อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือมากประสบการณ์ชาวฝรั่งเศส กำลังจะฉลองกุมบังเหียนครบ 1,000 นัด กับ เชลซี ในวันเสาร์ที่ 22 มีนาคมนี้ ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นเกมตัดสินโอกาสลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ขณะเดียวกัน “เดลี เมล” สื่อยักษ์ใหญ่ของประเทศอังกฤษ ออกมาแฉการเซ็นสัญญาอันน่าผิดหวังของ บิ๊กบอสวัย 64 ปี ตลอดระยะเวลากว่า 17 ปี ณ ถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดียม
1. ริชาร์ด ไรท์ (ผู้รักษาประตู : 6 ล้านปอนด์ จาก อิปสวิช ทาวน์ ปี 2001)
ย้ายจาก อิปสวิช ทาวน์ ด้วยความคาดหวังว่าจะเป็นทายาท เดวิด ซีแมน อดีตนายทวารทีมชาติอังกฤษ ระยะยาว ทว่ากลับเฝ้าเสาเพียง 22 เกม ก่อนถูกโละให้ เอฟเวอร์ตัน จุดต่ำสุดของอาชีพ เกิดขึ้นในเกมพ่าย ชาร์ลตัน แอธเลติก 2-4 ซึ่งเขาชกบอลเข้าประตูตัวเอง จนหล่นเป็นตัวเลือกรองจาก สจวร์ต เทย์เลอร์
2. เซบาสเตียน สกิลลาชี (กองหลัง : 4 ล้านปอนด์ จาก เซบีญา ปี 2010)
พกดีกรี เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ดีกรีทีมชาติฝรั่งเศส ย้ายมาสู่ถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดียม ก่อนอำลาไปอีก 3 ปีต่อมา ในฐานะตัวตลกคนหนึ่ง ลงสนามแค่ 23 เกม ก่อนระหกระเหินไปค้าแข้งกับ บาสเตีย สโมสรในบ้านเกิด แบบฟรีเอเยนต์
3. อังเดร ซานโตส (กองหลัง : 6 ล้านปอนด์ จาก เฟเน์บาห์เช ปี 2011)
ฟูลแบ็กบราซิเลียน เซ็นสัญญามาร่วมทัพช่วงเส้นตายซื้อ-ขายนักเตะ เดือนสิงหาคม แต่มักกลายเป็นบ่อน้ำมันในเกมรับทางกราบซ้าย แถมยังสร้างความชอกช้ำแก่เหล่าสาวก “เดอะ กันเนอร์ส” โดยแลกเสื้อกับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี นัดบุกพ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2012 ระหว่างพักครึ่ง
4. อิกอร์ สเตปานอฟส์ (กองหลัง : 1.5 ล้านปอนด์ จาก สกอนโต ริกา ปี 2000)
ถือเป็นกองหลังแย่สุดที่สวมยูนิฟอร์ม “ปืนใหญ่” หลังจากเซ็นสัญญาเมื่อปี 2000 ก่อนย้ายออกไปอีก 4 ปีต่อมา ลงสนามเพียง 17 เกม (เฉพาะ พรีเมียร์ ลีก) ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่การลงคุมแนวรับ ยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอน เมื่อปี 2001 โดน แมนฯ ยูไนเต็ด ถลุงยับ 6-2 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด
5 .มิคาเอล ซิลแวสต์ (กองหลัง : 7.5 แสนปอนด์ จาก แมนฯ ยูไนเต็ด ปี 2008)
ไม่สามารถเค้นฟอร์มชนะใจแฟนๆ หลังกลายเป็นส่วนเกินในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ยิงประตูตัวเอง ฉลองการประเดิมสนามใน ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก และเป็นจุดอ่อนในเกมเสมอ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 4-4 ซึ่ง “ปินใหญ่” เสีย 2 ประตูช่วงท้ายเกม ก่อนถูกโละทิ้งอีก 2 ปี
6. อังเดรย์ อาร์ชาวิน (กองหน้า : 12 ล้านปอนด์ จาก เซนิตฯ ปี 2009)
แจ้งเกิดบนสังเวียน พรีเมียร์ ลีก เต็มตัว เหมาคนเดียว 4 ประตู ในเกมเสมอกับ ลิเวอร์พูล 4-4 ณ สนามแอนฟิลด์ ทว่านับจากวันนั้นก็แทบหาฟอร์มเก่งไม่เจอตลอดระยะเวลา 3 ปี แถมยังโดนแฟนๆ ของตัวเองโห่เอาเสียอีก
7. โฆเซ เรเยส (กองกลาง : 17 ล้านปอนด์ จาก เซบีญา ปี 2004)
