ASTV ผู้จัดการรายวัน - “แวฮามะ” เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม ประกาศแขวนนวมเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังแพ้น็อกไฟต์สุดท้ายของชีวิต ไม่สามารถคว้าเข็มขัดแชมป์โลกรุ่น ซูเปอร์ฟลายเวต (115 ปอนด์) มาคาดเอว พร้อมกลับจากประเทศญี่ปุ่นอย่างชอกช้ำ ซึ่งแน่นอนว่ายุคสมัยที่เปลี่ยนไป ทำให้แฟนหมัดมวยและพี่น้องร่วมวงการเป็นห่วงถึงอนาคตนับจากนี้ว่าจะหันเหไปในทิศทางใด เงินทองทรัพย์สมบัติที่สะสมมามีเหลือมากน้อยแค่ไหนรวมถึงครอบครัวที่ต้องเลี้ยงดูอีกหลายชีวิต
เด่นเก้าแสน หรือชื่อจริงว่า สุเทพ หวังมุก เคยมีดีกรีเป็นถึงแชมป์โลกอำลาผืนผ้าใบด้วยวัย 38 ปี หลังโดนหมัดขวาของ โคเฮอิ โคโนะ คู่ต่อกรชาวญี่ปุ่น จิ้มเข้าที่ปลายคางจนร่วงลงไปกองพ่ายน็อกยก 8 แบบหมดสภาพ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าเสียดายไม่น้อยกับโอกาสครั้งสุดท้ายที่หลุดลอยไป
“ผมเสียดายมากเลยครับ เพราะหวังไว้อยากที่จะได้แชมป์โลกอีกครั้งหนึ่ง จึงฟิตซ้อมอย่างหนักมากว่า 2 เดือน ซึ่งถ้าถามว่าเราแก่ไหมก็ยอมรับว่าแก่ แต่ยังสามารถเก็บตัวจนได้ขึ้นชิงแชมป์โลกได้ก็ถือว่าโอเคแล้ว ที่สำคัญตอนชกก็สู้ได้ แต่ไปพลาดโดนแค่จังหวะเดียวและเข้าเป้าจึงวูบไปเลย แม้จะพยายามกัดฟันสู้ต่อได้แต่กรรมการก็ยุติการชกไปแล้ว อันที่จริงก่อนขึ้นชกผมยังคิดว่าถ้าชนะก็คงยังไม่เลิก อยากจะป้องกันแชมป์ไปเรื่อยๆ แต่พอแพ้ก็ต้องยอมรับสภาพ ปล่อยให้น้องๆ รุ่นใหม่ขึ้นมาแทนดีกว่า” เจ้ามะ เผย
เด่นเก้าแสน กล่าวย้อนความถึงประสบการณ์ล้ำค่าที่เก็บเกี่ยวมาได้ว่า “ผมอยู่วงการมวยมา 20 กว่าปี ก็ถือว่าใช้ชีวิตคุ้มค่าแล้ว มีเรื่องดีใจมากมายอย่างเช่นตอนไปเอาชนะน็อก ทาเคฟูมิ ซากาตะ ยก 2 คว้าแชมป์ WBA ได้เป็นครั้งแรกถึงประเทศญี่ปุ่น รวมถึงการป้องกันแชมป์อีก 2 ครั้ง ส่วนที่เสียดายก็ไฟต์ล่าสุดที่ตั้งความหวังไว้มาก รวมถึงตอนที่แพ้คะแนน ไดกิ คาเมดะ (ญี่ปุ่น) ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยเช่นกัน”
อย่างไรก็ตาม “เจ้ามะ” ยอมรับว่าตนเคยประสบปัญหาเรื่องการเงินจริง แม้จะมีค่าตัวในการขึ้นชกตอนคว้าแชมป์โลกไฟต์ละ 2.5 ล้านบาทก็ตาม “ผมยอมรับว่าเคยมีปัญหาเรื่องเงินจริงตอนที่คบกับแฟนคนก่อนช่วงหลังจากที่คว้าแชมป์โลกครั้งแรกมาได้เมื่อปี พ.ศ. 2551 ตอนนั้นผมเหมือนถูกรางวัลที่ 1 จากเดิมที่เราไม่มีอะไรเลย ใช้เวลาสร้างตัวแค่ไม่กี่ปีก็มีครบทุกอย่างทั้งบ้าน รถ ห้องเช่า และแท็กซี่อีก 2 คันไว้ปล่อยเช่า แต่แฟนเก่าผมเป็นคนติดเพื่อน เวลาที่ผมต้องเข้าแคมป์เก็บตัวเขาที่อยู่ว่างๆ ไม่ได้ทำงานก็ใช้เงินที่ผมหามาได้จนหมด ไปเที่ยวกับเพื่อนเป็นประจำ จนถึงขนาดเอารถเอาบ้านไปจำนอง ก่อนจะตัดสินใจเลิกกัน ซึ่งตอนนั้นผมท้อมาก มีเงินติดตัวมาเช่าห้องพักที่ศาลายา แค่ 5 พันบาท แต่ยังดีที่ได้ แชแม้ (นายนิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ เจ้าของค่ายมวยแกแล็คซี่) คอยช่วยเหลือมาตลอด ที่สำคัญมาได้ น้องฟ้า ภรรยาคนใหม่ของผมซึ่งเป็นคนที่ดีมาก ช่วยกันสร้างเนื้อสร้างตัวมาถึงตอนนี้”
พร้อมกันนี้ กำปั้นมุสลิม ยังยืนยันว่าชีวิตตนเองสุขสบายดีจากการวางแผนที่ดีจึงไม่มีปัญหาแต่อย่างใด “หลังจากผ่านช่วงวิกฤตไปได้ตอนนี้ผมสบายดีแล้วครับ ผมเป็นคนง่ายๆ อยู่แล้ว เราเคยจนมาก่อนแล้วจึงมามีเงินมีทอง ตอนนี้ก็เหมือนกลับไปจนกันอีกครั้ง ค่อยๆ สร้างตัวไป ผมเห็นนักมวยรุ่นก่อนๆ ที่พอเลิกชกแล้วมีปัญหาเรื่องเงินก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น เลยนำมาคิดแล้วเก็บเป็นบทเรียน”
“หลังเลิกชกผมได้เงินก้อนสุดท้ายมา 6 แสนบาท รวมกับเงินที่เก็บสะสมไว้พอประมาณ ก็ต้องมาคิดต่อว่าจะใช้เงินก้อนนี้ทำประโยชน์อะไรให้ได้มากที่สุด จึงมาลงเอยที่การขายเสื้อผ้ากีฬา โดยไปรับมาจากตลาดโบ๊เบ๊หรือตลาดโรงเกลือมาขายต่อตามตลาดนัดทั่วๆ ไป บางวันขายดีได้กำไรเกือบ 2 พันบาท ทำให้เราพออยู่ได้ ไม่ขัดสนอะไร ยิ่งเราเป็นคนพอเพียงอยู่แล้วด้วย จากนี้ก็เตรียมที่จะหาทำเลเปิดร้านให้เป็นหลักแหล่ง” เด่นเก้าแสน เผย
ถึงแม้จะมีธุรกิจส่วนตัวของแต่ “แวฮามะ” ก็ยังไม่ทิ้งวงการหมัดมวย โดยอาสาเป็นผู้ช่วยเทรนเนอร์ให้กับค่ายแกแล็คซี่ พร้อมส่งลูกชายคนโต (18 ปี) และคนรอง (17 ปี) เข้าสังกัดกับทางค่าย “ผมมีลูกทั้งหมด 6 คนจากภรรยา 4 คน ลูกคนเล็กสุดอายุ 9 เดือน ตอนนี้ลูกย้ายมาอยู่กับผม 4 คน ส่วนอีก 2 คนอยู่กับภรรยาเก่า ซึ่งสองคนแรกได้เข้ามาฝึกซ้อมมวยไทยเพื่อสร้างกระดูกกับทางค่ายแล้ว ส่วนตัวผมเองกำลังเรียนรู้การเป็นเทรนเนอร์คอยดูแลน้องๆ ในค่ายโดยมีอาจารย์ อนันต์ ตัวลือ ที่เป็นเทรนเนอร์ของผมคอยสอนเรื่องการล่อเป้าและการฝึกเด็กให้ ซึ่งเราเองมีประสบการณ์อยู่แล้วจึงไม่ใช่เรื่องยาก เรียนรู้ไม่เกิน 2 เดือนก็ลงตัว”
ก่อนจบบทสนทนาอดีตกำปั้นจากจังหวัดสงขลา ทิ้งท้ายถึงเลือดใหม่ที่มีหน่วยก้านเข้าตาจะขึ้นมาแทนตนเองว่า “รุ่น 115 ปอนด์ มีนักมวยเก่งๆ อยู่หลายคน แต่ผมมองว่า ฉัตรเพชร ศิษย์หมอเส็ง น่าจะขึ้นมาเป็นทายาทได้อย่างแน่นอน เพราะเขาฝีมือดีและยังเป็นคู่ซ้อมให้กับผมมาตลอดจนถึงก่อนขึ้นชกไฟต์สุดท้ายที่ผ่านมาด้วย”
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *