อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ อาร์เซนอล ติง อาร์เยน ร็อบเบน ล้มง่ายไป จนทำให้ วอจเซียช เซสนีย์ มือกาวตนเองถูกไล่ออกเป็นจุดเปลี่ยนเกม ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก แพ้คารังต่อ บาเยิร์น มิวนิค 0-2 เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะที่ปีกเลือดดัตช์ถูกสื่ออังกฤษจับผิดว่าถ่มน้ำลายใส่ บาการี ซานญา แบ็กเจ้าถิ่น
เซสนีย์ ถูกไล่ออกนาที 37 หลัง นิโคลา ริซโซลี กรรมการมองว่าทำฟาวล์ใส่ ร็อบเบน พร้อมแจกจุดโทษทีมเยือน แต่ ดาวิด อลาบา ยิงหลุดกรอบ ซึ่ง เวนเกอร์ กุนซือ อาร์เซนอล มองว่าคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้แพ้คาถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดียม 0-2 จากการยิงของ โทนี โครส นาที 54 และ โทมัส มุลเลอร์ นาที 88 พร้อมกันนี้ยังตำหนิอดีตแข้ง เชลซี กับ รีล มาดริด ล้มง่ายเกินไป
เวนเกอร์ กล่าวว่า “เซสนีย์ สัมผัสตัว ร็อบเบน ก็จริง แต่ออกอาการเกิดไป จนถือเป็นจุดเปลี่ยนของเกมหรืออาจจะบอกว่าปิดแมตช์นี้ไปเลยก็ว่าได้ ถือเป็นนัดที่เต็มไปด้วยคุณภาพ แต่ครึ่งหลัง บาเยิร์น พับสนามบุกอยู่ข้างเดียว”
“ร็อบเบน มีประสบการณ์มากพอทันทีที่ถูกสัมผัสตัว แต่เราไม่ค่อยได้ประโยชน์จากจุดนี้ใน พรีเมียร์ ลีก ทว่าก็ยอมรับทุกอย่างที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนี้ ผมไม่ได้เป็นกรรมการ ทว่าถ้าใช่ก็คงทำเช่นนั้น แต่ผิดหวัง เพราะเกมกำลังดำเนินไปอย่างยอดเยี่ยมเข้าทางจนกระทั่งพักครึ่ง หลังจากนั้นก็ไม่ใช่ฟุตบอลแล้ว” นายใหญ่ชาวฝรั่งเศส เผย
ทว่าก่อนหน้านี้ อาร์เซนอล ก็ได้จุดโทษตั้งแต่นาทีที่ 8 เมื่อ เฌโรม บัวเต็ง กองหลัง บาเยิร์น ไปทำฟาวล์ เมซุต โอซิล แต่กองกลางทีมชาติเยอรมันลุกขึ้นมายิงติดเซฟ มานูเอล นอยเออร์ ซึ่งนายใหญ่ชาวฝรั่งเศสก็ไม่คิดโยนบาปแต่อย่างใด “โอซิล ผิดหวังเหมือนกัน เพราะต้องการเล่นให้ดี 5-10 นาทีหลังจากพลาดส่งทีมขึ้นนำยังแอบส่ายหัวอยู่เลย เพชฌฆาตของเราไม่ได้อยู่ในสนามจึงต้องรับหน้าที่นั้น ถือว่าเกิดขึ้นได้กับทุกคน คุณคงไปตำหนิไม่ได้ แต่คือเรื่องความมั่นใจมากกว่า เนื่องจากเป็นน้ำมันในการขับเคลื่อนทีม”
ขณะเดียวกัน สื่ออังกฤษอย่าง “เดลี เมล” ยังจับจ้อง ร็อบเบน ว่าเล่นนอกเกมแอบถ่มน้ำลายใส่ ซานญา แบ็กของ อาร์เซนอล ที่ล้มอยู่หรือไม่ กระนั้นก็ตามมองอีกมุมหนึ่งอาจจะเป็นเหงื่อที่หยดจากคางก็เป็นได้ เนื่องจากกล้องโทรทัศน์จับภาพได้ไม่ชัดเจน โดยสำหรับนัดสองจะเตะกันที่ อัลลิอันซ์ อารีนา วันที่ 11 มีนาคมนี้ต่อไป