สร้างชื่อจากการยิงประตูสุดสวย ในเกม เอฟเอ คัพ กับ เชลซี ทะลวงตาข่าย 16 ตุง จาก 69 นัด ทว่ากลับมีรายงานว่า เจ้าตัวแอบเจรจากับ เอมิเลียโน บูตราเกโญ ผู้อำนวยการฟุตบอลของ รีล มาดริด พร้อมจากรัง เอมิเรตส์ สเตเดียม เนื่องจากเป็นโรคคิดถึงบ้าน
8. จุนอิชิ อินาโมโตะ (กองกลาง : 3.5 ล้านปอนด์ จาก กัมบะ โอซากา ปี 2001)
ถูกโจมตีเป็นเพียงการเซ็นสัญญาเพื่อเน้นยอดขายเสื้อบนดินแดนตะวันออกไกล ตลอดระยะเวลา 12 ปี ระหว่างปักหลักค้าแข้งทางตอนเหนือของกรุงลอนดอน อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติญี่ปุ่น สตาร์ทตัวจริงเพียง 2 เกม ก่อนย้ายไป ฟูแลม, เวสต์บรอมวิช อัลเบียน และ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี
9. แชร์วินโญ (กองหน้า : 11 ล้านปอนด์ จาก ลีลล์ ปี 2011)
เกิดเป็นเครื่องหมายคำถามสำหรับสาวก “เดอะ กันเนอร์ส” เพราะเหตุใดจึงทุ่มเงิน 11 ล้านปอนด์ แลก หัวหอกทีมชาติ ไอเวอรี โคสต์ ที่โชว์ฟอร์มไม่คงเส้นคงวา และไม่เคยทำตามอย่างที่ เวนเกอร์ คาดหวัง ก่อนถูกขายให้ โรมา 8 ล้านปอนด์ (400 ล้านบาท) ซัมเมอร์ที่แล้ว
10 ฟรานซิส เจฟเฟอร์ส (8 ล้านปอนด์ จาก เอฟเวอร์ตัน ปี 2001)
ถูกจับตามองเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งวงการลูกหนังเมืองผู้ดี สมัยอยู่กับ เอฟเวอร์ตัน แต่ผลงานน่าผิดหวัง ทะลวงตาข่ายแค่ 4 ประตู แถทโดนการบาดเจ็บเล่นงาน จนถูก เดนนิส เบิร์กแคมป์ กับ เธียร์รี อองรี บดบังรัศมี
11. ปาร์ก ชู ยอง (4 ล้านปอนด์ จาก โมนาโก ปี 2011)
นับเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจความคิด เวนเกอร์ กรณีคว้า หัวหอกดีกรีทีมชาติเกาหลีใต้ มาเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง หลังพบฝันร้ายโดน ยูไนเต็ด ถล่มยับ 2-8 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ปาร์ก ลงสนามเพียง 1 เกม แถมยังเป็นการเปลี่ยนตัวนาที 82 กับ “เรด เดวิลส์” เดือนมกราคม 2012
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
1. ริชาร์ด ไรท์ (ผู้รักษาประตู : 6 ล้านปอนด์ จาก อิปสวิช ทาวน์ ปี 2001)
ย้ายจาก อิปสวิช ทาวน์ ด้วยความคาดหวังว่าจะเป็นทายาท เดวิด ซีแมน อดีตนายทวารทีมชาติอังกฤษ ระยะยาว ทว่ากลับเฝ้าเสาเพียง 22 เกม ก่อนถูกโละให้ เอฟเวอร์ตัน จุดต่ำสุดของอาชีพ เกิดขึ้นในเกมพ่าย ชาร์ลตัน แอธเลติก 2-4 ซึ่งเขาชกบอลเข้าประตูตัวเอง จนหล่นเป็นตัวเลือกรองจาก สจวร์ต เทย์เลอร์
2. เซบาสเตียน สกิลลาชี (กองหลัง : 4 ล้านปอนด์ จาก เซบีญา ปี 2010)
พกดีกรี เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ดีกรีทีมชาติฝรั่งเศส ย้ายมาสู่ถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดียม ก่อนอำลาไปอีก 3 ปีต่อมา ในฐานะตัวตลกคนหนึ่ง ลงสนามแค่ 23 เกม ก่อนระหกระเหินไปค้าแข้งกับ บาสเตีย สโมสรในบ้านเกิด แบบฟรีเอเยนต์
3. อังเดร ซานโตส (กองหลัง : 6 ล้านปอนด์ จาก เฟเน์บาห์เช ปี 2011)
ฟูลแบ็กบราซิเลียน เซ็นสัญญามาร่วมทัพช่วงเส้นตายซื้อ-ขายนักเตะ เดือนสิงหาคม แต่มักกลายเป็นบ่อน้ำมันในเกมรับทางกราบซ้าย แถมยังสร้างความชอกช้ำแก่เหล่าสาวก “เดอะ กันเนอร์ส” โดยแลกเสื้อกับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี นัดบุกพ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2012 ระหว่างพักครึ่ง
4. อิกอร์ สเตปานอฟส์ (กองหลัง : 1.5 ล้านปอนด์ จาก สกอนโต ริกา ปี 2000)
