บาเยิร์น มิวนิก ยอดทีมจากเยอรมนี สังหารจุดโทษได้แม่นกว่าเอาชนะ เชลซี ทีมแชมป์ยูโรปา ลีก จากอังกฤษ 5-4 คว้าแชมป์ยูฟา ซูเปอร์ คัพ ได้เป็นสมัยแรก หลังเสมอในเกม 120 นาที 2-2 ที่กรุงปราก เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา
ฟุตบอล ยูฟา ซูเปอร์คัพ
บาเยิร์น มิวนิก (เยอรมนี) 2-2 เชลซี (อังกฤษ) บาเยิร์น มิวนิก ชนะจุดโทษ 5-4
เกมยูฟา ซูเปอร์ คัพ ครั้งที่ 38 ปีนี้เปลี่ยนมาเตะกันที่สนาม เอเดน อารีนา ที่กรุงปราก ประเทศสาธารณรัฐเช็ก เป็นครั้งแรก เป็นการพบกันระหว่าง บาเยิร์น มิวนิก แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และ เชลซี แชมป์ ยูโรปา ลีก เกมนี้ "เสือใต้" ขาย บาสเตียน ชไวน์สไตน์เกอร์ แต่มี ฟรองค์ ริเบรี, อาร์เยน ร็อบเบน ขณะที่ "สิงห์บลูส์" ใส่ เฟร์นันโด ตอร์เรส เป็นหอกเป้า
เริ่มเกมมาเป็น "เสือใต้" ที่ครองบอลบดได้ก่อน แต่นาทีที่ 9 เกมสวนกลับของแชมป์ ยูโรปา ลีก ฮาซาร์ด พาบอลจากกลางสนามจ่ายออกขวาให้ อังเดร ชูร์เลร์ ตวัดกลับมาให้ ตอร์เรส วอลเลย์เสียบเสาอย่างสวยงาม "สิงห์บลูส์" ออกนำ 1-0 แต่ บาเยิร์น เกือบตีเสมอทันควัน มานด์ซูคิช ตักให้ ลาห์ม วอลเลย์แต่ตรงตัว เช็ก
นาที 17 เกมสวนกลับของ เชลซี มาได้ลุ้นอีกครั้ง ออสการ์ ไหลให้ ตอร์เรส พยายามชิพไปเสาสองแต่แรงข้ามคานไปนิดเดียว จากนั้น 5 นาที ริเบรี เกือบพังประตูตีเสมอให้ "เสือใต้" จากจังหวะปั่นโค้งจากนอกกรอบ แต่ เช็ก พุ่งปัทิ้งแบบสุดตัว เกมเปิดแลกกันสนุกนาที 30 ตอร์เรส พลิกหนี ดานเต และกดด้วยซ้ายเหินคานนิดเดียว
ทีมแชมป์ยูฟา แชมเปียนส์ลีก บุกต่อเนื่องนาที 38 ร็อบเบน แทงทะลุให้ มานด์ซูคิช ยิงที่เสาแรก แต่ เคฮิลล์ ตามมาบล็อกได้หวุดหวิดบอลเข้าข้างหน้าต่างเท่านั้น ท้ายครึ่งแรก ร็อบเบน ส่องไกล จากนอกกรอบอีกครั้ง บอลแฉลบ เคฮิลล์ ทำให้ เช็ก รับไว้ไม่ยาก จบ 45 นาทีแรก เชลซี ที่คมกว่านำ 1-0
กลับลงมาครึ่งหลัง 2 นาที ริเบรี มาพังประตูตีเสมอให้ทีมอย่างรวดเร็ว 1-1 จากการส่องไกลจากระยะ 25 หลา บอลเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม ดำเนินถึงนาที 64 ดานเต พลาดง่ายๆ ชูร์เรร์ ฉกมาได้ ไหลให้ ออสการ์ พยายามชิพแต่ มานูเอล นอยเออร์ เซฟไว้ได้ บอลเข้าทาง แลมพาร์ด วอลเลย์ ซ้ำแต่บอลข้ามคานออกไป
ผ่าน 70 นาที ทั้งสองทีมเปิดแลกใส่กัน โจเซฟ กวาร์ดิโอลา ใส่แนวรุกเพิ่มส่ง มาริโอ เกิร์ทเซ ลงแทน มุลเลอร์ ถัดมา 5 นาที โกรส ได้ซัดด้วยซ้ายระยะ 25 หลาบอลหลุดกรอบออกไป นาที 77 เชลซี ได้ลุ้นบ้างจากเตะมุม บอลเลยมาถึง อีวาโนวิช โขกเต็มๆ บอลชนเต็มคานอย่างน่าเสียดาย
นาที 85 ฟรีคิกของ แลมพาร์ด เปิดมาเสาสอง ลุยซ์ โถมโขกเต็มๆ ติดเซฟของ นอยเออร์ และนามีถัดมา รามิเรส ย้ำใส่ เกิร์ทเซ ถูกใบเหลือง-แดง ไล่ออกจากสนาม จากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม จบ 90 นาที 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษ 30 นาที หาผู้ชนะ
ช่วงต่อเวลาเป็น เชลซี ที่เหลือ 10 คน ขยับขึ้นนำ 2-1 ฮาซาร์ด แหวกจากกราบซ้ายมา 2 คน และกดเรียด บอลผ่านมือ นอยเออร์ เข้าไปซุกตาข่าย จากนั้น บาเยิร์น บุกหนักเจาะไม่เข้า กระทั่งครึ่งหลัง ยอดทีมเมืองเบียร์ได้ลุ้นจากการโขก 2 ครึ่งซ้อนๆ ของ มานด์ซูคิช และ มาร์ติเนซ แต่ เช็ก ยอดเยี่ยมปัดได้ทั้งสองครั้ง
ครึ่งหลังของการต่อเวลา ลูกทีมของ เป๊ป เดินครึ่งบุกหนักและใช้ลูกโยนเข้าไปลุ้น แต่ยังเจาะแนวรับของ "สิงห์บลูส์" ที่แพ็คกันแน่นไม่เข้า และท้ายเกม ริเบรี น่าจะตีเสมอได้อีกครั้งจากฟรีคิก แต่ เช็ก บินสุดตัว เซฟเอาไว้ได้อีกครั้ง และแล้วช่วงทดเจ็บ "เสือใต้" มาได้ มาร์ติเนซ ไล่ตีเสมอเป็น 2-2 ยื้อไปลุ้นด้วยการดวลจุดโทษ
การดวลจุดโทษปรากฏว่า 4 คนแรกของทั้งสองทีมยิงเข้าดวลกันทั้งหมด แต่ปรากฏว่า ลูคาคู ที่ซัดเบาเกินไป มานูเอล นอยเออร์ พุ่งถูกทางเซฟไว้ได้ไม่ยาก เอาชนะจุดโทษไป 5-4
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
บาเยิร์น มิวนิก : มานูเอล นอยเออร์,ฟิลิปป์ ลาห์ม, ราฟินยา, เฌอโรม บัวเต็ง, ดาวิด อลาบา, ดานเต, อาร์เยน ร็อบเบน, ฟรองค์ ริเบรี, อาร์เยน ร็อบเบน, โทนี โครส, โทมัส มุลเลอร์, มาริโอ มานด์ซูคิช
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดาวิด ลุยซ์, แกรี เคฮิลล์, แอชลีย์ โคล, แฟรงค์ แลมพาร์ด, รามิเรส, ออสการ์,เอเดน ฮาซาร์ด, อังเดร ชูร์เลร์, เฟร์นันโด ตอร์เรส