“โปรภูมิ” ดาวดวงใหม่ ไต่ฝันสู่ “เอเชียน ทัวร์”

ASTV ผู้จัดการรายวัน - ชื่อของก้านเหล็กอย่าง ภูมิ ศักดิ์แสนศิลป์ หรือที่ปัจจุบันต้องเรียก “โปรภูมิ” เริ่มเป็นที่รู้จักในศึก ซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่ประเทศพม่า หลังประสบความสำเร็จคว้าเหรียญทองในประเภททีมและทองแดงประเภทบุคคลเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ก่อนประกาศเทิร์นโปรเล่นอาชีพในช่วงปีใหม่ทันที ซึ่งก็ใช้เวลาไม่นานกับการประเดิมแชมป์แรกในการเล่นอาชีพที่ “สิงห์มาสเตอร์” ดังนั้นหากเวลานี้จะมองถึงความท้าทายใหม่ในการก้าวไปสู่ระดับ เอเชียน ทัวร์ ของหนุ่มน้อยจากจันทบุรี คงไม่เร็วเกินไปนัก

ภูมิ สามารถต่อยอดจากการพาทีมชาติไทยคว้าเหรียญทอง เนปิดอว์ เกมส์ ในศึก “สิงห์ มาสเตอร์ส ครั้งที่ 15” ซึ่งเป็นรายการปิดฤดูกาลออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ 2013 ที่สนาม สันติบุรี คันทรีคลับ เชียงราย เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2557 ด้วยสกอร์รวม 16 อันเดอร์พาร์ 272 ก่อนเพลย์ออฟคว้าแชมป์กอล์ฟอาชีพรายการแรกของตัวเองพร้อมรับเงินรางวัล 725,000 บาทไปครอง

นักกอล์ฟวัย 20 ปี เล่าถึงจุดเริ่มต้นในการจับก้านเหล็กของตัวเองว่า “สมัยเด็กครอบครัวให้เล่นกีฬาหลายชนิดทั้งฟุตบอล, กอล์ฟ, บาสเกตบอล แต่สุดท้ายก็เลือกเล่นกอล์ฟและเริ่มตีอย่างจริงจังตั้งแต่อายุ 10 ปี สาเหตุที่ชื่นชอบ เพราะเป็นกีฬาที่แข่งกับตัวเอง โดยช่วงเริ่มต้นก็ฝึกซ้อมกับคุณพ่อ จากนั้นก็เรียนกับ โปรบุศย์ การีพัฒน์ ซึ่งปัจจุบันได้เสียชีวิตไปแล้วและตัวเองก็ได้ยึดถือนำคำสอนของอาจารย์มาประยุกต์ใช้จนถึงทุกวันนี้”

พร้อมกันนี้ ภูมิ ได้กล่าวถึงความแตกต่างในการก้าวจากนักกอล์ฟสมัครเล่นขึ้นมาแข่งในฐานะโปรอาชีพอย่างรวดเร็วว่า “รู้สึกดีใจที่สามารถก้าวขึ้นมาแข่งรายการอาชีพได้สำเร็จ สามารถมีรายได้จากกีฬาที่เรารัก โดยยังจำได้ดีว่าเงินรางวัลก้อนแรกจากการแข่งขันกอล์ฟชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพที่หัวหิน จำนวน 180,000 บาท ผมมอบให้แม่หมดเลย และในการแข่งขันสิงห์มาสเตอร์ อีก 725,000 บาท ก็มอบให้แม่แต่ว่ายังแบ่งไว้จำนวนหนึ่งเพื่อเก็บไว้เป็นของตัวเอง ซึ่งถือว่าเป็นความภูมิใจอย่างมากที่ได้มีส่วนช่วยเหลือครอบครัว”

ส่วนนักกอล์ฟที่ยึดเป็นแบบอย่างของ ภูมิ ไม่ใช่รุ่นเก๋าอย่าง บุญชู เรืองกิจ หรือแม้กระทั่ง ธงชัย ใจดี มือ 1 ของไทย แต่คือ ชินรัตน์ ผดุงศิลป์ เจ้าของแชมป์ เอเชียน ทัวร์ 3 รายการ “โปรหนึ่ง เป็นคนจันทบุรีเหมือนกัน และเรียนกับอาจารย์คนเดียวกัน ตอนเริ่มเล่นกอล์ฟเขาติดทีมชาติแล้ว แต่ยังสละเวลามาช่วยแนะนำเทคนิคในการออกวงสวิงต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นเหมือนไอดอลและอยากประสบความเหมือนที่เขาทำได้”

สำหรับศึก “อินเดีย โอเพน 2014” ที่จบลงเมื่อวันเสาร์ที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์ควอลิฟาย การ์ด เอเชียน ทัวร์ สำหรับนักกอล์ฟที่จบท็อป 20 ของรายการ โดย ภูมิ ยอมรับว่า “ไม่ค่อยพอใจกับผลงานและมีเรื่องต้องปรับปรุงอีกมาก แต่ก็รู้สึกดีใจที่ได้ไวลด์การ์ดแข่งรอบควอลิฟาย ผลงานที่ผ่านมายอมรับว่าน่าผิดหวังเพราะไม่ผ่านการตัดตัว แต่แมตช์นี้ถือเป็นทัวร์นาเมนต์แรกที่ไปแข่งต่างประเทศในฐานะโปร บรรยากาศต่างๆ แตกต่างไปจากระดับเยาวชน เมื่อลงสนามรู้สึกตื่นเต้น ลูกสั้นที่เป็นอาวุธหลักทำได้ไม่ดี รวมทั้งยังมีอุปสรรคทั้งการเดินทางจากที่พักไปยังสนามกอล์ฟที่ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง ทำให้ต้องนั่งอยู่บนรถนานจนเกิดอาการล้า แต่ถือเป็นบททดสอบใหญ่เพื่อให้พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์”

แน่นอนเป้าหมายใหญ่ต่อจากนี้ “โปรภูมิ” ตั้งเป้าคว้าแชมป์ เอเชียน ทัวร์ ให้ได้ภายใน 1-2 ปี แม้ว่าจะยังไม่มีการ์ดทัวร์และไม่ใช่เรื่องง่ายก็ตามสำหรับรุคกีหน้าใหม่อ่อนประสบการณ์ "เป้าหมายในปีนี้จะพยายามทำผลงานให้ดีเพื่อคว้าตั๋วเข้าร่วมแข่งกอล์ฟ เอเชียน ทัวร์ ให้ได้ และขอคว้าแชมป์ภายในระยะเวลา 1 หรือ 2 ปี หลังจากนั้นจะไปคัดเลือกรายการ เจแปน ทัวร์ เพื่อไล่ล่าเงินรางวัลที่สูงขึ้น และส่วนตัวก็ชอบประเทศญี่ปุ่นจึงมีความฝันที่อยากจะไปร่วมการแข่งขันรายการนี้ตั้งแต่เด็กๆ”

“จากนี้จะเพิ่มเวลาในการซ้อมแต่ละวันให้มากขึ้น เป็นวันละ 6 ชม.ซึ่งภายใน 1 สัปดาห์จะซ้อมได้เพียง 5 วัน เนื่องจากวันเสาร์และอาทิตย์ต้องไปเรียนที่มหาลัยรามคำแหง ถึงแม้ว่าคนรอบข้างอาจจะมองว่าเราต้องแบกรับภาระมากเกินไป แต่ผมคิดว่ากำลังทำในสิ่งที่ตัวเองรักและไม่ได้รู้สึกกดดันตัวเอง เชื่อว่าการตั้งใจฝึกซ้อมจะทำให้ความผิดพลาดน้อยลงและผลงานจะออกมาดี” แชมป์ สิงห์มาสเตอร์ คนล่าสุด ทิ้งท้าย