ถือเป็นกองหลังแย่สุดที่สวมยูนิฟอร์ม “ปืนใหญ่” หลังจากเซ็นสัญญาเมื่อปี 2000 ก่อนย้ายออกไปอีก 4 ปีต่อมา ลงสนามเพียง 17 เกม (เฉพาะ พรีเมียร์ ลีก) ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่การลงคุมแนวรับ ยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอน เมื่อปี 2001 โดน แมนฯ ยูไนเต็ด ถลุงยับ 6-2 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด
5 .มิคาเอล ซิลแวสต์ (กองหลัง : 7.5 แสนปอนด์ จาก แมนฯ ยูไนเต็ด ปี 2008)
ไม่สามารถเค้นฟอร์มชนะใจแฟนๆ หลังกลายเป็นส่วนเกินในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ยิงประตูตัวเอง ฉลองการประเดิมสนามใน ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก และเป็นจุดอ่อนในเกมเสมอ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 4-4 ซึ่ง “ปินใหญ่” เสีย 2 ประตูช่วงท้ายเกม ก่อนถูกโละทิ้งอีก 2 ปี
6. อังเดรย์ อาร์ชาวิน (กองหน้า : 12 ล้านปอนด์ จาก เซนิตฯ ปี 2009)
แจ้งเกิดบนสังเวียน พรีเมียร์ ลีก เต็มตัว เหมาคนเดียว 4 ประตู ในเกมเสมอกับ ลิเวอร์พูล 4-4 ณ สนามแอนฟิลด์ ทว่านับจากวันนั้นก็แทบหาฟอร์มเก่งไม่เจอตลอดระยะเวลา 3 ปี แถมยังโดนแฟนๆ ของตัวเองโห่เอาเสียอีก
7. โฆเซ เรเยส (กองกลาง : 17 ล้านปอนด์ จาก เซบีญา ปี 2004)
สร้างชื่อจากการยิงประตูสุดสวย ในเกม เอฟเอ คัพ กับ เชลซี ทะลวงตาข่าย 16 ตุง จาก 69 นัด ทว่ากลับมีรายงานว่า เจ้าตัวแอบเจรจากับ เอมิเลียโน บูตราเกโญ ผู้อำนวยการฟุตบอลของ รีล มาดริด พร้อมจากรัง เอมิเรตส์ สเตเดียม เนื่องจากเป็นโรคคิดถึงบ้าน
8. จุนอิชิ อินาโมโตะ (กองกลาง : 3.5 ล้านปอนด์ จาก กัมบะ โอซากา ปี 2001)
ถูกโจมตีเป็นเพียงการเซ็นสัญญาเพื่อเน้นยอดขายเสื้อบนดินแดนตะวันออกไกล ตลอดระยะเวลา 12 ปี ระหว่างปักหลักค้าแข้งทางตอนเหนือของกรุงลอนดอน อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติญี่ปุ่น สตาร์ทตัวจริงเพียง 2 เกม ก่อนย้ายไป ฟูแลม, เวสต์บรอมวิช อัลเบียน และ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี
9. แชร์วินโญ (กองหน้า : 11 ล้านปอนด์ จาก ลีลล์ ปี 2011)
เกิดเป็นเครื่องหมายคำถามสำหรับสาวก “เดอะ กันเนอร์ส” เพราะเหตุใดจึงทุ่มเงิน 11 ล้านปอนด์ แลก หัวหอกทีมชาติ ไอเวอรี โคสต์ ที่โชว์ฟอร์มไม่คงเส้นคงวา และไม่เคยทำตามอย่างที่ เวนเกอร์ คาดหวัง ก่อนถูกขายให้ โรมา 8 ล้านปอนด์ (400 ล้านบาท) ซัมเมอร์ที่แล้ว
10 ฟรานซิส เจฟเฟอร์ส (8 ล้านปอนด์ จาก เอฟเวอร์ตัน ปี 2001)
ถูกจับตามองเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งวงการลูกหนังเมืองผู้ดี สมัยอยู่กับ เอฟเวอร์ตัน แต่ผลงานน่าผิดหวัง ทะลวงตาข่ายแค่ 4 ประตู แถทโดนการบาดเจ็บเล่นงาน จนถูก เดนนิส เบิร์กแคมป์ กับ เธียร์รี อองรี บดบังรัศมี
11. ปาร์ก ชู ยอง (4 ล้านปอนด์ จาก โมนาโก ปี 2011)
นับเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจความคิด เวนเกอร์ กรณีคว้า หัวหอกดีกรีทีมชาติเกาหลีใต้ มาเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง หลังพบฝันร้ายโดน ยูไนเต็ด ถล่มยับ 2-8 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ปาร์ก ลงสนามเพียง 1 เกม แถมยังเป็นการเปลี่ยนตัวนาที 82 กับ “เรด เดวิลส์” เดือนมกราคม 2012
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
