หลังจาก ติอาโก อัลคานทารา มิดฟิลด์ดาวรุ่งของ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา มีข่าวจ่อย้ายสังกัดไปร่วมทีม "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่จากเกาะอังกฤษ จึงทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่น่าจับตามองถึงฟอร์มการเล่นในอนาคต โดย กูรู วงการฟุตบอลได้ออกมาให้ความเห็นถึงกองกลางทีมชาติสเปนรายนี้ ที่จะมาโลดเล่นวาดลวดลายฝีเท้าอยู่ในศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ช่วงฤดูกาลหน้า
โดยก่อนหน้านี้ “ผีแดง” ได้เผชิญกับความเปลี่ยนแปลงภายในทีม ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนกุนซือมาเป็น เดวิด มอยส์ และทีมงานผู้ช่วยซึ่งยกชุดมาจาก เอฟเวอร์ตัน ตามมาด้วยปัญหาของ เวย์น รูนีย์ ที่มีข่าวว่าจะเก็บข้าวของย้ายออกจากถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปพร้อมกับ ปาทริซ เอฟรา ปราการหลังตัวเก๋าของทีม รวมไปถึงการเล็งที่จะคว้า เลห์ตัน เบนส์ มาเป็นปราการหลังตัวใหม่ในฤดูกาลหน้า จึงทำให้บรรดาแฟนคลับอาจเห็นถึงความไม่ลงตัว และหวังจะได้เห็นทีมรักคว้านักเตะฝีเท้าดีมาร่วมเสริมความแข็งแกร่งในฤดูกาลหน้าอาทิ มารูยาน เฟลไลนี และ ฟีล จากีลกา
กองกลางวัย 22 ปีจากแดนกระทิงดุ เป็นนักเตะรายล่าสุดที่ แมนฯยู คว้ามายืนคุมเกมในแดนกลาง อาจเข้ามาคลายความกังวลให้แฟนบอลที่กำลังเป็นห่วงในความไม่แน่นอนของทีมในขณะนี้ ท่ามกลางกระแสข่าวการแขวนสตั๊ดของ พอล สโคลส์ ยอดมิดฟิลด์แห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หลังจากจบฤดูกาลที่ผ่านมา มีการคาดการณ์ว่า ติอาโก จะสามารถเข้ามาแทนที่ตำแหน่งของกองกลางตัวเก๋ารายนี้ได้ โดยดาวรุ่งดวงนี้เป็นนักเตะหลากความสามารถ และทักษะเฉพาะตัวสูง ซึ่งสอดคล้องกับความผิดหวังของแฟนบอลถิ่น คาตาลัน ที่หวังว่าดาวเตะรายนี้จะมาเป็นอนาคต ในถิ่น แคมป์นู หลังจากยุคของ ชาบี เอร์นานเดซ และ อันเดรียส อิเนียสตา
ซิด โลว์ ผู้เชี่ยวชาญฟุตบอลสเปน ออกมากล่าวผ่านสำนักข่าว “อีเอสพีเอ็น” ว่า “นี่ถือเป็นความน่าตื่นเต้นสำหรับเขา เพราะเขาเป็นนักเตะที่มีความสามารถ นับเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อที่ บาร์เซโลนา ยอมปล่อยนักเตะรายนี้ออกจากทีม โดยที่แฟนบอลหลายคน คิดว่าเขาน่าจะได้มีโอกาสพิสูจน์ฝีเท้าอีกซักระยะ ซึ่งจะทำให้นักเตะรายนี้มีราคาค่าตัวที่สูงลิ่ว” หลังจากที่ ติอาโก มีโอกาสลงเล่นให้ บาร์เซโลนา เฉลี่ยแล้วไม่ถึง 30 นาที หรือ 60 เปอร์เซนต์ ต่อเกมในฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมค่าตัวของแข้งรายนี้ถึงอยู่ที่ 18 ล้านปอนด์ (ประมาณ 828 ล้านบาท) ทั้งที่มูลค่าในสัญญาการซื้อขายนักเตะรายนี้อาจพุ่งทะยานถึง 90 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,140 ล้านบาท)
โดย อ้างอิงจากสถิติในการจ่ายบอลในช่วงฤดูกาล 2012/13 จากการลงเล่นของ ติอาโก 27 นัด คิดเป็นเวลา 1,408 นาที จ่ายบอลไปทั้งหมด 1,760 ครั้ง โดยคิดเป็น 91.8 เปอร์เซนต์ และจ่ายบอลสำเร็จ 50 เปอร์เซนต์ ในขณะที่ เชส ฟาเบรกาส มีโอกาสลงเล่น 32 นัด คิดเป็นเวลา 2,321 นาที ส่งบอลได้ 2,262 ครั้ง โดยคิดเป็น 88.6 เปอร์เซนต์ และจ่ายบอลสำเร็จ 36 เปอร์เซนต์ ส่วน ชาบี เอร์นานเดซ ลงเล่น 30 นัด คิดเป็นเวลา 2,194 นาที ผ่านบอลได้ 2,886 ครั้ง โดยคิดเป็น 94.8 เปอร์เซนต์ และผ่านบอลสำเร็จ 24 เปอร์เซนต์ และ อันเดรส อิเนียสตา ลงเล่น 31 นัด คิดเป็นเวลา 2,093 นาที ผ่านบอลได้ 90.5 ครั้ง โดยคิดเป็น 90.5 เปอร์เซนต์ และ ผ่านบอลสำเร็จ 36 เปอร์เซนต์
ติอาโก เป็นนักฟุตบอลที่มีความสามารถเฉพาะตัวสูง และทำสิ่งที่เขาคิดให้เกิดขึ้นจริงได้ในสนาม และ ไมเคิล คาร์ริค กองกลางตัวรับของ แมนฯยู ถือได้ว่าเป็นกำลังหลักในเกมรับของทีม และมีส่วนช่วยตัดเกมในแดนกลาง ส่วนทางด้าน ทอม เคลฟเวอร์ลีย์ ก็เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่วางใจได้ในแนวป้องกันด้านริมเส้น จึงคาดว่าทั้งสามคนนี้จะสามารถประสานงานกันได้อย่างลงตัว และร่วมกันเติมเต็มเกมกลางสนามของ “ผีแดง” ให้สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
“เขาเป็นมิดฟิลด์ที่มีฝีเท้าและรูปแบบการเล่นที่ผสมผสานกันของทั้ง ชาบี และ อิเนียสตา โดยมีความสามารถในการเล่นฟุตบอลที่น่าทึ่ง เพียงแต่เขาต้องการเวลาที่ในการปรับเปลี่ยนและแก้ไขในจุดที่บกพร่อง ต้องยอมรับว่าเขาเป็นนักเตะที่มีทักษะและพรสวรรค์สูง อีกทั้งยังสามารถครองบอลได้ดั่งใจนึก รวมถึงมีจินตนาการในการเล่นฟุตบอล ซึ่งความสามารถทั้งหมดนี้ทำให้เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม ทั้งนี้อาจมีคำถามถึง ความสามารถที่น่าเหลือเชื่อของเขา ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นสิ่งที่ เป๊ป กวาร์ดิโอลา พยายามที่จะหาคำตอบในขณะที่มีโอกาสเข้ามาคุมทีม บาร์เซโลนา ซึ่ง เป๊ป ชื่นชอบ รูปแบบการเล่นทั้งการครองบอล และการจ่ายบอลของเขา” โลว์ กล่าวทิ้งท้าย
โดย อ้างอิงจากสถิติในการลงเล่นให้สโมสรในช่วงฤดูกาล 2012/13 ติอาโก ลงเล่น 27 นัด คิดเป็นเวลา 1,408 นาที สามารถพังประตูคู่แข่งไป 2 ประตู จากโอกาสเข้าทำ 17 ครั้ง ผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีมทำประตู 5 ครั้ง ในขณะที่ เชส ฟาเบรกาส ลงเล่น 32 นัด คิดเป็นเวลา 2,321 นาที สามารถพังประตูคู่แข่งไป 11 ประตู จากโอกาสเข้าทำ 19 ครั้ง ผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีมทำประตู 11 ครั้ง ส่วน ชาบี เอร์นานเดซ ลงเล่น 30 นัด คิดเป็นเวลา 2,194 นาที สามารถพังประตูคู่แข่งไป 5 ประตู จากโอกาสเข้าทำ 34 ครั้ง ผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีมทำประตู 8 ครั้ง และ อันเดรส อิเนียสตา จากการลงเล่น 31 นัด คิดเป็นเวลา 2,093 นาที สามารถพังประตูคู่แข่งไป 3 ประตู จากโอกาสเข้าทำ 35 ครั้ง ผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีมทำประตู 16 ครั้ง
ความน่าสนใจของดาวเตะรายนี้ที่แฟนๆ แมนฯยู ต้องหันมาจับตามอง คือสถิติในการลงเล่น โดยจากการลงเล่นในศึกลาลีกา สเปน ตลอดช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา โดยเฉลี่ยแล้ว เชส ฟาเบรกาส จะสามารถเลี้ยงบอลผ่านคู่แข้งได้ในทุกๆ 101 นาที ในขณะที่ ติอาโก มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 38 นาที ซึ่งทักษะของเขาจะคล้ายกับ แจ๊ค วิลเชียร์ (อาร์เซนอล) และ มุสซา เดมเบเล (ท็อตแนม ฮอตสเปอร์) ที่ยืนมิดฟิลด์ตัวกลาง แต่เลี้ยงพาบอลเจาะเข้าไปได้ดี รวมทั้งเป็นฟันเฟืองชิ้นสำคัญในการฉีกพื้นที่คู่ต่อสู้เพื่อเปิดโอกาสให้ทีมสามารถจบสกอร์ จากการปั้นเกมแดนกลาง และแน่นอนว่า ติอาโก อาจยังไม่ใช่ตัวเลือกของ มอยส์ ที่จะมายืนคุมเกมกลางสนามในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในระยะยาว และอาจต้องใช้เวลาอีกซักระยะในการปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบการเล่นของฟุตบอล อังกฤษ แต่จากผลงานที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นว่าเขามีความสามารถในการพัฒนาฝีเท้าให้เข้ากับรูปแบบการเล่นใหม่ๆได้เป็นอย่างดี แม้ว่าผลงานจะยังไม่โดดเด่นเท่าสองนักเตะอย่าง ชาบี และ อิเนียสตา
โดยอ้างอิงจาก สถิติการเข้าสกัดบอลในช่วงฤดูกาล 2012/13 ติอาโก ลงเล่น 27 นัด คิดเป็นเวลา 1,408 นาที เข้าสกัดบอล 43 ครั้ง ใช้เวลาในการเข้าสกัดบอลรวม 33 นาที มีจังหวะเข้าตัดเกม 36 ครั้ง ใช้เวลาในการเข้าตัดเกมรวม 39 นาที ขณะที่ เชส ฟาเบรกาส จากการลงเล่น 32 นัด คิดเป็นเวลา 2,321 นาที เข้าสกัดบอล 46 ครั้ง ใช้เวลาในการเข้าสกัดบอลรวม 50 นาที มีจังหวะเข้าตัดเกม 19 ครั้ง ใช้เวลาในการเข้าตัดเกมรวม 122 นาที ส่วน ชาบี เอร์นานเดซ จากการลงเล่น 30 นัด คิดเป็นเวลา 2,194 นาที เข้าสกัดบอล 13 ครั้ง ใช้เวลาในการเข้าสกัดบอลรวม 169 นาที มีจังหวะเข้าตัดเกม 22 ครั้ง ใช้เวลาในการเข้าตัดเกมรวม 100 นาที และ อันเดรส อิเนียสตา จากการลงเล่น 31 นัด คิดเป็นเวลา 2,093 นาที เข้าสกัดบอล 63 ครั้ง ใช้เวลาในการเข้าสกัดบอลรวม 63 นาที มีจังหวะเข้าตัดเกม 15 ครั้ง ใช้เวลาในการเข้าตัดเกมรวม 140 นาที
หากว่า แมนฯยู หวังเฟ้นหาดาวเตะดวงใหม่มายืนคุมเกมในแดนกลาง เชื่อว่า ติอาโก จะสามารถเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เข้ามาเติมเต็มเกมในแดนกลาง และมีส่วนช่วยให้ทีมจบสกอร์ได้มากกว่าช่วงที่ลงเล่นให้ บาร์เซโลนา ซึ่งทำผลงานไปได้เพียงสองลูกเท่านั้นในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามแข้งรายนี้ก็โชว์ผลงานยอดเยี่ยมในการเหมาแฮตทริก ในรอบชิงชนะเลิศศึก ยู-21 ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ทำให้เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าสามารถขึ้นมามีบทบาท และเติมเต็มเกมในแดนหน้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ
อย่างไรก็ตาม คาดว่า เดวิด มอยส์ กุนซือใหญ่แห่งรั้ว โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด พร้อมจะหยิบยื่นโอกาสให้ในการลงเล่นเป็นตัวจริงเพื่อพิสูจน์ความสามารถของแข้งรายนี้ในฤดูกาลหน้า โดยหากผลออกมาในแง่ร้าย “ผีแดง” ก็จะเปรียบเสมือนโรงเรียนที่จะมาเป็นส่วนช่วยพัฒนาฝีเท้าและประสบการณ์ของ ติอาโก ให้ดียิ่งขึ้นก่อนจะปล่อยแข้งรายนี้กลับสู่ถิ่น คัมป์นู แต่หากผลออกมาในแง่ดี พวกเขาอาจจะซื้อตัว ซุปเปอร์สตาร์ ที่จะเข้ามาเปลี่ยนเกมการเล่นของแมนฯยู ให้มีสีสันมากขึ้นในราคาที่ย่อมเยา