xs
xsm
sm
md
lg

“ทานเนฮิลล์ สืบตำนาน “มาริโน”? / ลุงแซม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ “Final Quarter” โดย “ลุงแซม”

15 กันยายนที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญสำหรับ ไมอามี ดอลฟินส์ เพราะตรงกับวันเกิดอายุครบ 52 ปีของ แดน มาริโน ซึ่ง ไรอัน ทานเนฮิลล์ ควอเตอร์แบ็กวัยเบญจเพส มอบของขวัญให้ตำนานจอมทัพและแฟนๆ ด้วยการนำ “โลมามหาภัย” พลิกล็อกอัด อินเดียนาโปลิส โคลต์ส ถึงถิ่น 24-20

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2012 ดอลฟินส์ ใช้สิทธิ์ดราฟต์รอบแรกอันดับ 8 ดึงตัว ไรอัน ทานเนฮิลล์ ขึ้นมาจากมหาวิทยาลัยเทกซัส เอแอนด์เอ็ม ทว่าสื่อในเรดิโอ ซิตี มิวสิก ฮอลล์ มหานครนิวยอร์ก พากันจับจ้องไปที่ ลอเรน อูเฟอร์ ภรรยาสาวแสนสวยที่ขโมยซีนสามี ด้วยชุดสีแดงเพลิงสะดุดตายิ่ง อีกทั้งสปอร์ตไลท์ทุกดวงต่างพากันคีย์ไปที่ แอนดรูว์ ลัก กับ โรเบิร์ต กริฟฟิน เดอะ เธิร์ด เสียมากกว่าว่าใครจะเป็น “นัมเบอร์วัน ดราฟต์”

แม้บินต่ำกว่าเรดาร์ แต่ ทานเนฮิลล์ ถือว่าสอบผ่านสำหรับขวบปีแรกในอาชีพ เมื่อทุบสถิติแฟรนไชส์ในส่วนของการขว้างบอลได้ระยะมากสุด 3,294 หลา ปาบอลเข้าเป้า 282 ครั้ง พยายามขว้างบอลมากสุด 484 หน และยังเป็นควอเตอร์แบ็กที่วิ่งได้ระยะมากสุด 31 หลา มิเสียแรงที่ ทานเนฮิลล์ เป็นจอมทัพคนแรกต่อจาก มาริโน ที่ดอลฟินส์ ไว้วางใจเลือกดราฟต์เข้ามารอบแรกตั้งแต่ปี 1983 ถึงแม้ไม่สามารถพา “โลมามหาภัย” ทะลุเพลย์ออฟดั่ง ลัก (อินเดียนาโปลิส โคลต์ส), “อาร์จีทรี” (วอชิงตัน เรดสกินส์) หรือว่า รัสเซลล์ วิลสัน (ซีแอตเติล ซีฮอว์คส)

โดยซีซันนี้ถือเป็นงานท้าทายยิ่งสำหรับ ทานเนฮิลล์ เนื่องจาก เรจจี บุช รันนิงแบ็กอเนกประสงค์ เป็นฟรีเอเยนต์โยกไปอยู่กับ ดีทรอยต์ ไลออนส์ ขณะที่ ดัสติน เคลเลอร์ ปีกในตัวช่วยสำคัญดันมาเอ็นเข่าฉีก ต้องพักยาวแต่การมาของ ไมค์ วอลเลซ อดีตปีกสตาร์ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส เหมือนเป็นการเค้นพลังแขนของ ทานเนฮิลล์ ให้ประจักษ์ เกมชนะโคลต์ส ถือว่าผู้เล่นคนหนุ่มผลงานหรู ขว้างเข้าเป้า 23 จาก 34 ครั้ง คิดเป็นถึง 67.7 เปอร์เซ็นต์ ได้ระยะ 319 หลา หนึ่งทัชดาวน์ ไม่เสียอินเทอร์เซปต์ ช่วยให้ ดอลฟินส์ ทำได้ถึงสองสกอร์ในควอเตอร์แรก หนแรกตั้งแต่ปี 2011 ที่สำคัญจังหวะเริ่มเข้ากันกับ วอลเลซ ที่เหินหาวรับบอลได้ 9 หน 115 หลา หนึ่งทัชดาวน์

อย่างไรก็ตาม 5 เกมต่อจากนี้ ถือเป็นบทพิสูจน์ภาวะผู้นำของ ทานเนฮิลล์ เกมเฝ้าบ้านเจอ แอตแลนตา ฟอลคอนส์ ที่มี แมตต์ ไรอัน ซึ่งกำลังขว้างบอลสนุกมือใส่เป้าหลักอย่าง ฮูลิโอ โจนส์ หรือเกมสัปดาห์ 4 ที่ต้องไปเยือน นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส ซึ่งมี ดรูว์ บรีส์ นำพาทีมบุกอยู่ อีกทั้ง “นักบุญ” ปีนี้เกมรับแน่นปึ้ก ได้ทาง ร็อบ ไรอัน หนึ่งในปรมาจารย์มาดูแล ดังนั้น ทานเนฮิลล์ จะไปคิดแข่งขว้างกับทั้ง ไรอัน หรือ บรีส์ คงเป็นการฆ่าตัวตายชัดๆ จึงจำเป็นต้องยึดมั่นกับแผนที่ ไมค์ เชอร์แมน (โค้ชทีมบุก) สั่งลงมาดีกว่า บรรดาแนวต้องยืนหยัดเพื่อให้ ทานเนฮิลล์ มีเวลาปักหลักในพ็อกเกตได้นานสุดเท่าที่ทำได้ กอปรกับ ดอลฟินส์ ต้องใช้งาน ลามาร์ มิลเลอร์ ที่วิ่งเฉลี่ยเกือบ 5 หลา ในเกมกับโคลต์ส ให้ก่อประโยชน์ที่สุด เพื่อเป็นการลดแรงเสียดทานแก่จอมทัพ

จากนั้น “โลมามหาภัย” จะเปิดรังเจอ “แชมป์เก่า” บัลติมอร์ เรฟเวนส์ ถ้าสถิติชนะมากกว่าแพ้ก่อนเข้าสู่บายวีค พลังใจคงมาอีกเป็นกอง เนื่องจากกลับมาต้องเจอคู่ปรับร่วมสายอย่าง บัฟฟาโล บิลล์ส ซึ่งถึงวันนั้น อี.เจ.มานูเอล ควอเตอร์แบ็กรุกกีความมั่นใจอาจติดลมบนไปแล้วก็ได้ ถัดมาการเยือน นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ ปะทะฝีมือ ทอม เบรดี นั่นคงเป็นการวัดศักยภาพของ ทานเนฮิลล์ อีกหนึ่งเกม เป็นตัวบ่งชี้ว่าเด็กคนนี้ดีพอที่จะขึ้นมาสืบทายาท มาริโน หรือไม่ หรือแกร่งพอพา ดอลฟินส์ สถิติดีกว่า 7-9 เกม เมื่อซีซันก่อน ลุ้นเข้าเพลย์ออฟครั้งแรกรอบ 6 ปี ก็ในเมื่อมองดูโปรแกรมแล้วถือว่าหนักต้องฟาดฟันกับทีมแกร่งอย่าง ซินซินเนติ เบงกอลส์, แทมปาเบย์ บัคคาเนียร์ส, ซานดิอาโก ชาร์จเจอร์ส หรือว่า สตีลเลอร์ส งานนี้แฟนๆ คนชนคนต้องมาติดตามดูกันว่าจะออกหมู่หรือจ่า
กำลังโหลดความคิดเห็น