“เอล กลาซิโก” เดือด “ชุดขาว” ขอบุกขยี้ “บาร์ซา”

เอเยนซี - รีล มาดริด ที่กำลังอยู่ในฟอร์มยอดเยี่ยมเตรียมกรีธาทัพบุกถิ่น คัมป์ นู ของ บาร์เซโลนา วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคมนี้เพื่อทำศึก “เอล กลาซิโก” ลา ลีกา สเปน ซึ่งถือเป็นการเจอกันครั้งแรกของฤดูกาล 2013-14 บาร์ซา ในฐานะเจ้าถิ่นแม้ดูเหลื่อมกว่า แต่ระยะหลังสถิติที่เจอกันทีมเยือนข่ม ทว่าภาพรวมถือว่ายากคาดเอาออกได้ทั้ง 3 หน้า เนื่องจากอัดแน่นไปด้วยแนวรุกระดับเวิลด์คลาสทั้งสิ้น

รีล มาดริด เพิ่งเปิด ซานติอาโก เบร์นาบิว เอาชนะ ยูเวนตุส 2-1 เมื่อวันพุธที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา คว้าชัย 3 นัดรวดออกสตาร์ทศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม อย่างสวยหรู ซึ่งถือเป็นการชนะ 4 นัดรวดรวมทุกรายการ โดย 15 นัดตั้งแต่เปิดฤดูกาลพลาดเสมอและแพ้อย่างละ 1 นัดเท่านั้นเอง หากสามารถบุกชนะ บาร์เซโลนา ได้ก็จะขึ้นทาบด้วยการมี 25 แต้มจาก 10 นัด

ส่วนฝั่ง บาร์เซโลนา แผ่วลงไป หลังจากสตาร์ทศึก ลา ลีกา สเปน ชนะ 8 นัดรวด โดยทำได้แค่บุกไปเสมอ โอซาซูนา 0-0 ในนัดล่าสุดก่อนที่เกม แชมเปียนส์ ลีก เมื่อวันอังคารที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา จะต้องเป็นฝ่ายไปไล่ตีเสมอ เอซี มิลาน 1-1 แถมสถิติ 5 นัดหลังสุดที่เจอกับ รีล มาดริด สู้ไม่ได้ชนะนัดเดียวที่เหลือเสมอ 2 และแพ้ 2 นัด หนสุดท้ายที่ไล่ต้อนต้องย้อนไปปี 2010 ที่เปิดรังยำใหญ่ 5-0 โดยปีที่แล้ว ณ คัมป์ นู เจ๊ากัน 2-2

ก่อนเกม อิเคร์ คาซิยาส ผู้รักษาประตูทีมชาติสเปน เชื่อชัยชนะเหนือ ยูเวนตุส ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้พลพรรค รีล มาดริด จนน่าจะมีลุ้นบุกกำชัย แม้ตนเองอาจจะไม่มีส่วนร่วม เนื่องจากต้องกลับไปนั่งสำรอง ดิเอโก โลเปซ ก็ตาม “เราสามารถคว้า 3 แต้มเหนือ ยูเวนตุส ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญ แม้ว่าพวกเขาจะต้องเล่น 10 คนเกือบตลอดครึ่งหลังที่ จอร์โจ คิเอลลินี ถูกใบแดงนาที 48 ก่อนเกมทุกคนมองว่าไป ตูริน แค่เสมอก็เพียงพอแล้วและนำจ่าฝูงต่อไปเพื่อเข้ารอบน็อกเอาท์ แต่ชัยชนะวันเสาร์ที่จะถึงนี้สำคัญมาก เพราะจะทำให้เรามีแต้มเท่ากับ บาร์เซโลนา บนหัวตาราง ดังนั้นทุกคนจะไป คัมป์ นู พร้อมมองถึง 3 แต้ม”

ช่วงเปิดฤดูกาลใหม่ๆ ทุกคนคาดหวังกันว่าเกม “เอล กลาซิโก” ยกแรกนี้ น่าจะหมันหยดติ๋ง เพราะว่าจะเป็นการดวลกันของแนวรุกอย่าง ลิโอเนล เมสซี กับ เนย์มาร์ ของ บาร์เซโลนา และ คริสเตียโน โรนัลโด กับ แกเร็ธ เบล ของ รีล มาดริด แต่ไปๆ มาๆ ปีกทีมชาติเวลส์ค่าตัวสถิติโลก 86 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,698 ล้านบาท) ที่ย้ายจาก ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เจ็บออดๆ แอดๆ เพิ่งได้ลงเป็นตัวสำรองเกมกับ ยูเวนตุส ขณะที่กองหน้าทีมชาติบราซิลที่ย้ายจาก ซานโต๊ส ก็ยังไม่เปรี้ยงปร้างเท่าที่ควร

ดังนั้นเกมนี้คีย์แมนของ รีล มาดริด คงเป็นคนหน้าเดิมอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด ปีกทีมชาติโปรตุเกสที่เบิ้ลประตูใส่ ยูเวนตุส ทำให้ในลีกซัดไปแล้ว 8 ประตูเท่ากับ เมสซี ขณะที่กองหลัง ราฟาเอล วาราน ชาวฝรั่งเศสฟิตแล้ว แต่ คาร์โล อันเชล็อตติ นายใหญ่จากอิตาลีอาจจะไม่เสี่ยง ขอใช้ความเก๋า เปเป้ กับ เซร์คิโอ รามอส ด้านแนวรุกมีลุ้นว่า อิสโก จะเสียบแทน ลูกา โมดริช ปั้นเกมร่วม อังเคล ดิ มาเรีย เพื่อป้อนให้ คาริม เบนเซมา หน้าเป้า

ส่วนเจ้าถิ่น บาร์เซโลนา เปลี่ยนกุนซือเช่นกันมาเป็น เคราร์โด มาร์ติโน จะส่ง เมสซี ประสานงานกับ เนย์มาร์ ที่ยิงไปแค่ 2 ประตูเท่านั้น กองกลางคงเป็น 3 ประสาน ชาบี เอร์นานเดซ, อันเดรส อิเนียสตา และ เซร์คิโอ บุสเกตส์ แต่ตำแหน่งกองหลังยังเป็นปัญหา ฮาเวียร์ มาสเชราโน อาจต้องคู่ เคราร์ด ปิเก ต่อไป แม้ว่า คาร์เลส ปูโยล จะฟิตกลับมาจากอาการเจ็บเข่าแล้ว ส่วนแบ็กซ้าย จอร์ดี อัลบา ยังไม่พร้อม

บาร์ซา แม้ว่าจะได้ เนย์มาร์ แต่ว่าทำให้ เมสซี, เปโดร โรดริเกวซ และ อเล็กซิส ซานเชซ ที่ประสานงานกันได้ดีเมื่อปีที่แล้วดร็อปศักยภาพลงไป เพราะมีคนต้องหลุดไปสำรอง ซึ่งหากหอกทีมชาติอาร์เจนตินาผลิตสกอร์ไม่ได้คนเดียวทีมอาจจะจอดไม่ต้องแจวก็เป็นได้ ผิดกับ รีล มาดริด ด้าน อันเชล็อตติ ได้รับคำชมพอสมควรหลังโยกมาจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ถึงประสบการณ์และผสมผสานนักเตะจนสื่อสเปนให้การยอมรับ โดยกำลังลุ้นคว้าแชมป์ลีก 4 ประเทศที่แตกต่างต่อจาก เอซี มิลาน, เชลซี และ เปแอสเช