คอลัมน์ “Final Quarter” โดย “ลุงแซม”
นับตั้งแต่เข้าสู่สหัสวรรษใหม่ ดีทรอยต์ พิสตันส์ กลับมาเป็นขาประจำในเพลย์ออฟศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) อีกครั้ง หลังผ่านยุคทองของ “แบดบอย” ทศวรรษที่ 80 ซึ่ง ชัค เดลีย์ ยอดโค้ชและพลพรรคนำโดย โจ ดูมาร์ส, ไอเซห์ โธมัส หรือว่า เดนนิส ร็อดแมน ประกาศศักดาเบิ้ลแชมป์ (ปี 1989 และ 1990)
แต่ช่วงรอยต่อแห่งการเปลี่ยนถ่าย พิสตันส์ ใช้เวลาถึง 14 ปี กว่าจะปีนขึ้นสู่บัลลังก์แชมป์อีกครั้งในฤดูกาล 2003/04 ภายใต้การนำของ แลร์รี บราวน์ ที่สร้าง “แบดบอย ภาค 2” ขึ้นมาประดับวงการ สมัยนั้นคอบาสคนใดที่ชอบสไตล์เกมบุกทำแต้มแบบฉับไว ลีลาเหินหาวดังก์เร้าใจ บอกผ่านการเชียร์ พิสตันส์ ไปได้เลย เพราะนี่คือทีมที่เล่นแบบ “อนุรักษนิยม” เน้นเกมรับเหนียวแน่น ชนะด้วยแต้มต่ำ แต่พวกที่ชอบเห็นการขยี้กันวงในหนักๆ ราชีด วอลเลซ กับ เบน วอลเลซ ไม่เคยทำให้ผิดหวัง
ถึงวันนี้ ดูมาร์ส ซึ่งยังปักหลักในถิ่นเดอะ พาเลซ ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป ใช้ความมานะเก็บหอมรอมริบเพื่อสร้าง พิสตันส์ ให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง การรอคอยหวนสู่โพสต์ซีซันหลังห่างหายมานาน 5 ปี มีโอกาสสิ้นสุดลง เมื่อ พิสตันส์ ปฏิบัติการเสริมขุมพลังได้น่าสนใจยิ่ง การทุ่มค่าเหนื่อย 54 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 1.6 พันล้านบาท) ในสัญญา 4 ปีให้แก่ จอช สมิธ อาจดูแพงไปนิด แต่ถ้าไม่รีบลงมือเห็นทีโดนตัดหน้าในตลาดฟรีเอเยนต์เป็นแน่ ซึ่งการมาของ สมิธ ทำให้แผง “ฟรอนท์คอร์ต” ของ พิสตันส์ น่าจับตายิ่ง
ผลผลิตจากการดราฟต์สะสม (ช่วงทีมตกต่ำ) ทำให้ พิสตันส์ ได้ เกร็ก มอนโร ดราฟต์อันดับ 7 ปี 2010 ขึ้นมาปักหลักวงในร่วมกับ อังเดร ดรัมมอนด์ ดราฟต์อันดับ 9 เมื่อปี 2012 ได้อย่างน่าจับตามอง นี่ยังมี สมิธ เข้ามาแชร์ประสบการณ์เพลย์ออฟ (สมัยอยู่กับ แอตแลนตา ฮอว์คส) เมื่อวัดจากฝีมือพรสวรรค์ ตอนนี้ มัวริซ ชีคส์ เฮดโค้ชคนใหม่สามารถใช้จุดนี้บดบี้กับเพื่อนร่วมกลุ่มเซ็นทรัล ดิวิชัน อย่าง อินเดียนา เพเซอร์ส หรือ ชิคาโก บูลส์ ได้ดุเดือด
ขณะที่ “แบ็กคอร์ต” ชอนซีย์ บิลล์อัพส์ พกสังขารวัย 36 ปี กลับมาถิ่นเก่า หน้าที่ของพี่ใหญ่คงเป็นเรื่องการแบ่งปัน ปลุกเร้าความฮึกเหิมในล็อกเกอร์รูม บทบาทคงเน้นเป็น “ชู้ตติ้งการ์ด” เนื่องจากทีมเพิ่งได้ตัวคุมบอลอย่าง แบรนดอน เจนนิงส์ ด้วยการเซ็นสัญญาและเทรดกับ มิลวอล์คกี บัคส์ ยอมเสียทั้ง แบรนดอน ไนท์, คริส มิดเดิลตัน และ เวียเชสลาฟ คราฟท์ซอฟ ค่าจ้างปีละ 8 ล้านเหรีญสหรัฐฯ (ประมาณ 240 ล้านบาท) กับการ์ดจ่ายฝีมือระดับเพลย์ออฟ ถือเป็นการลงทุนที่ต้องลองดู แต่ เจนนิงส์ จะฝากอนาคตที่โมทาวน์ได้นานกว่า 3 ปีหรือไม่ คงต้องพิสูจน์ฝีมือให้เห็น เพราะถึงวันนี้ พิสตันส์ ก็ยังมีข่าวอยากได้ ราจอน รอนโด มาจาก บอสตัน เซลติกส์ อยู่เนืองๆ เพื่อเข้าขาคู่ซี้อย่าง จอช สมิธ
ส่วนองค์ประกอบเสริม การเลือกเก็บ ร็อดนีย์ สตัคกีย์ การ์ดที่เคยแบกแฟรนไชส์อยู่พักหนึ่ง พร้อมด้วย ชาร์ลี วิลลานูเอวา ฟอร์เวิร์ดประสบการณ์เอาไว้ ทำให้ทีมนี้สามารถยืดหยุ่นได้กับฤดูกาลปกติที่ยาวนานถึง 82 เกม ดังนั้น มัวริซ ชีคส์ จึงไม่ต้องพะวงกับการจัดสรรเวลาลงสนามให้รุคกี้อย่าง เคนตาเวียส คัลด์เวล-โพพ (ดราฟต์ท์อันดับ 8), โทนี มิทเชลล์ (อันดับ 37) และ เพย์ตัน ซิวา (อันดับ 56) มากเกินความจำเป็น เนื่องจากทุกอย่างใน NBA ต้องค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรเสีย ฤดูกาล 2013/14 ที่กำลังจะมาถึง หากบริหารจัดการกันดีๆ พิสตันส์ มีโอกาสเบียดทั้ง เซลติกส์ กับ บัคส์ ซึ่งต้องปฏิรูปทีมขนานใหญ่ ติดเป็นหนึ่งใน 8 ม้าศึกเข้าสู่เพลย์ออฟ ถ้าสำเร็จก็ถือว่าความอดทนของ ดูมาร์ส และความทุ่มเทของเจ้าของใหม่อย่าง ทอม กอร์ส ไม่เสียเปล่าเลยจริงๆ
นับตั้งแต่เข้าสู่สหัสวรรษใหม่ ดีทรอยต์ พิสตันส์ กลับมาเป็นขาประจำในเพลย์ออฟศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) อีกครั้ง หลังผ่านยุคทองของ “แบดบอย” ทศวรรษที่ 80 ซึ่ง ชัค เดลีย์ ยอดโค้ชและพลพรรคนำโดย โจ ดูมาร์ส, ไอเซห์ โธมัส หรือว่า เดนนิส ร็อดแมน ประกาศศักดาเบิ้ลแชมป์ (ปี 1989 และ 1990)
แต่ช่วงรอยต่อแห่งการเปลี่ยนถ่าย พิสตันส์ ใช้เวลาถึง 14 ปี กว่าจะปีนขึ้นสู่บัลลังก์แชมป์อีกครั้งในฤดูกาล 2003/04 ภายใต้การนำของ แลร์รี บราวน์ ที่สร้าง “แบดบอย ภาค 2” ขึ้นมาประดับวงการ สมัยนั้นคอบาสคนใดที่ชอบสไตล์เกมบุกทำแต้มแบบฉับไว ลีลาเหินหาวดังก์เร้าใจ บอกผ่านการเชียร์ พิสตันส์ ไปได้เลย เพราะนี่คือทีมที่เล่นแบบ “อนุรักษนิยม” เน้นเกมรับเหนียวแน่น ชนะด้วยแต้มต่ำ แต่พวกที่ชอบเห็นการขยี้กันวงในหนักๆ ราชีด วอลเลซ กับ เบน วอลเลซ ไม่เคยทำให้ผิดหวัง
ถึงวันนี้ ดูมาร์ส ซึ่งยังปักหลักในถิ่นเดอะ พาเลซ ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป ใช้ความมานะเก็บหอมรอมริบเพื่อสร้าง พิสตันส์ ให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง การรอคอยหวนสู่โพสต์ซีซันหลังห่างหายมานาน 5 ปี มีโอกาสสิ้นสุดลง เมื่อ พิสตันส์ ปฏิบัติการเสริมขุมพลังได้น่าสนใจยิ่ง การทุ่มค่าเหนื่อย 54 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 1.6 พันล้านบาท) ในสัญญา 4 ปีให้แก่ จอช สมิธ อาจดูแพงไปนิด แต่ถ้าไม่รีบลงมือเห็นทีโดนตัดหน้าในตลาดฟรีเอเยนต์เป็นแน่ ซึ่งการมาของ สมิธ ทำให้แผง “ฟรอนท์คอร์ต” ของ พิสตันส์ น่าจับตายิ่ง
ผลผลิตจากการดราฟต์สะสม (ช่วงทีมตกต่ำ) ทำให้ พิสตันส์ ได้ เกร็ก มอนโร ดราฟต์อันดับ 7 ปี 2010 ขึ้นมาปักหลักวงในร่วมกับ อังเดร ดรัมมอนด์ ดราฟต์อันดับ 9 เมื่อปี 2012 ได้อย่างน่าจับตามอง นี่ยังมี สมิธ เข้ามาแชร์ประสบการณ์เพลย์ออฟ (สมัยอยู่กับ แอตแลนตา ฮอว์คส) เมื่อวัดจากฝีมือพรสวรรค์ ตอนนี้ มัวริซ ชีคส์ เฮดโค้ชคนใหม่สามารถใช้จุดนี้บดบี้กับเพื่อนร่วมกลุ่มเซ็นทรัล ดิวิชัน อย่าง อินเดียนา เพเซอร์ส หรือ ชิคาโก บูลส์ ได้ดุเดือด
ขณะที่ “แบ็กคอร์ต” ชอนซีย์ บิลล์อัพส์ พกสังขารวัย 36 ปี กลับมาถิ่นเก่า หน้าที่ของพี่ใหญ่คงเป็นเรื่องการแบ่งปัน ปลุกเร้าความฮึกเหิมในล็อกเกอร์รูม บทบาทคงเน้นเป็น “ชู้ตติ้งการ์ด” เนื่องจากทีมเพิ่งได้ตัวคุมบอลอย่าง แบรนดอน เจนนิงส์ ด้วยการเซ็นสัญญาและเทรดกับ มิลวอล์คกี บัคส์ ยอมเสียทั้ง แบรนดอน ไนท์, คริส มิดเดิลตัน และ เวียเชสลาฟ คราฟท์ซอฟ ค่าจ้างปีละ 8 ล้านเหรีญสหรัฐฯ (ประมาณ 240 ล้านบาท) กับการ์ดจ่ายฝีมือระดับเพลย์ออฟ ถือเป็นการลงทุนที่ต้องลองดู แต่ เจนนิงส์ จะฝากอนาคตที่โมทาวน์ได้นานกว่า 3 ปีหรือไม่ คงต้องพิสูจน์ฝีมือให้เห็น เพราะถึงวันนี้ พิสตันส์ ก็ยังมีข่าวอยากได้ ราจอน รอนโด มาจาก บอสตัน เซลติกส์ อยู่เนืองๆ เพื่อเข้าขาคู่ซี้อย่าง จอช สมิธ
ส่วนองค์ประกอบเสริม การเลือกเก็บ ร็อดนีย์ สตัคกีย์ การ์ดที่เคยแบกแฟรนไชส์อยู่พักหนึ่ง พร้อมด้วย ชาร์ลี วิลลานูเอวา ฟอร์เวิร์ดประสบการณ์เอาไว้ ทำให้ทีมนี้สามารถยืดหยุ่นได้กับฤดูกาลปกติที่ยาวนานถึง 82 เกม ดังนั้น มัวริซ ชีคส์ จึงไม่ต้องพะวงกับการจัดสรรเวลาลงสนามให้รุคกี้อย่าง เคนตาเวียส คัลด์เวล-โพพ (ดราฟต์ท์อันดับ 8), โทนี มิทเชลล์ (อันดับ 37) และ เพย์ตัน ซิวา (อันดับ 56) มากเกินความจำเป็น เนื่องจากทุกอย่างใน NBA ต้องค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรเสีย ฤดูกาล 2013/14 ที่กำลังจะมาถึง หากบริหารจัดการกันดีๆ พิสตันส์ มีโอกาสเบียดทั้ง เซลติกส์ กับ บัคส์ ซึ่งต้องปฏิรูปทีมขนานใหญ่ ติดเป็นหนึ่งใน 8 ม้าศึกเข้าสู่เพลย์ออฟ ถ้าสำเร็จก็ถือว่าความอดทนของ ดูมาร์ส และความทุ่มเทของเจ้าของใหม่อย่าง ทอม กอร์ส ไม่เสียเปล่าเลยจริงๆ
