เอเยนซี - ถ้วย “บิ๊ก เอียร์” ล้วนเป็นที่หมายปองของเหล่านักฟุตบอลชั้นยอดต่างอยากได้มาครอบครองประดับบารมีสักครั้งในอาชีพค้าแข้ง ทว่าก็มีหลายคนที่ได้รับการยกย่องว่าฝีเท้าระดับ เวิลด์ คลาส แต่ไม่เคยได้สัมผัสแชมป์ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก เช่น 10 รายที่ “ซอคเกอร์เน็ต” สำนักข่าวชื่อดังรวบรวมมาดังต่อไปนี้
1.โรนัลโด - ช่วงพีคสุดขีดสมัยอยู่ บาร์เซโลนา ไม่มีกองหลังหน้าไหนในโลกเอาอยู่พิสูจน์ด้วยจำนวน 47 ประตูจาก 49 นัดก่อนย้ายไปอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน จากนั้นก็กลับมา รีล มาดริด พร้อมได้แชมป์ ลา ลีกา สเปน ระดับทีมชาติบราซิลก็ไม่ธรรมดาคว้าแชมป์โลก 2 สมัยปี 1994 และ 2002 แถมเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลรอบสุดท้าย 15 ประตู ขาดแต่สิ่งเดียวคือถ้วย แชมเปียนส์ ลีก ส่วนหนึ่งก็เพราะมีปัญหาอาการบาดเจ็บหัวเข่ารบกวน
2.ดิเอโก มาราโดนา – ตำนานที่ยังหายใจของ อาร์เจนตินา แชมป์โลกปี 1986 ช่วงประสบความสำเร็จสูงสุดคือเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของ นาโปลี จนคว้าแชมป์ กัลโช เซเรีย อา อิตาลี 2 สมัยปี 1987 และ 1990 แต่หนแรกในการเล่น ยูโรเปียน คัพ (ชื่อเดิม) แพ้ รีล มาดริด สกอร์รวม 2 นัด 1-3 ร่วงตั้งแต่รอบแรก ขณะที่หนถัดมาจอดป้ายรอบสองแพ้จุดโทษ สปาร์ตัก มอสโก โดยก่อนหน้านี้เคยเล่นให้ บาร์เซโลนา แต่ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก
3.จอห์น ชาร์ลส์ - ผลิตผลจากเวลส์มีความสามารถเล่นได้ทั้งกองหลังตัวกลางและกองหน้าตัวเป้า ฟอร์มสุดเปรี้ยงปร้างกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด จน ยูเวนตุส อดใจไม่ไหวต้องดึงตัวไปร่วมทัพ แม้จะได้แชมป์ลีกมะกะโรนีถึง 3 สมัย แต่ไปไม่ถึงฝั่งฝันถ้วยยุโรป ทว่าส่วนตัวก็สอบผ่านได้รางวัลแข้งยอดเยี่ยมแห่งปีอิตาลีเมื่อปี 1958 ก่อนจะกลับไปอยู่กับ “ยูงทอง” อีกคำรบ รวมถึง โรมา ด้วย
4.โลธาร์ มัทเธอุส - เจ้าของฉายา “ซูเปอร์แมน” ถือเป็นนักเตะในบรรดา 10 รายนี้ที่ใกล้เคียงกับการได้ชูถ้วยยุโรปมากที่สุดกับการร่วมทัพ บาเยิร์น มิวนิก หน 2 โดยได้เล่นรอบชิงชนะเลิศเมื่อปี 1999 ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกนาที 80 จากนั้นจึงถูก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โกงความตายสร้างปาฏิหาริย์ยิง 2 ประตูช่วงทดเวลาบาดเจ็บแซงชนะไปอย่างเจ็บแสบ 2-1 ซึ่งไม่แน่ถ้ายังอยู่ในสนามอาจจะสามารถสกัดลูกเตะมุมได้ทั้ง 2 ครั้ง
