากำลังเตรียมทีมที่พร้อมที่สุดไปเยือน บาเยิร์น มิวนิก ด้วยการมองหาประตูไม่ใช่ตั้งรับ ถือเป็นแนวทางที่ยึดถือมาอย่างต่อเนื่อง”

เกมนี้ถือเป็นการดวลกันของ 2 สโมสรแห่งยุคที่มีแนวรุกดีที่สุดในโลก เจ้าถิ่น บาเยิร์น นำโดย อาร์เยน ร็อบเบน ปีกเลือดดัตช์อดีตแข้ง รีล มาดริด, ฟรองค์ ริเบรี ตัวรุกทีมชาติฝรั่งเศส และ 3 ประสานเยอรมนี โทนี โครส, โทมัส มุลเลอร์ และ มาริโอ เกิทเซ อยู่ที่การวางหมากของ กวาร์ดิโอลา ว่าจะเลือกใครออกสตาร์ท

ด้าน รีล มาดริด เกมแรกสลับใช้งาน คริสเตียโน โรนัลโด กับ แกเร็ธ เบล 2 ตัวทะลุทะลวง เนื่องจากไม่ฟิตทั้งคู่ อย่างไรก็ตาม ศึก ลา ลีกา สเปน นัดล่าสุดที่เปิด ซานติอาโก เบร์นาบิว ถล่ม โอซาซูนา 4-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา ปีกทีมชาติโปรตุเกสเจ้าของรางวัลแข้งยอดเยี่ยม “บัลลงดอร์ 2014” หายเจ็บออกสตาร์ทเป็นตัวจริงพร้อมทะลวง 2 ประตูรวมทุกรายการปีนี้กดไปแล้ว 47 ลูก ขณะที่แข้งค่าตัวแพงที่สุดในโลกไม่มีชื่อ เพราะมีอาการไข้จึงถูกประคบประหงมไว้รอฉีกแนวรับเจ้าถิ่นที่ อัลลิอันซ์ อารีนา โดยเฉพาะ

สำหรับแมตช์นี้ยังเป็นการเดิมพันด้วยว่าใครจะหมดโอกาสคว้าทริปเปิลแชมป์ โดย บาเยิร์น ทำสำเร็จเมื่อปีที่แล้วเป็นครั้งแรกสโมสรเมืองเบียร์ภายใต้การคุมทัพของ จุ๊ปป์ ไฮย์นเกส ตอนนี้ได้ถาดแชมป์ลีกไปแล้วเหลือถ้วยยุโรป และชิง เดเอฟเบ โพคาล กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ วันที่ 17 พฤษภาคม ส่วน รีล มาดริด ชูโทรฟี โกปา เดล เรย์ เหลือใบนี้ที่ต้องตัดเชือกและก็กลับไปคั่วแชมป์ ลา ลีกา กับ แอตเลติโก มาดริด รวมถึง บาร์เซโลนา

ถือเป็นเกมที่มีควาหมายกับทั้งคู่ เพราะ บาเยิร์น ต้องการพิสูจน์ว่าคือเบอร์ 1 สโมสรยุโรปยุคนี้ต่อจาก บาร์เซโลนา ด้วยการเป็นทีมแรกที่ป้องกันแชมป์ภายใต้ชื่อ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก หลังจากเข้าชิงมาแล้ว 3 จาก 4 ปีหลังสุดได้แชมป์มา 1 ครั้ง ด้าน รีล มาดริด อยากได้ถ้วยยุโรปสมัยที่ 10 หรือ “la decima” หลังหนสุดท้ายทำได้คือปี 2002 ซึ่ง 3 ปีหลังสุดจอดป้ายที่สถานีนี้มาโดยตลอด

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *