ธีราทร บุญมาทัน แข้งตัวเก่งของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกโรงจวกทีมงานชุดแชมป์ ซีเกมส์ ที่ผ่านมา หลังมีปัญหาเรื่องการแบ่งเงินอัดฉีด ลั่นถ้าได้ไม่ครบตามจำนวนที่รับปากไว้จะไม่ขอรับเด็ดขาด แย้มส่งผลต่อสภาพจิตใจในการรับใช้ชาติแน่นอน พร้อมไม่หวั่นหากถูกตัดออกจากทีมชาติ
หลังจากเป็นข่าวครึกโครมเมื่อมีนักเตะชุดแชมป์ ซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่ประเทศเมียนมาร์ ออกมาร้องเรียนว่าได้รับเงินอัดฉีดไม่ครบตามจำนวนที่ทางผู้ใหญ่รับปากไว้ว่านักฟุตบอลจะได้คนละ 1 ล้านบาท เนื่องจากมีการแบ่งสัดส่วนของเงินรางวัลทั้งหมด 9 ล้านบาท ในอัตราส่วนครึ่งต่อครึ่ง แบ่งเป็น ผู้เล่น 20 คน ได้ 50 เปอร์เซนต์ และ ทีมงานที่ประกอบไปด้วยสตาฟฟ์โค้ชตลอดจนฝ่ายประสานงานต่างๆ รวม 18 คน ได้ 50 เปอร์เซนต์
โดยหลังจากนั้นแม้ทางเลขาฯทีมฟุตบอลชายชุดดังกล่าว ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดของ “บิ๊กโต้ง” กิตติรัตน์ ณ ระนอง ผู้จัดการทีม ได้ออกมาไกล่เกลี่ยแล้วว่าจะมีการแบ่งสัดส่วนใหม่คือ นักเตะ 80 เปอร์เซ็นต์ และ ทีมงาน 20 เปอร์เซ็นต์ แต่ล่าสุดด้าน "เจ้าอุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายกัปตันทีมชุดแชมป์เนปิดอว์ เกมส์ ยังยืนยันว่าจะไม่ขอรับเงินหากไม่ครบตามจำนวนที่ตกลงไว้
"ต้องขอบอกก่อนว่าเรื่องนี้น้องๆในทีมทุกคนก็ไม่พอใจไม่ใช่แค่ผมคนเดียว แต่ที่ผมออกมาพูดก็เพราะว่าในฐานะที่ผมเป็นพี่และกัปตันทีม ซึ่งซีเกมส์ที่ผ่านมาผมก็ได้ขอแรงน้องๆให้ช่วยกันวิ่งจนสุดกำลังเมื่อมีปัญหาจึงต้องช่วยออกตัวให้ ส่วนเรื่องเงินนั้นที่ผมรู้สึกแย่มากก็เพราะว่ามีทีมงานฝ่ายจัดการบางคนที่เดินทางไปกับทีมแต่ไม่ได้ทำอะไรเลย เดินไปเดินมาอย่างเดียว ได้ใส่เสื้อทีมชาติก็บุญขนาดไหนแล้ว แต่พอแบ่งเงินเขากลับได้ส่วนแบ่งจำนวน 2.5 แสนบาท พอๆกับนักเตะเลย"
"ทีนี้แม้จะมีการแบ่งสัดส่วนใหม่เป็น 80-20 เปอร์เซ็นต์ แต่พวกผมก็ยังได้ไม่ครบอยู่ดี จะได้เพิ่มจากเดิมคนละ 2 แสนกว่าบาท เป็น 3 แสนกว่าบาทเท่านั้น ซึ่งขัดกับที่ท่านผู้จัดการทีมได้พูดไว้ว่านักบอลทุกคนจะได้คนละ 1 ล้านบาท และที่เป็นปัญหาแบบนี้ก็เพราะว่ายอดอัดฉีดยังได้ไม่ครบ มีบางที่และบางคนยังไม่ได้ให้ ที่สำคัญทางสมาคมฟุตบอลฯได้บอกว่าให้พวกผมรับเงินจำนวนนี้ไปก่อนแล้วจะทยอยให้ส่วนที่เหลือทีหลัง แต่ผมพูดเลยว่าถ้าจะมาแบบนี้ผมไม่เอาก็ได้ ผมเสียความรู้สึกไปแล้วก็ต้องการที่จะรับเงินทั้งหมดทีเดียว" เจ้าอุ้มร่ายยาว
พร้อมกันนี้แบ็กซ้ายวัย 23 ปี ได้กล่าวต่อว่าเรื่องดังกล่าวอาจส่งผลต่อการติดทีมชาติด้วยเช่นกัน "เรื่องนี้อาจส่งผลต่อการติดทีมชาติของผมแน่หากยังมีการบริหารจัดการที่เป็นแบบนี้อยู่ ไม่ใช่ว่าผมจะไม่ขอเล่นให้กับทีมชาติแต่ถ้าต้องเข้าไปเจอแบบนี้ผมก็ลำบากใจ ซึ่งถ้าเขาว่าผมเป็นตัวปัญหาจะตัดผมออกจากทีมชาติเพราะเรื่องนี้ผมก็ไม่แคร์"
ขณะที่ เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้กล่าวเชิงสนับสนุนเด็กในสังกัดว่า "ผมมองว่าเรื่องนี้ส่งผลถึงกำลังใจเด็ก การบริหารแบบนี้จะทำให้เด็กไม่มีความศรัทธา จะไม่ให้ก็ไม่ให้ เพราะพวกเขายอมเสียสละเพื่อชาติอยู่แล้ว อย่าไปให้ความหวังลมๆแล้งๆกับเด็ก"