5.เดนนิส เบิร์กแคมป์ - เพชฌฆาตผู้เลือดเย็นจนได้ฉายาว่า “ไอซ์เบิร์ก” แต่ดันกลัวเครื่องบิน เล่นให้แค่ 3 สโมสรคือ อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม, อินเตอร์ มิลาน และ อาร์เซนอล โดยหลังเขาย้ายออกมาได้ 2 ปียอดทีมของเนเธอร์แลนด์ ก็คว้าแชมป์ปี 1995 ภายใต้แข้งที่ถือเป็นยุคทองตอนนั้น อีกครั้งก็คือปี 2006 อาร์แซน เวนเกอร์ นายใหญ่ “ปืนโต” ไม่ส่งลงสนามก่อนที่จะแพ้ให้กับ บาร์เซโลนา 1-2 ซึ่งก็ถือว่าอับโชคพอสมควรกับถ้วยยุโรป
6.ลาซโล คูบาลา - กองหน้าที่เกิดใน บูดาเปสต์ ฮังการี สร้างชื่อกับ บาร์เซโลนา ระหว่างปี 1951-1961 สโมสรที่น่าจะมีศักยภาพส่งให้คว้าแชมป์ ยูโรเปียน คัพ มากที่สุด ใกล้เคียงที่สุดคือฤดูกาล 1960-61 ที่ฝ่าด่าน รีล มาดริด คู่กัดตลอดกาลตั้งแต่รอบแรกไปจนถึงด่านสุดท้ายก่อนที่จะอกหักปราชัยให้กับ เบนฟิกา 2-3
7.จานลุยจิ บุฟฟอน - หลายคนอาจไม่เชื่อว่าอดีตผู้รักษาประตูมือ 1 ของโลกจะติดโผนี้ด้วย หลังย้ายจาก ปาร์มา เมื่อปี 2001 ก็ได้สัมผัสแชมป์ สคูเด็ตโต 4 สมัย รวมถึงเข้าชิง ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาล 2002-03 ซึ่งถือว่าใกล้เคียงมากที่สุดในเวลานั้นเมื่อทำศึกสายเลือดเสมอ เอซี มิลาน 120 นาที 0-0 ก่อนจะดวลจุดโทษแพ้ 2-3 ไม่แน่ฤดูกาลนี้ “ม้าลาย” เสริมแกร่งน่ากลัวอาจส่งให้ “จีจี้” เติมเต็มความฝันของตนเองให้สำเร็จก็เป็นได้
8.รุด ฟาน นิสเตลรอย - กองหน้าที่ได้รับการยกย่องว่าอันตรายที่สุดยามอยู่ในกรอบเขตโทษได้โอกาสเล่นให้กับสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง พีเอสวี ไอน์โฮเฟน, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ รีล มาดริด แต่ไม่ได้สัมผัสแชมป์ยุโรปทั้งที่ยิงไปถึง 60 ประตู รั้งอันดับ 3 ตลอดกาลเป็นรองแค่ ราอูล กอนซาเลซ และ ลิโอเนล เมสซี เท่านั้น
9.โรแบร์โต บาจโจ - เทพบุตรเปียทองคำของวงการฟุตบอลอิตาลีเคยเล่นให้สโมสรมากมายทั้ง ฟิออเรนตินา, ยูเวนตุส, เอซี มิลาน และ อินเตอร์ มิลาน แต่ก็ทำได้แค่เกือบเข้าใกล้ถ้วย แชมเปียนส์ ลีก เพราะระดับสโมสรไม่ประสบความสำเร็จได้แชมป์ลีกแค่ 2 ครั้งตอนอยู่กับ “ม้าลาย” และ “ปีศาจแดง-ดำ” เท่านั้น รวมถึงมักจะย้ายสังกัดไม่ถูกที่ถูกเวลา
10.กาเบรียล บาติสตูตา - ดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์ที่จบสกอร์ชนิดเปรี้ยงเดียวหายซุกก้นตาข่ายโด่งดังสุดขีดกับ ฟิออเรนตินา แน่นอนว่าไม่อาจพา “ม่วงมหากาฬ” คว้าแชมป์ลีก ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ โรมา ที่ได้แชมป์ สคูเด็ตโต เมื่อปี 2000-01 แต่ด้วยช่วงที่ขาลงแล้วรวมถึงศักยภาพทีมโดยรวมก็ไม่อาจส่งไปถึงตำแหน่งแชมป์ยุโรป แต่ทุกคนก็ยกย่องเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาคือยอดกองหน้าที่ซัดรวม 300 ประตูจาก 516 นัดที่ลงเล่นตลอดอาชีพค้าแข้ง
