เอเยนซี - วงการมอเตอร์สปอร์ตฤดูกาล 2014 ทยอยเปิดฉากกันแล้ว เริ่มจาก ฟอร์มูลา วัน เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยระหว่างวันที่ 21-23 มี.ค.นี้ เป็นคิวของการประลองความเร็วรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก ซึ่งความน่าสนใจอยู่ที่รุ่นใหญ่ โมโตจีพี ที่ประเทศกาตาร์ ที่มีนักซิ่งหน้าใหม่ไต่ระดับขึ้นมาจาก โมโตทู แต่ละรายล้วนมีลีลาและชั้นเชิงไม่เบา มีสิทธิ์ที่จะเขย่าวงการเช่นเดียวกับ มาร์ค มาร์เกวซ รุคกีชาวสแปนิช ที่คว้าแชมป์โลกไปเมื่อปีก่อน จนบรรดารุ่นเก๋าเริ่มหนวๆ ร้อนๆ กันบ้างแล้ว
ศึก โมโตจีพี สนามแรกของฤดูกาล 2014 จะเริ่มขึ้นที่สนาม โลเซล เซอร์กิต ประเทศกาตาร์ สุดสัปดาห์นี้รูปแบบของ “ไนท์ เรซ” ซึ่งแชมป์เก่าที่เคยสร้างเซอร์ไพรซ์เป็นรุคกีจาก โมโตทู คนแรกที่คว้าแชมป์โลกนักบิดได้เมื่อปีก่อนอย่าง มาร์ค มาร์เกวซ จากค่าย เรปโซล ฮอนด้า ตอบรับลงลุ้นแชมป์สนามแรกเป็นที่แน่นอนแล้ว แม้สภาพร่างกายยังไม่ฟิตเต็มร้อย เพราะบาดเจ็บขาหักขณะฟิตร่างกายที่บ้านเกิดช่วงปรีซีซันก็ตาม
ด้านตัวเก๋าทั้งหลายที่เคยโดนน้องใหม่ถอนหงอก แย่งแชมป์โลกวงการสองล้อรุ่น 1,000 ซีซี ไปครองอย่าง ดานิ เปโดรซา รุ่นพี่ทีมเดียวกันหรือแม้แต่สองนักบิดคู่หูจากค่าย ยามาฮ่า ทั้ง ฆอร์เก ลอเรนโซ อดีตแชมป์โลก 2 สมัยจากสเปน และ วาเลนติโน รอสซี แชมป์โลก 9 สมัยชาวอิตาเลี่ยน ก็พร้อมกลับมาทวงแชมป์โลกเช่นกัน โดยเฉพาะ “เดอะ ด็อกเตอร์” ที่หมายมั่นปั้นมือเป็นพิเศษเพื่อฝากผลงานทิ้งทวน หลังมีโอกาสสูงที่จะรีไทร์ตัวเองหลังจบซีซันนี้
นอกจากนี้ อีกหนึ่งความน่าสนใจของการช่วงชิงราชันนักบิดของปี 2014 หนีไม่พ้นเหล่ารุคกีหน้าใหม่จากโมโตทู ซึ่งปีนี้ทยอยตบเท้าขึ้นมาบิดรุ่นใหญ่ถึง 2 คน คือ โพล เอสปาร์กาโร แชมป์ปีที่แล้วชาวสเปน ซึ่งโยกย้ายมาบิดให้ มอนสเตอร์ ยามาฮ่า เทค 3 เช่นเดียวกับ สกอตต์ เรดดิง รองแชมป์ ผู้ซึ่งเป็นความหวังใหม่ของวงการสองล้อชาวอังกฤษ ขยับขยายมาอยู่กับ เกรซินี ทีมใหญ่จากอิตาลี และเป็นนักบิดคนเดียวของทีมปีนี้ด้วย
การเข้ามาของ เอสปาร์กาโร กับ เรดดิง สร้างความคึกคักได้ไม่น้อย โดยเฉพาะการเทสต์รถช่วงปรีซีซัน 4 รอบที่ มาเลเซีย, ออสเตรเลีย และ กาตาร์ ทั้งคู่ผลัดกันทำเวลาต่อรอบได้อย่างน่าประทับใจเพราะแม้ว่าจะเป็นมือใหม่หัดขับในรุ่นใหญ่ แต่ก็วนเวียนกันอยู่ในท็อป 10 เบียดเวลาสู้กับกลุ่มหัวแถว เป็นอย่างดี และหากปรับตัวเข้ากับรถใหม่ที่ใหญ่และแรงกว่าเดิมได้เร็วก็เชื่อว่ามีโอกาสสร้างเซอร์ไพรส์สำหรับการลุ้นแชมป์โลก เหมือนกับที่ มาร์เกวซ เคยทำได้เมื่อปีที่แล้ว
ขณะที่อีกหนึ่งม้ามืดที่ไม่ควรมองข้าม คือ คัล ครัทช์โลว์ นักซิ่งวัย 29 ปีชาวอังกฤษ ที่โชว์ฟอร์มกระหึ่มตลอด 18 สนาม ภายใต้ชุดสูทของ มอนสเตอร์ ยามาฮ่า เทค 3 จนยึดอันดับ 5 บนตารางแบบเกินคาดด้วย 4 โพเดียมและ 2 รองแชมป์ที่ ฝรั่งเศส กับ เยอรมนี แม้ปีนี้ ครัทช์โลว์ ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหม่ด้วยการย้ายมาบิดให้ ดูคาติ ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็น “นรก” ของซูเปอร์สตาร์ เพราะแทบไม่มีใครย้ายมาประสบความสำเร็จกับทีมบิดสัญชาติอิตาลีมาก่อน แต่ด้วยสัญชาตญาณนักซิ่งที่อัดแน่นอยู่ภายในไม่แพ้คนอื่นๆ น่าสนใจยิ่งว่าเจ้าตัวจะงัดศักยภาพทำลายกำแพงข้อจำกัดของรถ เดสโมซิดีซี แล้วจารึกชื่อบนโทรฟีแชมป์โลกเหมือนที่ เคซีย์ สโตเนอร์ อดีตนักซิ่งชาวออสซี เคยทำได้เมื่อปี 2007 หรือไม่ เพราะผลงานรอบเทสต์ 3 วันสุดท้ายที่ โลเซล ครัทช์โลว์ ก็เข็นรถเจ้าปัญหาคันนี้เกาะท็อป 5 แบบไม่หลุดเช่นกัน
เรียกได้ว่ายังไม่ทันบิดคันเร่งก็ทำให้คอความเร็วได้ตื่นเต้นกันพอสมควร เพราะการก้าวเข้ามาของ เอสปาร์กาโร, เรดดิง รวมถึงแชมป์เก่าวัยละอ่อนอย่าง มาร์เกวซ ย่อมสร้างความกดดันให้กับบรรดารุ่นพี่ตัวเต็งไม่น้อย โดยเฉพาะ ลอเรนโซ ที่ไม่ได้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ เพราะบาดเจ็บที่หัวไหล่ ขณะที่ รอสซี การแยกทางกับ เจเรมี เบอร์เกส พี่เลี้ยงคู่ใจที่ร่ายมนต์เสกให้เจ้าตัวเป็นแชมป์โลกถึง 8 สมัยในช่วงท้ายปลายทางของอาชีพ แล้วไปร่วมงานกับทีมช่างโรงงานซึ่งไม่คุ้นหน้าคุ้นตาถือเป็นความเสี่ยงที่เจ้าตัวต้องแบกรับ สุดท้ายก็ต้องรอดูกันว่าตลอด 18 สนามชัยชนะจะตกเป็นของใครระหว่าง รุคกีหน้าใหม่ กับ ตัวเก๋าที่เหลือเวลาซิ่งอีกไม่กี่ปีต่อจากนี้
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *